โอหังวาจาผู้นำอิสราเอล

เมื่อใดก็ตามที่มุสลิมพูดถึ
งเรื่อง การปลดปล่อยปาเลสไตน์และ การเกิดขึ้นอย่างผิดกฎหมาย ของรัฐอิสราเอล มุสลิมจะถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ต่อต้านชนชาติเซไมท์(Anti-Semitic) แต่มุสลิมปฏิเสธเรื่องนี้โดยสิ้นเชิงเพราะว่าอิสลามเป็นศาสนาที่พระเจ้าประทานมายังมนุษยชาติทั้งหมด สิ่งที่มุสลิมปฏิเสธก็คือลัทธิไซออนิสต์ ที่อยู่ในรูปของรัฐ อิสราเอลและ มุสลิมทั่วโลกก็คัดค้านการยึดครองปาเลสไตน์โดยรัฐอิสราเอล

รัฐอิสราเอลถูกก่อตั้งขึ้นบนแผ่น ดินที่ถูกยึดไปโดยการใช้ก ำลังและการขับไล่ผู้คนทั้งมุสลิม และคริสเตียนออกจากบ้าน เกิดเมืองนอนของพวกเขา นี่คือความอธรรมที่อิสลามไม่อาจยอมรับได้โดยไม่คำนึงว่าคนทำผิดจะมีเชื้อสาย เผ่าพันธุ์อะไร ในปาเลสไตน์ อิสลามมีความขัดแย้งกับอิสราเอลมิใช่เพราะความเป็นชนชาติยิวที่เคยอาศัยเคียงข้างกันมากับมุสลิมอย่างสันติสุขเป็นเวลานับร้อยศตวรรษ แต่อิสลามขัดแย้งกับอิสราเอลใน ฐานะผู้รุกรานและผู้ยึดครอง

ประวัติศาสตร์ยืนยันความจริงว่า ชาวยิวได้เคยอยู่อาศัยกับมุสลิม ภายใต้ร่มธงของอิสลามมา เป็นเวลาถึง 13 ศตวรรษ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ชาวยิวมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีเช่นเดียวกับมุสลิม ชาวยิวได้รับสิทธิ ความเจริญรุ่งเรือง ความสุข ความสงบและความมั่นคงปลอดภัยเช่นเดียวกับมุสลิม ทุกคนอยากเห็นภาพเช่นนี้คงอยู่ ต่อไป แต่ดูเหมือนว่าคงจะเป็นไปไม่ได้ เสียแล้ว เพราะผู้นำอิสราเอลได้แสดงความ เกลียดชังมุสลิมอย่างไม่เคย ปิดบังและได้เรียก ร้องให้มีการทำลายล้างมุสลิมมาตั้งแต่เริ่มต้นซึ่งจะเห็นได้จากคำพูดของพวก ผู้นำอิสราเอลดังต่อไปนี้

นายเดวิด เบกูเรียน นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล ระหว่างปี 1949 -1963

เบนกูเรียน กับ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ที่โลกยกย่องกันนักหนาว่า รักสันติภาพ...(หากไม่ไช่เบนกุเรียน นายกคนเเรกของยิวก็จะเป็นไอน์สไตน์ เพราะเขาเป็นคนเเรกที่ถูกเสนอตำเเหน่ง เเต่ปฏิเสธไป)
ขณะอยู่ในสภา(สังเกตรูปผู้ก่อตั้ง ด้านหลัง ธีโอเดอร์ เฮอเซล นายคนนี้ล่ะเคยติดสินบน สุลต่าน อับดุลฮามิด 2(Abdulhamid ll) ให้ยกฟาลีสฏีนให้ยิว เเต่พระองค์บอกปัดไป โดยเน้นย้ำว่าตราบใดที่อุษมานียะฮฺยังอยู่ ฟาลิสฏีนก็ไม่มีวันอยู่ในมือยิว)

“เราจะ ต้องขับไล่พวกอาหรับและยึดแผ่น ดินของพวกมัน” (David Ben Gurion,1937, Ben Gurion and the Palestine
Arabs, Oxford University Press,1985.)

“เราจะต้องใช้การก่อการร้าย การลอบสังหาร การข่มขู่ การยึดที่ดินและการตัดบริการทางสังคมเพื่อขจัดประชากรอาหรับออกไปจากกาลิลี” (David Ben Gurion, May 1948, to the General Staff. From Ben Gurion, A Biography, by Michael
Ben-Zohar, Delacorte, New York 1978.)

“หมู่บ้านยิวถูกสร้างในบริเวณของ หมู่บ้านอาหรับ พวกท่านไม่รู้แม้แต่ชื่อของหมู่บ้านอาหรับและผมก็ไม่ตำหนิพวกท่าน เพราะหนังสือภูมิศาสตร์ไม่มีแล้ว ไม่เพียงแต่ไม่มีหนังสือเท่านั้น หมู่อาหรับยังไม่มีอยู่ที่นั่นอีกด้วย นะฮ์ลาลเกิดขึ้นในบริเวณของมะฮฺลุล กิบบุทซ์จีวาทเกิดขึ้นในที่ของญิบตา กิบบุตซ์ซาริดในที่ของฮุเนฟีส์ และเกฟาร์ เยฮูชัวเกิดขึ้นในที่ของตัลอัล ชุมาน ไม่มีสถานที่ใดสักแห่งเดียวที่ ถูกสร้างในประเทศนี้โดยที่ไม่ มีประชากรอาหรับ อยู่ก่อน” (David Ben Gurion, quoted in the Jewish
Paradox, by Hahum Goldmann, Weidenfeld and Nicolson, 1978 p.99)

“ขอเราอย่าเพิกเฉยต่อความจริงใน หมู่พวกเรา....ทางการเมือง เราเป็นผู้รุกรานและพวกเขาป้อง กันตนเอง....ประเทศเป็นของพวก เขา เพราะพวกเขาอาศัยอยู่ที่นั่นใน ขณะที่เราต้องการมาที่นี่และ ตั้งถิ่นฐาน และพวกเขาเห็นว่าเราต้องการที่จะยึดประเทศไปจากพวกเขา” (David Ben Gurion, Quoted on pp. 91-92 of Chomsky’s Fateful Triangle, which appears in Simha Flapan’s “Zionism and
Palestinians pp.141-142 citing a 1938 speech.)

“ถ้าหากมีผู้รู้ว่าจะสามารถช่วย ชีวิตเด็กๆทั้งหมดของเยอร มันได้โดยการย้ายพวกเขาไปที่ อังกฤษและเพียงครึ่งหนึ่งโดย การย้ายพวกเขาไปยังแผ่นดิน อิสราเอล ผมก็จะเลือกอย่างหลัง เพราะสำหรับเรามิได้อยู่ที่จำนวนของเด็กเหล่านี้ แต่อยู่ที่การนับทางประวัติศาสตร์ ของชาวอิสราเอล” (David Ben Gurion, quated on pp 855-856 in Shabtai
Teveth’s Ben Gurion)

...................

นางโกลดา แมร์ นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล ระหว่างปี 1969-1974

อหังการผู้นำหญิงคนเเรกของยิว

“เราจะคืนดินแดนที่ยึดครองมาได้อ ย่างไร ? ไม่มีใครที่จะได้รับคืนดินแดนเหล่า นั้นแล้ว” (Golda Meir, March 8,1969)

“ใครก็ตามที่พูดเห็นด้วยกับการ นำชาวอาหรับผู้อพยพกลับ จะต้องพูดด้วยว่าเขาจะต้องรับผิดชอบมันอย่างไรถ้าเขาสนใจในรัฐอิสราเอล มันเป็นการดีกว่าที่จะพูดกันให้ ชัดเจนตรงๆกันไปเลยว่าเรา จะไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้น” (Golda Meir, 1961, in a speech to the Knesset, reported in Ner, October
1961)

“ประเทศนี้เกิดขึ้นตามที่พระเจ้า ได้ทรงสัญญาไว้เอง เป็นเรื่องน่าขำที่จะมาขอให้รับผิดชอบในเรื่องความชอบธรรม” (Golda Meir, Lemonde, 15 October 1971)

...................

นายยิตซ์ฮัก ราบิน นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล ระหว่างปี ค.ศ.1974 -1977,
1992 -1995



“เราเดินอยู่ข้างนอก เบนกูเรียนไปกับเราด้วย แอลลอนทวนคำถามของเขาว่าจะทำอย่างไรกับชาวปาเลสไตน์ ? เบนกูเรียน โบกมือแล้วพูดว่า “ไล่มันออกไป” (นายยิตซ์ฮัก ราบิน ปล่อยคำพูดของนายราบินที่ถูกเซ็นเซอร์ ออกมาและถูกตีพิมพ์ใน New York Times 23 October 1979)

“อิสราเอลจะสร้างเงื่อนไขที่ดึง ดูดการอพยพโดยธรรมชาติและ โดยสมัครใจของผู้อพยพจากฉนวน กาซาและฝั่งตะวันตกถึงจอร์แดน ในอีก 10 หรือ 20 ปีข้างหน้า เพื่อที่จะบรรลุถึงเป้าหมายนี้ เราจะต้องตกลงกับกษัตริย์ฮุสเซน ไม่ใช่ยัสเซอร์ อะเราะฟัต” (Yitzhak Rabin “Prince of Peace” by Clinton’s standard
ซึ่งอธิบายถึงวิธีการฆ่าล้า
งเผ่าพันธุ์ ดินแดนที่ถูกยึดครองโดย ที่โลกไม่เอะอะโวยวาย New York Times,04/04/1983

...................

นายเมนาเฮม เบกิน นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล ระหว่าง ค.ศ.1977 -1983

หมอนี้ เป็นอดีตหัวหน้ากลุ่มยิวหัวรุน เเรง "อีรกุน" เป็นกลุ่มยิวหนุ่มสาว ที่เคลื่อนไหวใต้ดิน เเละสังหารหมู่ชาวฟาลีสฏีน ที่หมู่บ้านดีร์ ยาซีน
พร้อมหน้าพร้อมตากับ เเรบไบ หรือ นักการศาสนายิว ที่อยู่เบื้องหลังคำสอนพิลึกพิลั่นในคัมภีร์ "ตัลมูด" เเละเเนวคิดรุนเเรงทั้งหลาย

“พวกปาเลสไตน์ก็เหมือนกับสัตว์ ที่เดินสองขา” (คำพูดในสภาคเน็สเซทของอิสราเอล อ้างใน Ammon Kapeliouk, “Begin and the Beasts”, New Statesman, June 25,1982.)

“การแบ่งแยกปาเลสไตน์เป็นสิ่งที่ ผิดกฎหมาย มันจะไม่เป็นที่ถูกยอมรับ.....เยรูซาเล็ม เคยเป็นและจะเป็นเมือง หลวงของเราตอลดไป เอเรทซ์ อิสราเอลจะถูกนำกับมายังประชาชนของอิสราเอล ทั้งหมดและตลอดไป” (นายเมนาเฮม เบกิน กล่าวหลังจากสหประชาชาติลงมติให้แบ่งแยกปาเลสไตน์)

...................

นายยิตซ์ฮัก ชามีร์ นายกรัฐมนตรีของอิสลาม ระหว่าง ค.ศ. 1983 -1984,
1986 -1992



“บรรดาผู้นำขบวนการของเราในอดีต ได้บอกเราไว้เป็นการชัดเจน ให้รักษาเอเรทซ์อิสราเอล จากทะเลถึงแม่น้ำจอร์แดนเพื่อประชากร ในอนาคต สำหรับชาวยิวที่อพยพและสำหรับชาว ยิวซึ่งทั้งหมดจะมารวมกัน ในประเทศนี้” (นายยิตซ์ฮัก ชามีร์ ประกาศที่งานรำลึกถึงอดีตผู้นำพรรคลิคุดในกรุงเทลอาวีฟผ่านทางวิทยุท้องถิ่น ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.1990)

“การตั้งถิ่นฐานแผ่นดินอิสราเอล เป็นแก่นสำคัญของลัทธไซออ นิสต์ หากไม่มีการตั้งถิ่นฐาน เราก็ไม่ได้ทำให้ลัทธิไซออนิสม์ประสบความสำเร็จ” (Yitzhak Shamir, Maariv, 02/21/1997)

“พวกชาวปาเลสไตน์จะถูกทำลายเหมือน กับตั๊กแตน....หัวกระแทก หินและกำแพง” (นายยิตซ์ฮัก ชามีร์ พูดกับชาวยิวที่ตั้งถิ่นฐาน New York Times, April 1,1988)

...................

นายเบนจา มิน เนทันยาฮู นายรัฐมนตรีของอิสราเอล ระหว่าง ค.ศ.1996 – 1999


“อิสราเอล น่าจะใช้ช่วงเวลาที่โลกใจจดใจ จ่ออยู่กับการปราบปรามการประท้วง ในจีนทำการขับไล่ชาวอาหรับ ขนานใหญ่ออกจากดินแดน” (นายเบนจามิน เนทันยาฮู พูดกับนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยบาร์อิลาน จากนิตยสาร Hotam ของอิสราเอล November 24, 1989.)

...................

นายเอฮุด บารัก นายรัฐมนตรีของอิสราเอล ระหว่าง ค.ศ. 1999 -2001


“พวกปาเลสไตน์ก็เหมือนกับจระเข้ ยิ่งให้อาหารก็ยิ่งต้องการมากขึ้น” (Ehud Barak, Jerusalem Post, August 30,2000)

“ถ้าเราคิดว่าชาวปาเลสไตน์จะตาย สักสองพันคนแทนที่จะได้รับ เคราะห์ สักสองร้อยคนแล้วทำให้การต่อสู้ จบเพียงคราวเดียว เราก็จะใช้กำลังมากกว่านี้....” (Ehud Barak, Associated Press, November 16,2000.)

“ผมอาจจะเข้าร่วมองค์กรก่อการร้าย” (เอฮุด บารัก ตอบนาย ไกดิออน เลวี(Gidion Levy)
นักเขียนคอลัมน์หนังสือพิมพ
์ Haretz เมื่อเขาถูกถามว่าเขาจะทำอะไร ถ้าเขาเกิดเป็นชาวปาเลสไตน์)

...................

นายแอเรียล ชารอน นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล ระหว่าง ค.ศ.2001 -2005


“เป็นหน้าที่ของผู้นำอิสราเอลทุก คนที่จะอธิบายให้แก่ประชา ชนอย่างชัดเจนและกล้าหาญถึง ความจริงบางอย่างที่ได้ถูกลืม ไปกับกาลเวลา ความจริงประการแรกก็คือไม่มีลัทธิไซออนิสม์ การล่าอาณานิคมหรือรัฐยิวหากไม่ มีการไล่ชาวอาหรับออกไปและ การยึดที่ดินของคนพวกนี้” (นายแอเรียล ชารอน ขณะที่เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศกล่าวในที่ประชุมของนักรบขวาจัดจากพรรคซอเมต, Agence France Press, November 15,1998)

“ทุกคนจะต้องเคลื่อนไหว วิ่งและยึดเนินเขาให้มากที่สุดเพื่อที่จะขยายถิ่นฐานชาวยิวเพราะทุกสิ่งที่เรายึดมาตอนนี้จะเป็นของเรา ทุกสิ่งที่เราไม่ยึดจะเป็นของพวก เขา” (นายแอเรียล ชารอน กล่าวในที่ประชุมของนักรบขวาจัดจากพรรคซอเมต, Agence France Press, November 15,1998)

“อิสราเอลมีสิทธิ์ที่สร้างความ เดือดร้อนให้คนอื่นได้ แต่แน่นอน ไม่มีใครมีสิทธิ์ที่จะสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวยิวและรัฐอิสราเอลได้” (Ariel Sharon, 25 March 2001, BBC News Online)

ป.ล.เป็นรัฐบุรุษคนหนึ่ง ตอนนี้นอนทรมานอยู่บนเตียง ไม่สามารถขยับตัวได้
รายงานทางวิทยุของอิสราเอลก
ล่า วว่า เขามีชีวิตอยู่ด้วยเครื่องช่วย หายใจ... ในโลกอาหรับมีการรณรงค์ดุอา ว่า ขออัลลอฮฺอย่าให้เขาตายโดยง่าย ขอให้เขาทรมาน เเม้เขาอยากตาย ก็จงอย่าได้ให้ตาย ....

เขาคือฆาตกรมือเปื้อนเลือดสำหรับ มุสลิม เเต่สำหรับประเทศอิสราเอลเเล้ว เขาคือรัฐบุรุษ ใครจะให้ไปกันง่ายๆ ทุกวันนี้ เขาไม่สามารถตายได้
เพราะเครื่องช่วยหายใจจะส่ง
สัญญาณ ทุกครั้ง เมื่อเขาเริ่มกลั้นหายใจ ... ข้อมูลเพิ่มเติมนะคับ

...................

บทความโดย>> รุ่งอรุณ อิสลาม

Views: 900

Comment

You need to be a member of PORTFOLIOS*NET to add comments!

Join PORTFOLIOS*NET

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service