ตื่นตอนเช้า....ทำอะไรเป็นอย่างแรก ^^

สำหรับฉันด้วยวัยที่เลยล่วงมาถึงปูนนี้ ...

สิ่งแรกที่ทำคือส่องกระจก ดูหน้าตัวเองก่อนเลย วันนี้แก่ขึ้นเพิ่มมาอีกวัน

แล้วก็ยิ้ม อ้อ ยังๆ ยังไม่ชัดเท่าไหร่ (ตีนกา) 5 5 5

แล้วก็ทำนู่นี่นั่นเรื่อยๆ เปื่อยๆ ตามประสา

ถ้ามีใครหลงเข้ามาอ่าน อิอิ

คือก็แค่อยากจะเล่าว่า หลังจาก อุบัติเหตุ ในวันนั้น ทำให้ชีวิตหลังตื่นนอนของฉันเปลี่ยนไป

.

.

ทำไมน่ะหรอ ???

.

อยากรู้จริงป่ะเนี่ย ^^

.

.

ตั้งแต่วันนั้น พอฉันตื่นขึ้นมา สิ่งแรกที่ฉันจะทำไม่ใช่ส่องกระจก เพื่อสำรวจริ้วรอยบนใบหน้า

แต่ฉันกลับรีบจ้องมองไปที่นิ้วโป้งเท้าข้างขวาของฉันอย่างตั้งใจและใกล้ชิด เฝ้ามองเท้าเรียวๆ

นิ้วเท้าที่เหี่ยวๆ อย่างมีความหวัง จากนั้น ฉันค่อยเริ่มทำทุกอย่างตามปกติ

มันคงถึงเวลาแล้วสินะ เท้าของฉัน อาจจะเรียกร้องความสนใจจากฉันก็เป็นได้

เค้าอาจจะ งอน ที่ตลอดเวลา .... ปี (อันนี้ไม่บอกดีกว่า) ฉันให้ความสนใจแต่ใบหน้า

มากกว่าเท้าน้อยๆ ที่แสนจะบอบบางของฉัน ^^

(อ่านถึงตรงนี้มีใครแอบ คลื่นไส้บ้าง รีบไปหาหมอซะนะเป็นห่วง 5 5 5)

ขอจบก่อนได้มั้ย เด๋วค่อยมาเล่าต่อ ดูเวลา เลยสี่ทุ่มแล้ว ^^

.

.

เล่าต่อนะ .....................................

.

.

เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ฉันได้มีโอกาสไปบวชเนกขัมมะ ที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี

ฉันไปปฏิบัติธรรมเป็นเวลาสี่วัน สามคืน ในคืนสุดท้าย ฉันรู้สึกอินมากๆ ในใจคิด

เลื่อมใสในพระสงฆ์ สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ซึ่งปฏิบัติดีแล้ว แค่ท่านนั่งขัดสมาธิโดยไม่ขยับเขยื้อนเลย

แค่นี้ก็น่าทึ่งมากๆแล้ว ฉันนั่งไม่ถึง 15 นาที ก็เป็นเหน็บชาแล้ว ทรมานแต่ก็ต้องอดทน

พระท่านสอนว่า ให้เราอดทนเพื่อกำหนดรู้ วันหน้าถ้าเราเกิดความเจ็บป่วยจะได้พิจารณาเป็น

และฉันก็ได้นำมาปรับใช้ได้รวดเร็วจริงๆ ^^

.

คืนสุดท้ายหลังจากทำวัตรเย็นและต่อด้วยการนั่งสมาธิอย่างตั้งใจที่สุดของฉัน

(ไม่ขยับเลยเป็นเวลา 1 ชั่วโมง รู้สึกเหมือนขาแข็งเป็นหิน 5 5 5)

ฉันเดินกลับหอ(ที่พัก)ขณะนั้นเป็นเวลาสี่ทุ่มแล้ว ฉันเดินใจลอย

คิดไปว่า ฉันสามารถอยู่ที่วัดไปตลอดชีวิตได้ ฉันทานข้าวมื้อเดียวได้

ฉันไม่อยากสวยก็ได้ ฉันอยู่วัดได้แน่ๆ และฉันจะกลับมาอีกและอยู่ที่นี่ตลอดไป (สงสัยตอนนั้นจะอินมาก)

ทันใดนั้นเองฉันมัวแต่คิดไม่ทันระวังก็ไปเตะแผ่นไม้เข้า เล็บเปิดขึ้นมาประมาณ 90% ของเล็บ

ฉันรู้สึกว่ามีเลือดซึมๆอยู่ ทุกคนต่างมามุงดู ที่เท้าของฉัน และแสดงสีหน้าตกใจ

เป็นห่วงกลัวว่าฉันจะเจ็บ จริงๆฉันก็ไม่เจ็บมากมายเท่าไหร่ แต่ฉันมีแต่ความกลัว กลัวแผลติดเชื้อ

กลัวจะต้องเสียขา เพราะแค่แผลที่นิ้วโป้วเท้าเล็กน้อยเท่านั้น มีคนบอกว่าจะปฐมพยาบาลให้ ฉันยิ่งกลัว

และตัดสินใจให้เพื่อนขับรถพาไปหาหมอ โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด และดีที่สุด (ไปปฏิบัติธรรมเงินก็ไม่ได้ติดตัวไปมาก)

.

เมื่อไปถึงที่โรงพยาบาล ทุกคนยกมือไหว้พวกเราและเรียกว่าแม่ชี (ก็ไปทั้งชุดบวช แต่เราเป็นเนกขัมมะไม่ใช่แม่ชีนะ)

หมอฉีดยาชา และ ถอดเล็บของฉันออก มีแต่คนคิดว่าฉันเจ็บมากๆ แต่ฉันไม่ค่อยรู้สึกเท่าไหร่

ฉันก็รู้ตัวว่าเจ็บ แต่ว่า มันไม่มากมาย ไม่รู้ว่าที่ฉันกำหนดรู้แบบที่พระท่านสอน มันคือแบบนี้รึป่าว

สรุปก็คือไม่เห็นเจ็บตรงไหนเลย แต่ยังไงก็ขอบคุณยาชา ^^

ถึงเวลาที่ต้องจ่ายเงินแล้วสิ เพื่อนโทรตามเพื่อนอีกคนมาจ่ายเงินค่ารักษาให้ก่อน อิอิ

.

จากนั้นฉันก็กลับวัด เพราะว่าวันรุ่งขึ้นถึงจะลาบวชได้

เหตุการณ์นี้เองที่ทำให้ฉันรู้ตัวเองว่า ฉันไม่สามารถที่จะบวชตลอดชีวิตได้

เมื่อฉันบาดเจ็บแค่เล็กน้อย ฉันไม่สามารถรักษาตามอัตภาพได้

ฉันกลัว เล็บที่ขึ้นใหม่จะไม่สวย กลัวแผลติดเชื้อ ฉันคิดถึงแต่โรงพยาบาลที่ดีที่สุด

แพงแค่ไหนก็ไม่สน หลังจากวันนั้น ฉันไปล้างแผลที่โรงพยาบาลแถวบ้านทุกวัน

ฉันต้องนั่งรถเข็นเพราะเจ็บแผลเดินไม่สะดวก (สงสัยยาชาจะหมดฤทธิ์แล้ว)

หมอบอกฉันว่าอีกหกเดือน เล็บฉันถึงจะขึ้นเต็มและได้รูปสวยเหมือนเดิม

ฉันถามหมอว่าฉันใส่เล็บปลอมได้มั้ย ฉันไม่มั่นใจเลย

ห้ามใส่เล็บปลอม ห้ามใส่รองเท้าผ้าใบ รองเท้าแบบปิดทุกชนิด จนกว่าเล็บจะขึ้นเต็ม นี่เป็นคำแนะนำของหมอ

หลังจากที่ถอดผ้าพันแผลออกแล้ว ในทุกๆวันที่ฉันตื่น สิ่งแรกที่ฉันทำคือฉันจะจ้องมอง นิ้วเท้าเหี่ยวๆ น่าเกลียดๆ ของฉัน

และหวังว่ามันจะเหมือนเดิม ฉันคิดถึงรองเท้าส้นสูงคู่สวยที่ฉันพึ่งจะซื้อมา เมื่อไหร่จะได้ใส่นะ

เล่ามาซะยาวเหมือนมาบ่นๆ มากกว่า อิอิ

.

.

สรุปก็คือ ฉันก็เป็นผู้หญิงธรรมดาๆ ที่ยังไม่ปลงกับสังขารนอกจากจะไม่เที่ยงแล้วยังมีความเสื่อมเป็นธรรมดาอีกต่างหาก ^^

ขอบคุณเพื่อนที่เป็นห่วงซื้ออาหารเสริมมาให้กิน ตอนนี้เล็บขึ้นมา 20% แล้ว จากที่เฝ้าดูเหมือนไม่มีวี่แววว่าจะงอกออกมา

อยากจะฝากถึงผู้หญิงทุกคน เล็บเท้าควรตัดให้สั้นๆ ถึงแม้ว่าจะดูไม่สวยแต่ก็ทำให้คุณปลอดภัยนะจ๊ะ

Views: 211

Comment

You need to be a member of PORTFOLIOS*NET to add comments!

Join PORTFOLIOS*NET

Comment by Huit on June 16, 2010 at 1:05am
จุดเตา ต้มน้ำ ชงชา
Comment by Muikondee on March 25, 2010 at 7:16pm
จุดธูปหรอคะ คุณ duryodhana เหอ เหอ
Comment by Huit on March 25, 2010 at 2:34pm
แล้วหลังจากนั้นก็จุด..ซะตัว โอยเริ่มจะฉดชื่น!
Comment by Huit on March 25, 2010 at 1:23am
มองดูเวลาก่อนเลย
Comment by sujitra ji on March 8, 2010 at 11:07am
ลืมตา พร้อมกับคำถาม ยังมีชีวิตเหรอเนี่ย!!!
Comment by Chronos on March 7, 2010 at 11:19pm
มะเช้าตื่นมาดูกระเป๋ากล้องอีกแล้วครับ
Comment by marsfia472 on March 7, 2010 at 11:09pm
====ร่างกาย คือ ไม่มี
ทุกสิ่ง คือ ว่างเปล่า
Comment by littledream' on March 5, 2010 at 5:08pm
ใครจะมาดูนิ้วเท้าเธอ เดี๋ยวมันก็งอกเหมือนหางจิ้งจกอ่ะแหละ
โฮะๆๆๆ
Comment by Sodasa on March 4, 2010 at 12:37pm
ตื่นเช้ามาดู Massage ที่ทอสับแล้วก็คิดว่าต้องไปทามงานอีกแล้วหรอ?...เฮ้อ...อ้อขอเปงกะลังใจให้หัวนิ้วโป้งเท้าและเล็บอันสวยงามให้กลับมาไวๆน้าคั๊บ
Comment by San888 on March 3, 2010 at 8:12pm
ลืมตาขึ้นมา พร้อมคำว่าเหงา
กี่คราวที่ใจ ต้องทนอ่อนไหว

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service