ความรักของผมเกิดขึ้นในวันหนึ่งกลางฤดูร้อน มันเป็นรักครั้งแรกและครั้งเดียวสำหรับผม แม้มันเพียงชั่วระยะเวลาสั้น ๆ และไม่เร่าร้อนเหมือนคู่อื่น
แต่มันก็เป็นรักแรกที่สุดแสนประทับใจ ความรัก...
ที่ทำให้ผมไม่อยากให้ลมหายใจสุดท้ายของผมหลุดลอยไป...
1.
ผมชื่อไมค์ครับ ผมอาจจะไม่หล่อเหลามากมายนัก แต่ก็มีเชื้อสายต่างประเทศกับเขาเหมือนกันนะครับ แม่ผมน่ะสวยแบบสาวไทยแท้
ส่วนพ่อก็เป็นลูกผู้ดีมีตระกูล พ่อผมน่ะหล่อขนาดได้รับรางวัลจากการประกวดมาแล้วมากมาย
แต่ด้วยความต่างทางชนชั้น ความรักของแม่เลยถูกกีดกัน เหมือนนิยายน้ำเน่าไม่มีผิด
นี่แหละครับที่เค้ามักบอกว่าชีวิตจริงน่ะมันยิ่งกว่านิยาย
ทุกครั้งที่แม่เล่าเรื่องพ่อให้ฟัง ตาของแม่จะแจ่มใส เป็นประกาย ผมว่าแม่คงรักพ่อมาก
แต่สำหรับผม ไม่รู้สิ ผมไม่เคยแม้แต่จะเห็นหน้าพ่อนี่นา
การจะทำใจให้รักคนที่เราไม่เคยเห็นคงจะลำบาก ตอนเด็ก ๆ แม่เคยพาผมไปยืนดักรอพ่อที่หน้าบ้านพ่อเหมือนกัน
แม่อยากให้ผมได้เห็นพ่อสักครั้ง แต่ผมก็ไม่เคยเห็นแม้แต่เงาของพ่อ หรือแม้แต่คนในบ้านนั้น
มีแต่ลุงยามที่คอยออกมาไล่ผมกับแม่ ทำไมเค้าถึงรังเกียจเรานักนะ
พวกผู้ดีก็อย่างนี้แหละ ชอบคิดว่าตนอยู่สูงกว่าคนอื่น
ช่างมันเถอะ สมัยนี้ใคร ๆ ก็เป็นแบบผมทั้งนั้น แม่ผมน่ะจัดอยู่ในประเภท
Single
mom เพื่อน ๆ ผมเองก็น้อยนักที่จะอยู่กันพร้อมหน้าครอบครัว
แม่ผมเลี้ยงผมได้ ไม่จำเป็นต้องพึ่งใคร ผมไม่แคร์หรอก ไอ้ครอบครัวสมบูรณ์แบบน่ะ
แต่ท้ายที่สุด แม่ก็จากผมไป แม่ตายในค่ำคืนหนึ่ง ท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บ แม่กอดผมไว้เพื่อให้ผมอบอุ่น
ในขณะที่แม่หนาวจนสั่น ผมรับรู้ได้จากอกอุ่น ๆ ที่สั่นเทิ้มของแม่ ผมอุ่น
แต่แม่หนาวจนขาดใจ
หลังจากแม่ตายชีวิตผมก็เรื่อยเปื่อย ชิว ๆ วัน ๆ ก็เดินปากเปราะหลีหญิงไปทั่ว
แต่ผมไม่เคยมั่วนะครับ แม่สอนว่าของแบบนี้ มันมีเวลาของมัน เมื่อถึงเวลาของผม
ผมจะรู้ได้ด้วยตัวเอง ซึ่งก็จริงอย่างแม่ว่า เพราะถึงแม้น้องแตงกวาสาวท้ายซอยจะยั่วยวนผมสักเท่าไหร่
แต่ผมก็ไม่เคยมีอารมณ์ร่วมไปกับเธอ มีบ้างบางครั้งที่ผมเผลอไผลไปกับอาการส่ายสะโพกเชิญชวนของเจ้าหล่อน
แต่มันก็เท่านั้นแหละครับ มันยังไม่ถึงเวลาของผม ผมท่องคำแม่สอนไว้เสมอ
ผมมักจะไปนั่งประจำอยู่ที่ร้านป้าติ๋มปากซอย ป้าติ๋มแกเป็นคนใจดี อยู่ตัวคนเดียว ไม่มีลูก ผัวแกก็ทิ้งแกไปนานแล้ว
อาจเป็นเพราะอย่างนี้ก็ได้ แกจึงเอ็นดูผมมาตั้งแต่ผมยังเล็ก เมื่อแม่ตาย
ผมก็มีแกนี่แหละเป็นที่พึ่ง แกมักจะให้ข้าวผมกินฟรีอยู่เสมอ
ผมเองก็รักและเคารพแกมากเช่นกัน
พล่ามมามากแล้วเข้าเรื่องความรักของผมดีกว่า ในที่สุด ผมก็ตกหลุมรักผู้หญิงคนหนึ่ง เธอชื่อ “น้องอิม” เมื่อแรกพบเธอ
ผมรู้ได้โดยทันทีว่า เวลาของผมมาถึงแล้ว ฮอร์โมนเพศในร่างกายผมเริ่มทำงาน
อวัยวะส่วนที่บ่งบอกว่าผมเป็นเพศผู้เริ่มมีปฏิกิริยาแปลก ๆ
แบบที่มันไม่เคยเป็นมาก่อน
โอ้... น้องอิมของผม น้องอิม...
2.
น้องอิมของผม เธอสวย น่ารัก ขาว หมวย พิมพ์นิยมของผมเลยครับท่าน เราพบกันในเช้าวันหนึ่งต้นเดือนเมษายน ขณะที่ผมนั่งเล่นอยู่ที่ป้ายรถเมล์ปากซอย
น้องอิมครับท่าน เธอเดินมารอรถเมล์ที่ป้ายที่ผมนั่งอยู่พร้อมเพื่อน
ๆ ของเธอ เธอสวยบาดตาบาดใจมากสำหรับผม สวยเด้งหลุดออกมาจากกลุ่มเลยครับ ใบหน้าของเธอช่างน่ารักซะ
ประสาทสัมผัสทุกอณูในตัวผมตื่นตะลึง
น้องอิมของผม เธอเหมือนนางฟ้าที่เดินลงมาจากสวนสวรรค์ ให้ผมได้ยลโฉม เธอเดินใกล้เข้ามา
ใกล้เข้ามา โอ้ย!
หัวใจผมเต้นแรงมากเลยครับเพื่อน
ๆ เธอหยุดนั่งลงที่เก้าอี้รอรถใกล้ ๆ ผม
กลิ่นของเธอช่างหอมยิ่งนักเมื่อลมโชยพัดผ่านเธอมาแตะจมูกผม ยิ่งเวลาเธอหันมายิ้มให้ผม
คุณเอ๊ยใจผมแทบละลายเลย เธอเป็นสาวสวยคนแรกที่หันมายิ้มให้ผม
นับตั้งแต่ผมเริ่มเป็นหนุ่มขึ้นมา สายตาของเธอไม่ได้มีท่าทีรังเกียจผมเลย
ผมตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกพบ แม่เคยบอกผมว่า อาการแบบนี้เค้าเรียกว่า Love at first sight ซึ่งแม่กับพ่อก็รักกันเพียงแรกเห็นเช่นกัน ผมพยายามสงบสติอารมณ์ไว้
เพราะเธอดูต่างกับผมราวฟ้ากับเหวนรก ผมไม่อยากเป็นเหมือนแม่ แม่เคยสอนผมให้เจียมตน อย่าหมายปองของสูง
เพราะมันไม่มีวันเป็นไปได้ แต่เมื่อผมเห็นน้องอิม คำพูดของแม่ที่คอยสอนผม มันค่อย
ๆ หายไปจากความทรงจำ
การพบกันครั้งแรกระหว่างผมกับน้องอิมจบลงแค่นั้น เราไม่ได้พูดคุยกันเลยสักคำ และเธอก็คงไม่รู้ว่าผมรู้สึกอย่างไรกับเธอ
เธอเดินขึ้นรถเมล์สายที่เธอรอและจากผมไปพร้อมกับเพื่อน ๆ ของเธอ
เธอหันมายิ้มให้ผมอีกครั้งก่อนก้าวขึ้นรถ แต่เพื่อน ๆ
ของเธอสิทำท่าขยะแขยงราวกับผมเป็นเศษขยะ แต่ผมก็เข้าใจพวกเขานะครับ ใคร ๆ
เห็นผมก็คงทำเช่นเดียวกับพวกเขา เนื้อตัวที่มอมแมม ดูสกปรกไม่มีสกุลออกขนาดนี้
แต่ผมไม่ได้ติดใจเอาความอะไรหรอก เพราะในใจผมจะมีแต่น้องอิมคนเดียวนับจากนี้...
3.
นับจากวันนั้น ผมก็มาเฝ้ารอน้องอิมที่ป้ายรถเมล์ทุกวัน เพื่อว่าจะได้มีโอกาสพบกับเธออีก
ความรักนี่ก็แปลก มันสุขปนทุกข์อย่างไรบอกไม่ถูก
ผมมีความสุขทุกครั้งที่คิดถึงหน้าของน้องอิม แต่ก็ทุกข์ใจเหลือแสนเมื่อไม่เห็นแม้แต่เงาของเธอเสียที
หลายวันผ่านไป ป้าติ๋มเริ่มบ่นเมื่อไม่เห็นผมไปช่วยแกเฝ้าร้านเหมือนเคย จะทำไงได้ล่ะป้า
ความรักมันทำให้ผมกินไม่ได้นอนไม่หลับนี่นา
ผมได้แต่นั่งอยู่ที่ป้ายรถเมล์เหม่อมองไปอย่างนั้น
หวังเพียงจะเห็นน้องอิมเดินผ่านเข้ามาในสายตาผมบ้าง
และแล้วฝันก็เป็นจริง เมื่อน้องอิมเดินมารอรถที่ป้ายรถเมล์อีกครั้ง คราวนี้เธอมาในชุดสบาย ๆ
อาจจะเพราะเป็นวันอาทิตย์ เธอยิ้มให้ผมทันทีที่เห็นผม ผมยิ้มตอบ
ผมอยากจะชวนเธอคุยแต่ไม่รู้จะคุยเรื่องอะไร เธอคงไม่เข้าใจโลกของผมเท่าใดนัก
ผมเองก็คงไม่เข้าใจโลกของเธอเช่นกัน ความเงียบเข้าปกคลุมระหว่างเรา
ผมอยากให้รถเมล์สายที่เธอขึ้น มาให้ช้าที่สุดเท่าที่จะช้าได้
ผมพยายามขยับเข้ามาใกล้เธอมากขึ้น เธอไม่ได้ว่าอะไร
เธอหันมายิ้มให้ผมเป็นระยะ
ผมขยับเข้าใกล้เธอมากจนตัวเราเกือบติดกัน เธอหันมายิ้มให้ผม “เราชื่ออิม
เป็นเพื่อนกันนะ”
เธอบอกชื่อกับผมก่อนจะลุกขึ้น “รถมาแล้ว
ไปก่อนนะ”
เธอก้าวขึ้นรถพลางหันมาโบกมือให้ผม ผมได้แต่มองตามรถเมล์ที่วิ่งออกไปด้วยใจเป็นสุข
Tags:
© 2009-2025 PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.
Powered by