Replies to This Discussion

Permalink Reply by JOJOEFAH on September 5, 2010 at 1:33pm

ในความเหงาที่เราว่ารุนแรง ยังมีอีกหลายๆความเหงาที่รุนแรง และเศร้ากว่าเราเยอะ

ขอบคุนค่ะ มีกำลังใจขึ้นมาเยอะเลย

Permalink Reply by KAI DYLAN on September 5, 2010 at 6:19pm

เหงาได้ แต่อย่าเหงานานเนาะ เหงานานๆมันจะกลายเป็นหงอย และจิตใจก็จะพลอยห่อเหี่ยว ไร้ประโยชน์
ยิ้มๆดีกว่าครับ โลกนี้ยังมีสิ่งดีๆให้เราได้ทำเพื่อคลายความเหงาอีกมากมาย
โดยเฉพาะทำสิ่งที่ดีและมีประโยชน์ทั้งต่อตนเองและสังคม ^^

Permalink Reply by KAI DYLAN on September 5, 2010 at 6:23pm

ผมเองก็เคยมีปัญหากับเรื่องของความรู้สึกความเหงามาเก่าก่อน ในสมัยยังเอ๊าะๆน่ะ ตอนนี้ก็ยังเอ๊าะอยู่นะ (ฮา)
ในตอนนั้นความรู้สึกเหงามันเข้ามาครอบคลุมกัดกินหัวใจจนแทบที่จะบ้าคลั่ง
มันเหงามากยิ่งนัก เหงาจนทนไม่ไหวอีกต่อไป
จึงอยากที่จะแสวงหาคำตอบ ว่าทำไมคนเราจึงต้องเหงา? (ด้วยวะ!)
แท้ที่จริงแล้วคนเราเหงาด้วยเพราะสาเหตุใดกัน? (วะ!!!)

พอเริ่มใช้สติสัมปชัญญะ ละความคิดที่ว้าวุ่นต่างๆลง แล้วบรรจงใช้ปัญญาคิดหาคำตอบ
สิ่งที่สติและปัญญามอบคำตอบมาให้ ก็คือ เป็นเพราะว่าคนเราคิดมากจนเกินไป
คิดจนฟุ้งซ่าน ไม่มีกิจกรรมที่ดีงามและเป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคมให้ทำ
ดังนั้นจึงมีเวลาว่างอย่างมากมายจนน่าเกลียด ด้วยเพราะไม่รู้ว่าจะทำอะไรให้สำราญหัวใจ
ความคิดอันฟุ้งซ่านจึงค่อยๆคืบคลานเข้ามาทักทาย และก็ล่วงล้ำเข้ามาเกาะกุมภายในจิตใจ
สุดท้ายก็เกิดเป็นความเบื่อหน่าย กังวล งุนงง เศร้า และเหงาอ้างว้างในท้ายที่สุด

สาเหตุของความเหงา อันที่จริงมันก็เกิดมาจากความคิดอันไร้สาระและฟุ้งซ่านของคนเรานี่เอง
และเจ้าตัวความคิดอันฟุ้งซ่านนี่แหละ เป็นตัวการที่ก่อให้เกิดเป็นความทุกข์ใจ

ผมถามและตอบตัวเองได้ดังนี้ ตั้งแต่นั้นมาจึงเลิกเหงา
เพราะผมมีกิจกรรมที่มีความสุขสำราญใจให้กระทำอยู่อย่างมากมาย
จึงไม่มีว่างให้ได้เหงาอีกต่อไป ส่วนเพื่อนๆท่านใดที่กำลังเหงาอยู่
ก็ตื่นรู้เสียทีเถิดหนา แล้วหัวใจก็จะสดใส ปัญญาก็จักสว่างไสวด้วยประการฉะนี้แล... (' v ')/