...

ส่วนตัวผมนะครับ ต้องยอมรับเลยว่า มีชีวิตที่ดีทุกวันนี้ได้ เพราะห้องสมุด

ผมโตมาในครอบครัวข้าราชการ ที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไรเลย เงินทองไม่ได้เยอะ

แต่โชคดีที่คุณแม่ผมพาเข้าห้องสมุดประชาชน จังหวัดเพชรบูรณ์ น่าจะตั้งแต่จำความได้

แรกๆ ผมก็อ่านหนังสือภาพ พอเข้า ป.1 ผมก็อ่านหนังสือวรรณกรรมแล้ว แล้วการอ่านก็ติดเป็นนิสัย

...

ผมอ่านสามก๊ก อิเหนา ล่องไพร เพชรพระอุมา ลูกอีสาน ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน สิ่งมีีชีวิตที่เรียกว่าคน

และอื่นๆ อีกมากมาย จนหมดตั้งแต่มัธยมต้น และทั้งหมดนี้ผมไม่ได้เคยซื้อเลย ยืมห้องสมุดตลอด

...

พอเข้ามัธยมปลาย ผมเป็นรุ่นสุดท้ายของการสอบเอนทรานซ์ เข้ามหาวิทยาลัย

ในขณะที่เพื่อนๆ พากันไปร้านหนังสือ ซื้อหนังสือเตรียมสอบเยอะมาก เป็นตั้งๆ

ผมกลับไม่ต้องเสียเงินสักบาท แต่สามารถฝึกทำข้อสอบย้อนหลัง 10 ปีได้ทุกวิชา

และด้วยพระคุณของห้องสมุดทั้งหลาย ในเพชรบูรณ์ ที่ทั้งสะอาด มีหนังสือครบ และบรรยากาศที่เหมาะสม

ก็สามารถทำให้เด็กคนหนึ่งในวันนั้น มีอนาคตที่ดีในวันนี้ #ขอกราบ

...

มาถึงในยุคนี้ ส่วนตัวผมถ้ามีเวลาว่าง ก็ยังชอบเข้าห้องสมุด แม้ขับรถผ่านก็จะมอง

ถามว่า ผมปรารถนาจะให้ห้องสมุดเป็นอย่างไร พื้นฐานเลยนะครับ

สิ่งที่มีอยู่ก็ควรมีต่อไป เช่น ความสงบ หนังสือที่ครบและอัปเดทเรื่อยๆ ความสะอาด บริการที่เป็นกันเอง

ผมบอกตรงๆ ว่า ผมชอบบรรยากาศของห้องสมุดประชาชนจังหวัดเพชรบูรณ์ พอๆ กับ TK Park

ประเด็นคือ ความเป็นพื้นฐานที่เรียบง่ายของห้องสมุด มีความสำคัญพอๆ กับความทันสมัย

...

 ซึ่งสิ่งที่ผมอยากให้มีเพิ่ม โดยแนวคิดในแนว Ubiquitous ซึ่งความเป็นห้องสมุดน่าจะปรากฏอยู่ทุกที่ ทุกเวลา

 ปัจจุบันยอดขาย Teblet แซง Notebook ไปแล้ว ศักยภาพของเครื่องมือ ที่จะเข้าถึง E-Book ของผู้คนนั้นมีแน่นอน

 ถ้าห้องสมุดสักแห่ง สามารถจัดระบบการสมัครสมาชิก (ซึ่งเสียเงินก็ยินดี) แล้วสามารถเข้าไปอ่านหนังสือต่างๆ ได้

 ผ่าน App ที่ต้องพัฒนาขึ้น หรือ ผ่านหน้าเว็บ ผมก็คิดว่า มันน่าจะเข้าท่ามากๆ

 ...

 ผมเสนอแนะว่า ปัจจุบันมี App ต่างๆ ทั้งจาก Google app หรือ พวกตระกูล Clound ซึ่งมีคนใช้กันเยอะมาก

 ห้องสมุด น่าจะศึกษาเรื่องนี้ และนำไปใช้ได้ฟรี (ม.ขอนแก่น เด่นเรื่องนี้มาก)

 ...

 สรุปคือโลกทั้งใบ มุ่งเข้าสู่  Online Service ครับ

*** ภาพถ่ายนี้ ผมถ่ายที่ หอสมุด มหาวิทยาลัยบูรพา บางแสน