ชายแก่ กีต้าร์ และเงิน 50 บาท

 

.... เมื่อวันก่อน ได้หยิบ สมุดบันทึกเก่าๆ กลับมาปัดฝุ่น..
ก็เลยได้คิดถึงเรื่องนี้อีกครั้ง...

ย้อนกลับไปสิบปี++ ..... T__T
สมัยที่ต้องไปเรียนพิเศษ แถวสยาม ทุกๆ สัปดาห์

ทุกครั้ง ก็จะมาต่อรถที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ...

สถานที่ธรรมดา ที่คุ้นเคย ของคนกรุง
เย็นวันเสาร์ธรรมดา ๆ .. ไม่รีบไม่ร้อน ...

ฉันชอบมองดู ชีวิตหลากหลาย กำลังเคลื่อนที่ไป..
น่าสนใจตรงที่ มัน ไร้ทิศทาง ...

ก๋วยเตี๋ยวเรือ ก็ขายกันไป ..แม่ค้าคงแอบหวังให้ น้ำในคลองใสขึ้นสักวัน
แต่ก็ยังทิ้งเศษอาหารลงไปเหมือนเคย...

ข้าวของเครื่องใช้ วางเรียงรายตามฟุตบาท
นอกจากขายของแล้ว ยังได้ฝึกไหวพริบหลบหลีก คนในเครื่องแบบ แถมด้วย..
บางวันขายได้ 200 โดนรีด ไป 500 ... แต่ก็ยังไม่มีทำเลอื่น

คนชนบทที่อยู่แถวนี้มาหลายปีแล้ว ก็ยังขอเงินค่ารถกลับบ้านได้ไม่ครบสักที…

ฝุ่นควัน จากรถรา ปกคลุม เกินค่ามาตรฐาน แต่กลายเป็นธรรมดาได้...

ผู้คนมากมาย ขวักไขว่ไปมา สับสนวุ่นวาย.....
โอ้ !!! อนุสาวรีย์ชัย ที่ใฝ่ฝัน อยากมาหนักหนาสำหรับ คนต่างจังหวัด

วันนี้ก็เช่นเคย
ผู้คนมากมาย และ...ไม่มีใครใส่ใจใคร

ฉันเดินผ่านป้ายรถเมล์ ที่คุ้นเคย…

แต่วันนี้ต่างกับทุกวัน
เพราะมีสิ่งที่แปลกตา และ แปลกหูไป ทำให้ฉันแปลกใจ…

ชายแก่ ผมยาว ขาวโพลน ผิวกรำแดด ยืนสะพายกีตาร์ โปร่งเก่าๆ
มีเม้าส์ออแกนที่ ปากอีก 1 ตัว …

เขาหลับตาดีดกีต้าร์ โดยใช้เหรียญห้าบาท แทนปิ๊ก""
ฝ่ามือหยาบใหญ่ นิ้วแต่ละนิ้ว หนาเทอะทะ ..
เหรียญห้าแทบจมหายไปในนิ้วทั้งสองนั้น..

ข้างหน้าเขา มีซองใส่กีตาร์เก่าคร่ำคร่า เปิดรอรับเงิน
ประหนึ่งเปิดการแสดงสด ท่ามกลางผู้ชมสมมุติ ที่นั่งรอรถอยู่บนเก้าอี้ยา
ซึ่งส่วนใหญ่ ไม่แม้เพียงเหลียวมองมา…
แต่เสียงเพลงที่แว่วผ่าน ก็มีพลังพอจะทำให้ ฉันและเด็กหนุ่ม อีก 3-4 คน ตั้งใจฟัง…

ชายแก่ดูท่าทาง มีความสุขมาก

เขาเต็มที่กับการเล่น และ ร้อง
ท่ามกลางสภาพแวดล้อม ที่ไม่อำนวยต่อการแสดงดนตรีเอาเสียเลย…
แม้สิ่งที่ถ่ายทอดออกมา ยังห่างไกลกับคำว่า “ ความสมบูรณ์”
แต่ก็สัมผัส ถึงอีกสิ่ง คือ “ ชีวิตจริง ”

บางที… ความสุข อาจไม่ได้มาจากสิ่งที่ เราคาดหวังความดีเลิศ…
และ เมื่อไม่แต่งเติม…
ความสวยงามตามธรรมชาติ คงมีโอกาสเปิดเผยอย่างเต็มที่ .

คุณลุงเป่าเม้าส์ออแกนปิดท้ายเพลง
ฉันยืนยิ้มอยู่ในใจ ( ลืมไปแล้วว่าทำหน้าตายังไง )
เหนือชั้นมาก!!!
ที่สามารถเล่นเพลงได้ ท่ามกลางขีดจำกัดมากมายขนาดนี้ …..
ฉันแอบถามตัวเองว่า ...
"ลุงจะเห็นความสำคัญของเงินที่ได้ มากแค่ไหนกันนะ ? เขาอาจพอใจแบบนี้ก็ได้…"

ฉันตั้งใจจะให้เงินคุณลุง 50 บาท
เพราะอยากให้เขา มีกำลังใจ …แม้เพียงเล็กน้อย

…สารภาพตามตรงว่า ในชีวิตนี้ฉันไม่เคยให้เงินคนเล่นดนตรีเลย
อาจเพราะ ยังไม่เจอใครเหมือนชายแก่ผู้นี้ …

…ข้าจะร้อง… ข้าจะพูด … ข้าจะเล่นเต็มที่ …

บางทีสติเขาอาจไม่สมประกอบ…

ขณะที่ฉันกำลังจะ เดินไปหย่อนเงิน
ก็มีชายวัยกลางคนท่าทางภูมิฐาน เข้ามาคุยกับชายแก่
…กระซิบกัน…

ชายหนุ่มท่าทางเป็นห่วงเป็นใย...
ชายแก่ แสดงท่าที รำคาญใจ …

เพลง New York City พลิ้วไหว ตามคำร้อง ด้วยสำเนียงที่ชัดเจน
หลังจากที่ชายแก่เกริ่นนำ ถึงยุคที่จิตใจเสรีเบ่งบาน จอห์น เลนนอน และ ปิกัสโซ่
แววตาของเขามีความสุข และย้อนรำลึก ตามประสาคนแก่ท่าทางใจดี...

…ถึงตอนนี้ คนมุงดูเริ่มหนาตา…ความรู้สึกของฉันเปลี่ยนไป
ชายแก่ผู้นี้ไม่ใช่วณิพกจนๆ เลย แถมยังอารมณ์ดี และขี้คุยอีกต่างหาก
…แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ดนตรีของเขาเต็ม และ เล่นด้วยความรู้สึก จริงๆ …

ฉันมารู้ภายหลังว่า...
ชายท่าทางภูมิฐานที่กระซิบคุยกันเมื่อครู่
มารอรับ “พ่อ”
จากคำบอกเล่าของคนแถวนั้น ที่ได้ยินเพลงของชายแก่ มาหลายวันแล้ว…
และรับรู้ที่มาที่ไป จากคำพูด แฝงรอยยิ้มของเขาเอง ซึ่งคั่นตลอดการเล่นเพลง…

ชายแก่ เป็นเจ้าของร้านเหล้าชื่อดัง อยู่ที่เชียงใหม่
แวะลงมากรุงเทพฯ เพื่อหาหมอ รักษา โรคมะเร็ง…
ไม่รู้ว่าจะเอาชนะโรคร้ายไปได้อีกนานแค่ไหน…

ที่เขามาเล่นดนตรี ท่ามกลางมลพิษ อยู่อย่างนี้
ก็เพียงเพราะ อยากรำลึกถึงความสุข ในวัยหนุ่ม
และมาในที่ๆ เขา พบรักกับภรรยา ซึ่งจากเขาไปนานแล้ว…

ฉันเก็บแบงค์ 50 ใส่กระเป๋าอย่างเดิม…บางที ฉันอาจเดาความต้องการของ ผู้เฒ่าผิดไป…

… ความสุข เล็กน้อย แลกมาได้ด้วยเงิน …
… ความสุขที่แท้จริง อยู่ในใจ …

ฉันเดินเข้าไป ขอจับมือกับเขา…
แล้วบอกว่า เพลงที่เขาเล่นนั้น “เพราะที่สุด” เท่าที่ฉันเคยได้ยินมา …
คำพูดเพียงประโยคเดียว…ทำเอาชายแก่ ยิ้มกว้างจน ริ้วรอยแห่งวัย ขึ้นเต็มใบหน้า
…และฉันเองก็เช่นกัน

… ความสุข สามารถส่งผ่านกันได้ …

ฉันเดินยิ้ม ไปตลอดทาง ด้วยความอิ่มใจ…
อนุสาวรีย์ชัยฯ ในวันนี้ งดงามกว่าทุกๆวัน ^O^

นามบัตรร้านเหล้า ถูกเก็บไว้อย่างดี ในแฟ้ม ชีสรวมฮิตโจทย์เคมี ม.ปลาย




เรนันท์ สุทธิสว่างวงศ์
ก่อนปิดฉากชีวิต มัธยม

ปล. คุณลุงเล่น เพลง Norwegian Wood ของ จอห์นเลนนอน ด้วย
ฉันมา รำลึก ทำนองได้ อีก 2-3 ปีถัดมาที่เชียงใหม่ ทั้งที่นามบัตรใบนั้น หายไป
พร้อมกับ ช่วงเวลาแสนดี ที่ Ent ติด

 

ใครว่า โชคชะตา ไม่มีจริง

 

ใช่ว่า

จะเจอ

กันง่ายๆ


.

Views: 152

Replies to This Discussion

อ่านแบบนี้ ความสุขของคนเล่นดนตรี บางที อยู่ตอนที่ได้เผยแพร่
จะมีคนมองเราด้วยความชื่นชม แต่มากไปก็กลายเป็นหลงจริต

หลายทีก็เห็นเรื่องแบบว่า คนเราพอมีใครมาให้ความสำคัญ ไม่ว่านักดนตรี หรือ บัณฑิต
ไม่ต้องไปคิดเลย กับพวกที่สั่งนี่สั่งนั่น ชี้เป็น ชี้ตาย

ความหลงจริต หลงสิ่งปรุงแต่งว่าตัวเองเป็นไปอย่างนี้ สำคัญอย่างนี้ เป็นนี่เป็นนั่น
ไม่พิจารณาให้รู้เหตุ รู้ผล รู้ตนรู้ประมาน
ดนตรีก็กลายเป็นความเครียดไป
555+ แค่ฟัง แค่รู้ ไม่คิด ไม่เครียด ..
ข้างนอก ปรุง ..ข้างใน ปลง ค่ะ MangBar ^^

RSS

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service