Thailand's Creative Art & Design Community

Season change @ Pang Oung (Season II)

เรื่อง/ภาพ : ชัยวัฒน์ ปัญญาวิริยกุล

“ย่างเข้าเดือนหกฝนก็ตกพรำๆ กบมันก็ร้องงึมงำ” แหม! ร้องเพลงแบบนี้ท่านผู้อ่าน

ก็รู้อายุหมดเลย บางคนบอกโอ้เพลงอะไรครับเน่ียเกิดไม่ทัน นั่นว่าเข้าไปนั่น ก็เป็นปรกติครับ เพราะน่ีก็ย่างเข้าหน้าฝนแล้ว เสียงสายฝนโปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย และก็ถึงเวลา ที่ผมจะได้ทำอย่างที่ตั้งใจไว้จริงๆ กับการมาครั้งที่ 2 กับ “ฤดูที่แตกต่าง ณ ปาง อุ๋ง”

ผมกลับมาอีกครั้งในเดือนสิงหาคม พร้อมกับสายฝนที่กระหน่ำลงมา ลองมาดูกันว่า

บรรยากาศในหน้าฝนท่ีปางอุ๋งจะสวยงามอย่างเดิมหรือไม่ อย่างไร

คราวนี้ขับรถมาเองเลยครับ 3 ชีวิตเช่นเดิม กลับมาเผชิญกับพันโค้ง (กว่าๆ ) จะดูซิ

ว่าจะอ๊วก หรือจะเมาอีกหรือเปล่า อืม! ดีขึ้นเยอะครับ เพราะคราวนี้ขับเองจึงไม่ค่อยรู้สึก

เท่าไหร่กับอาการ 2 โค้ง ครั้งนี้ผมกับน้องๆ ตั้งใจที่จะแวะเที่ยวเมืองปายก่อน 1 คืน อยากชิวๆ กับบรรยากาศถนนคนเดินซึ่งเป็นที่ล่ำลือกันว่าของขายเยอะแยะมากมาย ผู้คน ก็เยอะ (โดยเฉพาะสาวๆ 555) แต่ปรากฎว่าผิดหวังครับเหมือนเมืองร้าง ถนนคนเดิน ก็ไม่มีคนมาเดิน แม่ค้าก็ไม่มาขายของ แม้แต่ร้านอาหารต่างๆ ก็ไม่เปิดเช่นเคย คงเป็นช่วง

โลว์ซีซั่นกระมัง ทุกอย่างเลยปิดเพื่อซ่อมแซม รอรับการกลับมาอีกครั้งของนักท่องเที่ยว

ในช่วงฤดูหนาว กินแห้วไปกระป๋องใหญ่ แต่ก็ดีอยู่อย่างน่ะครับเพราะทุกอย่างก็จะราคาถูกลง ทั้งที่พักซึ่งเคยเป็นหลักพัน ก็จะเหลือแค่หลักร้อย แถบยังเป็นช่วงวันธรรมดายิ่งถูกลงไปใหญ่

ร้านอาหารก็ไม่ต้องรอคิว หิวก็ทานได้เลยมีลูกค้าอย่างมากไม่เกิน 3 โต๊ะ ได้ชิวจริงๆ ด้วย เพราะจะเงียบแบบเหมือนไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวเลย

พอสายๆ ผมก็ออกเดินทางมาปางอุ๋ง มาถึงเวลาประมาณเย็นๆ ก็เริ่มถ่ายรูป

เก็บบรรยากาศในฤดูฝนไปเรื่อย พอจะเริ่มถ่ายพระอาทิตย์ตก พระพิรุณก็มาโปรด โปรยปราย

น้ำฝนมาให้เราได้ชุ่มฉ่ำ เป็นอันว่าพระอาทิตย์ลากลับบ้านก่อนเวลาอันควรอีกแล้ว แต่ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบนึงของปางอุ๋ง หน้าฝนที่นี่อากาศเย็นสบาย ไม่ร้อน ไม่หนาว นั่งชมจันทร์ชิวๆ แบบสบายอารมณ์เลยทีเดียว และเหมือนเดิมมาหน้านี้ในวันธรรมดา

ก็ไม่ต้องโทรจองที่พักแต่อย่างใด ยังคงมีเรา 3 คนเท่านั้นที่ยึดหัวหาด ทั้งที่กิน ทั้งที่พัก

สบายหายห่วงเลยครับ

เช้านี้ผมกับน้องๆ ก็ตื่นกันแต่เช้า ด้วยความสบายๆ เนื่องจากไม่มีอาการ 2 โค้ง เหมือนครั้งที่แล้ว เลยเก็บบรรยากาศที่งดงามแบบสบายๆ มาคราวที่แล้วมีคนบอกว่า

ทำไมไม่ถ่ายหงส์มาเลยล่ะ อ้าว! จะรู้ไหมเนี่ยว่ามีหงส์ เชยจริงเลยเรา เที่ยวนี้เลยเน้นเลยครับ ถ่ายหงส์กันสนุกไปเลย เล่นเอาเมมโมรี่การ์ดผมหมดไปหลายกิ๊กเลยทีเดียว แถมมีมวยคู่เอกให้ดูอีกต่างหาก ระหว่างหงส์กับน้องหมาที่อยู่ที่นั่น เล่นกันอย่างสนุกสนาน ไม่มีใครยอมใคร พอหมาเข้าไปแหย่ หงส์ก็ไล่งับจนน้องหมาต้องวิ่งเตลิดไปหลายครั้ง หลายครา

หงส์คู่นี้เป็นหงส์ที่ได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนารถ มีทั้งหงส์ดำและหงส์ขาว หงส์ดำมีอยู่ 2 ชนิดด้วยกัน ชนิดแรกมีแหล่งกำเนิดอยู่ที่ออสเตรเลีย

และนิวซีแลนด์ ส่วนชนิดที่สองมีแหล่งกำเนิดอยู่แถบอเมริกาใต้

หงส์ เป็นสัตว์ปีกที่มีความสง่างาม เวลาว่ายน้ำชอบทำคอโค้งเป็นรูปตัวเอส มีขนสีดำ ทั้งตัว แต่จะมีขนสีขาวแซมอยู่ตามปีก ลูกตามีสีแดงและเด่นตรงปากที่มีสีแดงสด มีแถบ สีขาวตรงปลายปาก มีขาสีดำ ธรรมชาติของหงส์ดำนั้น จะมีนิสัยอยู่รวมกันเป็นฝูง อาศัยอยู่ตามแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ทะเลสาบ หนอง บึง ที่น้ำไม่ลึกมากนักเพื่อดำลงไปจับ สัตว์น้ำ หรือพืชเป็นอาหาร หงส์มีเสียงร้องเหมือนทรัมเป็ตมักร้องในเวลาตอนเย็นๆ หรือตามแสงจันทร์ในคืนเดือนหงาย ลักษณะของหงส์ตัวผู้จะมีลำตัวยาวกว่าหงส์ตัวเมีย เมื่อหงส์ดำถูกจับคู่แล้วมันจะรักและหวงแหนคู่ของมันไปตลอดกาล มิยอมเปลี่ยนคู่ง่ายๆ เป็นความรักที่น่าชื่นชมยิ่ง

หงส์ขาว Mute swan ลักษณะทั่วไปเหมือนหงส์ดำ แต่จะมีขนสีขาวทั้งตัว จงอยปากสีเหลืองส้ม มีปุ่มสีดำที่ฐานของปาก

น่าเสียดายอีกเช่นเคย ที่ไม่สามารถถ่ายหงส์ดำซึ่งเป็นคู่กันมาได้ เพราะเป็นช่วง

ของการฟักไข่ ซึ่งถ้าอีกตัวออกมาหาอาหาร อีกตัวก็จะเฝ้ารังเอาไว้ มิเช่นนั้นอาจจะถูก

สัตว์อื่นๆ มาขโมยไข่ไปได้ เอาล่ะ! คราวหน้าเราต้องไม่พลาดเป็นแน่แท้เจ้าหงส์ ณ ปางอุ๋ง

เป็นอย่างไรบ้างครับสำหรับฤดูฝน ผมว่าปางอุ๋งก็ยังคงเป็นปางอุ๋งที่ทุกคนใฝ่ฝันและ

ถวิลหาที่จะไปเที่ยวให้ได้สักครั้ง ถึงแม้จะมีฝนโปรยปรายมาตลอดก็ยังสวยงามแบบหน้าฝน

อยู่ที่ว่าเรานั้นรักที่จะเที่ยวแบบไหนมากกว่า อย่าลืมไปเที่ยวกันน่ะครับ “เที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยจะได้คึกคักน่ะครับ” แล้วเจอกันใหม่ใน Season III นะครับ

1. แพแตก ของที่เคยใช้งานอย่างหนักในฤดูท่องเที่ยว ก็ผุพังไป