อย่างไรก็ตามคินต้าจำรอยยิ้มบนปากสีแดงของแม่เมื่อพูดภาษาของชาวเดนิช
เธอมั่นใจว่า เด็กอายุไม่ถึงขวบเริ่มจำเสียงกรุ้งกริ้งตรงข้อเท้า
เมื่อตอนเริ่มหัดคลาน แม่เอากำไรที่เป็นทองใส่ให้เธอที่ข้อเท้าทั้ง2 ข้าง
มีกระดิ่งเล็กๆ



งานวิวาห์ของแม่แต่งตามประเพณี
ใช้ทองคำที่เจ้าสาวต้องสรวมเป็นสร้อยคอที่เรียกว่าทาโม และชุดเจ้าสาว
เป็นแบบของเทพลักษมี ของศาสนาฮินดู แต่ไม่ใช้ผ้าคลุมศรีษะ จะใส่ มงกุฏทอง
และมีเพื่อนเจ้าสาวแต่งตัวคล้ายกันมากมาย จัดงานตอนเช้าที่ชายหาดซานัวร์
ที่ถือว่าเป็นชายหาดที่สวยงามและเซ็กซีที่สุดของหาดบาหลี


เป็นโรงแรมขนาดเจ็ดดาว...







พ่อยังทำงานให้สายการบิน ก่อนจะตัดสินใจซื้อที่ดิน
ติดทะเลสาบ แม่หยุดงานตอนที่เธออยู่ในท้อง


และเมื่อคลอดคินต้า
ก็พาเธอเดินทางต่อไปอยู่เมืองไม่ไกลจาก โคเป็นฮาเก้น
..ที่หนาวเย็นตลอดแต่งดงามด้วยสิ่งแวดล้อม แม่ชอบไปสกีและบ้านไม้สนบนเขา
เสื้อโค้ตสีแดงเข้ากับสีลิปสติค...แดง


แม่มองเธอด้วยความนุ่มนวล
และพ่อบอกว่าแม่ช่างเหมือนกระต่ายป่าบนป่าสนเสียจริงๆ


แต่ทำไมคินต้าถึงต้องกลับมาบาหลี
..............สีขวบครึ่ง พ่อก็ยังขับเครื่องบินอยู่................


แม่ที่แสนสวยหายไป
ไหน>>>>>>>>>>....


Bali dream

มันแสนจะสับสนจริงๆ ว่าเราจำอะไรได้บ้างเมื่ออายุเท่าไร
พ่อแม่เริ่มเตรียมเพลงบรรเลงและแสนจะไพเราะให้ลูกตั้งแต่อยู่ในท้อง
และแม่แสนจะปลาบปลื้ม เมื่อส่วนแหลมๆของลูกมาตุงอยู่หน้าท้อง และแม่จับได้
พร้อมร้องกรี๊ดลั่น

ให้พ่อมาจับบ้าง มันเป็นเรื่องเล่าหรือจริง
ว่าเหมือนจะเป็นสัญญาณของการมีชีวิต
ที่เด็กในท้องจะเริ่มส่งสัญญาณเหมือนผีเสื้อขยับปีก พ่อเริ่มมีอาการแพ้ท้อง
มีผื่นขึ้นตรงหน้า และคลื่นไส้จนต้องพักการขับเครื่องบิน...

คงเป็นสาเหตุที่พอหาทางมาอยู่ใกล้ๆแม่ นั่นเอง

แม่ล่ะ กลายเป็นแม่แสนจะแจ่มใสมีน้ำหนักตัวขึ้นเล็กน้อย
แต่แม่กลับแต่งตัวเก่งขึ้นมาก พ่อเล่าอย่างนั้น
และไม่เคยแพ้เครื่องสำอางหรือน้ำหอม
และเป็นโอกาสดีแม่ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์น้ำหอม Kinta-Bali..

และตั้งชื่อลูกว่าคินต้า

และต่อมาแม่ก็ได้เดินทางไปรอบโลกด้วยสัญญาของนางงาม ที่ได้มงกุฎ
และแต่งงานกับพ่อทันที่เมื่อ1 ปีหลังหมดสัญญา การแต่งงานแม่ก็ทำเงินได้อีก
เพราะเป็นพรีเซ็นเตอร์ของโรงแรม และสายการบิน ................
แม่ ทิศยาวตี ทุกคนเรียกเธอว่า a touch of
gold.....................................................



ภาพชุดแต่งงานที่ชายหาดซานัวร์ ผ้าไหมบาติกสีทอง ปลิวไสวทั่ว ชายฟ้า
ความรู้สึกมันอยู่ที่ว่า ทำไมภาพของแม่มาปรากฏอยู่ในความรู้สึกของคินต้า
...พ่อไม่ได้เล่า ยายไม่ได้เอ่ย

แต่รูปวาดและรูปถ่าย เมืองทั้งเมือง รู้จักแม่ของเธอหมด ..



พ่อในความรู้สึกรักของคินต้า คือเป็นอะไรที่อยากสัมผัสและบอกว่ารัก นักบินจะอยู่ในชุดสีขาวและสมาร์ท
และดวงตาสี ฟ้า ชายชาวเดนิช ทีตกหลุมรัก สาวงามบาหลี
เป็นสุภาพบุรุษทุกกระเบียดนิ้่ว การเดินทางจากเมืองที่ผู้คนมีประมาณ5
ล้านคน และมีคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งอาหารการกินและความเป็นอยู่
รวมทั้งความคิดที่ก้าวไกลและเป็นระบบ เขาศึกษาบาหลีมาพอสมควร
ชายฝั่งที่ทำมุมหลบเลี่ยงกับคลื่นยักษ์ ทั้งจาก
สุลาเวสี และสุมาตรา

ท้องทะเลสงบสวยงามและเงียบงัน มีดอกรัก สีม่วงคราม และสีขาวเบจ อ่อนหวาน
แต่ต้นแข็งแกร่ง ชื่อตามท้องถิ่นว่าิมินูริ....ผลิช่ออิ่งก้านใบ
รับลมทะเลแรง ที่มีคลื่นยักษ์ไว้เล่นวินเซอร์ฟได้ตลอดปี อย่างไร้พิษภัยที่
คูต้าบีช..




อย่างน่าประหลาดใจ แม่ไม่ได้ประทับใจดอกลีลาวดีที่นำมาทัดผม
ที่ยาวสยายเลยบั้นเอวที่คอดกิ่ว
ดวงตาของแม่มองหา ความหมายของชีวิต ที่แสนไกลและหนาวเ็ย็น กว่าที่คาด ไว้
แม่พบรักใหม่กับ ชายมหาเศรษฐีชาวเดนมาร์คที่มีบ้านและเวิ้งทะเล
ที่ใช้ล่าปลาวาฬ
หลังจากล่องเรือไปดูแนวฟยอร์ดด้วยกันแถบสแกนดิเนเวีย.......และบอกว่าเป็น
เรื่องของธุรกิจน้ำหอม



แต่เลือดปลาวาฬ มันคาวคลุ้งในความรู้สึกของพ่อ

ชีวิตเราเดินสวนทาง พ่อบอก แม่พูดภาษอังกฤษได้ไม่มากนักในขณะที่พ่อพูดได้ดี
แม่เงียบกริบ....
ดวงตาของแม่เหมือนคนตกหลุม
รัก>>>>>>>>>>>>>และน้ำหอมคินต้า
บาหลี ทำยอดขายในยุโรปถล่มทะลาย

เฮ็นริค สไมล์ ชื่อพ่อของเธอ










โคเป็นฮาเก้น ,เป็นเมืองหลวงที่ค่อนไปทางเหนือ มีสนามบิน เป็นสนามบินหลักของสายการบิน
สแกนดิเนเวียน แอร์ไลน์ ได้รับความไว้วางใจจากผู้โดยสาร
โดยได้รับเลือกให้เป็นสนามบินที่ดีที่สุดในทวีปยุโรป ติดต่อกันมาหลายปีแล้ว
และเป็นสายการบินที่สดวกในการมีตารางการบิน สู่เอเชีย

เดนมาร์กเป็นเมืองแห่งเทพนิยาย พ่อเรียกคินต้าว่า Little Mermaid
โอวววว.... เงือกน้อยของ นักเขียนนิทาน
ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์สัน ที่ยื่งใหญ่
ที่เรียกว่าเทพนิยาย คินต้าเข้าโรงเรียนเด็กเล็ก
ฟังนิทานจนคิดว่าเป็นเรื่องจริง.............
ก็ดีนะที่พ่อไม่เรียกเธอว่า ลูกเป็ดขี้เหร่ เพราะุคุณฮันส์
ก็เป็นคนเขียนเรื่องนี้ด้วยนะ ประเทศเดนมาร์ก มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
มีพระบรมมหาราชวัง อันโอ่อ่า และเป็นที่ประทับของพระมหากษัติย์
ชื่อพระราชวังอมาเลียนบอร์ก (AMALIENBORG PALACE)

และที่นี่ก็มีท่าเรือ DFDS เป็นเรือสำราญ สู่กรุงออสโล ของประเทศนอร์เวย์
ที่คนเดินทางไปดูพระอาทิตย์เที่ยงคืนกันไงล่ะ และยังมีประติมากรรม
วัฏจักรชีวิตผลงานของกุสตา ฟ วิคเกอร์แลนด์ (Gustav Vigerland)
ประติมากรชาวนอรเวย์ ที่ใช้เวลาสร้างรวม 22 ปี ด้วยผลงานกว่า 1,620 ชิ้น
ชมผลงานชิ้นเอกที่สูงถึง 5.5 ฟุต ชื่อ Monolitten และรูปหล่อสำริด ชื่อ
Angry Littleboy อันถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของกรุงออสโล


และยังมีพิพิธภัณฑ์ เรือไวกิ้ง (Viking Ship Museum)
บรรพบุรุษของชาวสแกนดิเนเวียที่มีชื่อเสียงทางด้านการรบและการเดินเรือ
ชมเรือไวกิ้งที่สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ.850 แต่ยังคงเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี
รวมถึงเครื่องมือเครื่องใช้ในสมัยนั้น
เช่นดาบไวกิ้งจอมสลัดแห่งทะเลเหนือที่เดินทางด้วยเรือไปทั่งโลกรวมทั้ง
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต่อไปยัง ประเทศฟินแลนด์ ตอนเหนือของ ประเทศนอรเวย์
ผ่านเมืองลัคเซลว์ (LAKSELV) และเมืองคาฟยอร์ด (KAFIORD)
ผ่านชมทิวทัศน์อันสวยงามแปลกตาที่เต็มไปด้วยป่าไม้และหนองบึงธรรมชาติ
แล้วเดินทางลอดอุโมงค์ใต้ทะเลสู่เมืองฮอนนิ่งสแวก(HONNINGSVAG)
ดินแดนแห่งพระอาทิตย์เที่ยงคืน( Midnight sun)



จะเห็นว่าเดนมาร์ก น่าอยู่มาก ไปถึงเมืองสำคัญทางเหนือของยุโรปได้หม


แต่ไม่นานนักโครงการรีสอร์ตที่คินตามณีของพ่อเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง
พ่อบอกเธอว่า จะไม่ยอมให้เธอทนหนาวเหน็บที่นี่ต่อไป และเดินทางกลับมาบาหลี

และจำโรงเรียนแห่งที่สอง ได้ดี ชื่อไพเราะมาก อุมาร่า
อินเตอร์เนชั่นแนลสคูล เป็นทุ่งนากว้าง ด้านหลังเป็นภูเขาไฟ ชือ บาร์ตู
มีทะเลสาบ บาร์ตู โวลคาโน
ที่เผลอๆก็ยังมีควันไฟออกมา และทุ่งนาก็เปลี่ยนสีไปตามฤดูกาล ฝนตก
หรือหน้าแล้ง มีต้นข้าว มีซางข้าว


รูปนี้พ่อวาดให้คีต้า สัปดาห์แรกๆที่มาบาหลีเป็นรูปที่เธอขี่ม้าไปทัวร์ปล่องภูเขาไฟ


และเป็นรูปที่คินต้าชอบมาก แต่ก่อนหน้านั้น
เธอเห็นรูปวาดของพ่อที่วาดรูปสาวๆสวมชุดสีทอง ริมชายหาดตอนเช้า
รูปชื่อwedding in Bali

พ่อบอกว่างานวาดของตะวันออกเป็นอะไรที่รวดเ็ร็ว
เหมือนความร้อนของดวงอาทิตย์ ที่มีเสน่ห์ขึงขัง.....

ความหนาวของยุโรปเป็นอะไรที่น่าเบื่อมาก

และลูกก็จะมีความสุขกับสิ่งแวดล้อม ที่ออกไปข้างนอกได้ ทุกวั


ชื่นชมกับสายลม เสียงคลื่น ยื้มรับกับตะวัน

และสุขภาพดี

และเพียงไม่กี่เดือน พ่อก็เริ่มปลูกบ้านหลังแรก
มุมเชิงเขามีทุ่งนา และที่น่าประทับใจ มีสระว่ายน้ำทรงเลข8 ให้เธอด้วย


ถ้าเป็นเดนมาร์กคีต้าจะต้องมีสระว่ายน้ำในร่ม






บ้านที่ทำมุมกับภูเขาไฟแม้แต่ตอนว่ายน้ำ
โรงเรียนที่ชื่ออุมาร่าก็เช่นเดียวกัน

ถ้าภูเขาไฟจะลุ้นระทึกขึ้นมา


เรายังจะว่ายน้ำไหวไหม???
คีต้าใช้ภาษาของพ่อที่ใช้บ่อยๆถามซึ่งหมายความว่าภูเขาไฟระเบิด....


พ่อยิ้ม.............พ่อเลือกเป็นนักบิน เพราะ
เราต้องรู้สึกดีกับสภาพแวดล้อมที่เป็นไปตามธรรมชาติ และปล่อยธรรมชาติให้
เป็นไป



เราจะควบคุมสิ่งที่เราประดิษฐ์ขึ้นมาเท่านั้น

และเราก็จะไม่กลัว อะไร ที่เกินไป...............








บาหลีมีอะไรที่สวยทั้งน้ำทั้งฟ้าเลยทีเดียว


ดอกรักบานที่บาหลี
คนท้องถิ่นที่นั่นเรียกดอกรักว่า...มินูริ

ดอกไม้ที่ต้นเเข็งแกร่ง รับลมทะเล กรรโชกตลอดเวลา



KUTA Beach Bali Indonesia


พ่อ เฮ็นริค สไมล์ ใช้วิธีมาเยี่ยมเธอบ่อยๆ และต่อมาก็แลกไฟลท์มาบินทางเอเชีย และรับเธอกลับบ้าน
อุมารากับคินตามณีไม่ไกลนัก ถนนเรียบมีทุ่งนาและแบคกราวน์เป็นแนวเขาเตี้ยๆ
และที่สูงขึ้นไปเป็นภูเขาไฟ บาร์ตูที่ตอนนี้เงียบสนิท

เรามีรถใหม่ เป็นไฮบริดคาร์ สีขาว พ่อยิ้ม 'เราต้องดูแล สิ่งแวดล้อม
...อากาศสะอาดๆอย่างบาหลี หายากในโลก ..นี่เป็นสาเหตุที่ชาวยุโรป
มีความสัมพันธ์ กับประเทศอินโดนีเซียและย้ายมาอยู่ที่นี่กันมานานมาก ...

และใช่ คินต้าพบว่านอกจากอากาศจะอุ่นสบาย เธอไม่ค่อยไอหรือจามหรือเป็นไข้



และอีกอย่าง ที่นี่มีแพชชั่นฟรุต ซื้อได้ตรงริมทาง
รสชาดไม่เปรี้ยวมาก และกลิ่นดีมาก อร่อยกว่าน้ำส้ม วิตามินซีสูงมาก



และครัวชาวเดนิชก็จะมีชื่อเรื่องขนมปังของยุโรปที่มีไส้เป็นผลไม้ต่างๆ
ที่เป็น แบรี่ ...ราสแบรี..สตรอแบรี่
แครนแบรี่..

ไม่น่าเชื่อพ่อทำขนมปังได้ด้วย และหอบ ปลาซาลมอนรมควันใส่กระเป๋ามาด้วย
คินต้ามีช็อกโกแลต มาฝากเพื่อนๆมากมาย...ไวท์และ ฮาเซลนัท..แมคคาเดเมียนัท

ดวงตาสีฟ้างดงามของพ่อ มองเธออย่างหยอกล้อ คินต้าแขนขายาว ผิวสีแทน
ตาสีน้ำตาล ผมยาวสีน้ำตาล

ลิตเติ้ลเมอเหมด จากเอเชีย>>>>หน้าตาตลกเหมือนมาจากต่างดาว...



เธอเริ่มพูดหลายภาษา กับพ่อ เธอใช้ ภาษาอังกฤษ กับเดนิช


นอกจากที่ดินเชิงเขาบาร์ตูพ่อได้ซื้อที่ดินแถวอุมารา อีก 500 เอเคอร์
ไม่ไกลนักจากโรงเรียนอินเตอร์ที่คินต้าเรียนอยู่ รอบๆนั้นก็ยังเป็นทุ่งนา
พ่อบอกว่าจะดีสำหรับคนแก่ชาวยุโรปที่กลัวภูเขาไฟ ทะเลสาบ
และโวลคาโนที่คินตามณีจะดีสำหรับคนหนุ่มสาวที่ต้องการผจญภัยและต้องการความ
ตื่นเต้นสุดขีดของชีวิต

งานของพ่อก็จะไม่ต่างจากการขับเครื่องบิน พ่อจะมาทุกครั้งเมื่อคินต้า
รู้สึกแว้บๆ แอบคิดถึง เธอมีแมคบุค ส่งข้อความให้พ่อที่อาจจะบินอยู่บนฟ้า
แต่พ่อก็จะตอบมาทุกครั้ง เมื่อมีโอกาส

และระยะหลังพ่อจะกลับมาพร้อมกับเพื่อนนักธุรกิจ จากยุโรป
ที่มาอยู่ที่บาหลีแต่ละครั้งนานเป็นเดือน
คินต้าได้ติดตามพ่อไปยังโรงแรมต่างๆ
แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าโรงแรมชื่อดังๆทั่วโลก ปลูกริมทะเลติดต่อกันเต็มไปหมด





เริ่มจากหาด คูต้าบีชที่ใช้เล่นวินเซิร์ฟ อ่าวบีนัวร์ หาด ซานัวร์
จิมบาราน แคนดิดาซา จนถึงชายหาดโลวินา
หรือใจกลาง การค้า
และทำเฟอร์นิเจอร์ที่เรียกว่าอูบุด เฟอร์นิเจอร์ที่นี่ชาวยุโรปมาทำไม้ที่
อินโดเนเซียมาออกแบบ ตู้เตียงโต๊ะ
ส่งออกเป็นนับร้อยปีแล้วเช่นกัน รวมทั้งงานศิลปรูปวาดที่เรียกว่ากลุ่ม
ศิลปินอุบุด และเป็นที่พำนัก ของศิลปินอิสระนักวาดรูป
ทั้งชายหญิงทั่วโลกมาทำชื่อเสียงไว้ มากมาย


ความคิดของพ่อแปลกเหลือเกิน
พ่อกลับคิดว่า บาหลีน่าอยู่มาก
ต่างจากแม่ที่เกิดที่บาหลีแต่มีเหตุผลส่วนตัวที่

แม่เลือกตัวเอง และเลือกที่จะ มีชื่อเสียง แม่ไม่เคยแม้แต่จะส่งข่าวกลับมา
แม้ว่าแม่จะขอเลิกกับพ่อ แต่แม่มีเหตุผลอันใด
ที่ทำเหมือนกับจะหายไปจากชีวิตของคินต้าไปเลย
ไม่เคยแม้แต่จะมาเยี่ยมเยือนหรือถามข่าวคราว...

แม่ก้มีการศึกษาดี เรียนศิลปการแสดงของ มหาวิทยาลัย คินต้าจำได้แ่ม่จะยิ้ม
และพูดจาไพเราะ แต่งตัวดี

และเมื่ิอแม่สรวมโสร่งบาติค กับเสื้อคว้านที่แขน แม่จะดูดีมาก รอยยิ้ม
เสียงหัวเราะ ดูสนุกสนานและอบอุ่น

รูปถ่ายของแม่ และงานต่างๆของแม่ที่แสดงแบบ ช่างเป็นสัญญลักษณ์ของตะวันออก
ที่ดูดีไม่รู้คลาย

มีคนเก็บรูปแม่ เป็นคอเล็คชั่น น้ำหอมก็ออกมาหลายแบบ
คินต้าเก็บรูปแม่ไว้ในแมคบุค โลกของข้อมูลข่าวสาร

แม่ ไม่เคยหายไปจากชีวิต และความหวัง ว่าแม่คงคิดถึง เธอบ้าง

และแม่น่าจะรู้ว่าเธอมาใช้ชีวิตที่บาหลี เหมือนแม่ตอนเด็กๆ
พูดภาษาบาหลีกับยาย เหมือนแม่เคยทำ แต่ที่เธอทราบ
แม่ไม่เคยติดต่อยายมาเช่นกัน ไม่เคย เลยหลังจากหย่ากับพ่อไปแล้ว
แปลกมา่กพ่อกับสนิทกับยาย
และให้ยายมาอยู่เดนมาร์ก กับ คินต้าในฤดูร้อน หลายครั้ง



พ่อดูแลยายเหมือนแม่ของตนเอง และพยายามคุยกับคุณยายให้เข้าใจ
และและเรียนรู้และยอมรับกับวิธีปฏิบัติแบบชาวฮินดูที่บาหลี เช่นการเซ่นไหว้
ด้วยกระทงดอกไม้ หน้าบ้านและรอบบ้าน






และคุณยายทำอาหารอินโดได้เลิศมากๆ พ่อพาคุณยายไปดูรูปปั้นเดอร์กา
(พระอุมา)ที่คุณยายนับถือและเป็นพระเจ้าที่เรียกว่า ที่เนชั่นแนล มิวเซียม
ที่เดนมาร์ก และวาดรูปเดอร์กา
ที่สวยมากเป็นของขวัญให้คุณยายตอนไปเดนมาร์คครั้งที่สอง











Views: 464

Comment

You need to be a member of PORTFOLIOS*NET to add comments!

Join PORTFOLIOS*NET

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service