“เลิกทาส”
สุดที่รักจ๋า เมื่อใดที่ดวงตาของฉันกระทบเข้ากับรูปของเธอ
จักษุวิญญาณก็เกิดให้เห็นเสน่ห์ขนาดเบ้อเร่อ
ฉันคลั่งไคล้หลงใหลในตัวของเธอเหลือเกินจ้ะ
มันช่างเย้ายวนชวนให้ประทับใจยิ่ง รู้ไหมจ๊ะ
โอ้...เธอจ๋า เยี่ยงนี้แล้ว จะมิให้ฉันหลงเธอได้อย่างไร
ยิ่งยามที่ฉันได้สัมผัสเธอ
อายตนะทั้งหกของฉันก็พลันยินดีผายออกอย่างบานตะไท
ทั้งรูปของเธอ รสของเธอ กลิ่นของเธอ เสียงของเธอ
ฉันดั่งตกอยู่ในดินแดนแห่งบุปผชาติงามสดใส
ฉันจึงสุดแสนยินดีที่ได้ถลำลึกลงไปในผัสสะ
สุดที่รักจ๋า เมื่อใดที่ดวงตาของฉันถูกพรากไปจากรูปของเธอ
เมื่อนั้นไฟแห่งความคิดและอารมณ์อันฟุ้งซ่านก็ค่อยค่อยก่อตัวขึ้น
เธออยู่ที่ไหน เธออยู่กับผู้ใด เหตุใดเธอจึงมาห่างเหิน
โอ้...เธอหนอเธอ ไยมาทำให้รัก ไยมาทำหลง
จนฉันต้องรู้สึกโกรธ เกลียด และกล่าวโทษเธอเป็นลำดับ
ฉันวิตกกังวล ฉันหึงหวง
ฉันไม่รู้สึกตัวเลยว่าได้ถูกล่อลวง
ฉันตกเป็นทาสของตัณหา จึงเกิดมีอุปทาน
เฮ้ย! อ้ายโง่เอ๋ย
มึงนั่นแล มิต้องเหลียวหาผู้ใดให้เสียเวลา
กูคือสมาธิ กูพาเกลอสติมา
เพื่อทำให้มึงเกิดมีสัมปชัญญะ และเกิดมีปัญญา
จักได้พิจารณาช่วยแก้ปัญหาให้แก่มึง
เฮ้ย! อ้ายโง่เอ๋ย มึงนั้นหลงอยู่ในตัณหา
เพราะไม่รู้ว่าจะควบคุมสัญชาตญาณอย่างสัตว์ได้อย่างไร
มึงต้องรู้จักซักซ้อมขัดเกลาจิตใจให้บ่อยเข้าไว้
มึงต้องรู้จักใช้ดาบแห่งปัญญาฟันตัณหาให้ขาดฉับ จักได้หายโง่
สุดที่รักจ๋า
เมื่อใดที่ดวงตาของฉันกระทบเข้ากับรูปของเธอ มันก็มักเกิดเวทนาพึงพอใจ
เมื่อใดที่ฉันได้สัมผัสเธอ มันก็มักเกิดสุขเวทนาครอบงำจิตใจ
เมื่อตั้งเป็นสมการอย่างวิทยาศาสตร์แบบง่ายง่าย
จักได้ ตา+หู+จมูก+ลิ้น+กาย+ใจ = ตัณหาอันมาพัวพันจิตนั่นแล
ฉันตกเป็นทาสของมัน
ฉันตกเป็นทาสอย่างโง่ เพียงเพราะไม่รู้ให้เท่าทัน
บัดนี้แจ้งแล้ว เพราะมีเกลอสมาธิ สติ สัมปชัญญะ และปัญญา มาช่วยเหลือกัน
ฉันจึงมองเห็นหนทางแห่งการเลิกตกเป็นทาสของตัณหาได้พลัน
ฉันดีใจที่มีเกลอคอยกระตุกเตือน
เฮ้ย! อ้ายโง่เอ๋ย มึงเอาอีกแล้วนะ
มึงอย่าให้กูต้องเตือนมึงบ่อยบ่อยนักสิวะ
อ้ายห่าเอ๋ย..
**********
Tags:
© 2009-2025 PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.
Powered by