=====เนื่องจากพรุ่งนี้เช้า....มีงานที่จะต้องสะสาง

คืนนี้ผมจึงหวังจะพาตัวเองเข้านอนก่อนเวลาที่เคยเป็น

แต่....มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ผมค่อนข้างง่วง-หลับยาก

อย่างน้อยๆก็ต้องล่วงตีสามไปแล้วจึงจะมีอาการอยากนอน

 

 

นั่งจิบเบียร์เพื่อเรียกความง่วง วิธีนี้มักได้ผล(บ้าง)........หมดไปสามกระป๋อง!

....ผมเริ่มอยากนอน

00.02 น.

พาตัวหย่อนลงกับฟูก........

ได้เวลาพักผ่อนแล้วพวก!

ทำสมาธิ

ปิดเปลือกตา

 

 

00.15 น.

รู้สึกอยากอาเจียน

พยุงร่างจากเตียงครึ่งหลับครึ่งตื่น ค่อยๆเดินจากห้องพาตัวไปที่ประตูอย่างช้าๆ

เพราะไม่อยากเปิดไฟให้รบกวนประสาทตา

มือเอื้อมจับลูกบิดประตู

 ใจหายวาบ

 รู้สึกตัวเบาหวิว มือไม้อ่อนแรง ขาสั่น

 พาร่างก้าวต่อไปไม่ไหว .......ใจหวิวและหล่นวูบลงกับพื้น

มือข้างที่จะเอื้อมจับลูกบิดเปลื่ยนเลื่อนช้าๆเคลื่อนมาบีบพยุงตรงอกด้านซ้าย

ผมรู้สึกแน่นหน้าอกจนแทบสำลัก แต่ก็อ่อนแรงเต็มที

......ผมพยายามจะดิ้นเพื่อคลายอึดอัด แต่เรี่ยวแรงสาปสูญ

อ่อน..........อ่อนลง

อ่อนลงเหมือนไฟทั้งโลกกำลังถูกปิด

.........โรยแรง

และค่อยๆหยุดหายใจ

 

 

 

รูปผมถูกวางอยู่กลางงาน ดอกไม้และไฟกระพริบถูกประดับประดา ผู้คนเนืองแน่นเต็มบ้าน ผมมองไปรอบๆ ทุกคนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีดำ และบางคนประดับคราบน้ำตาที่เรือนแก้ม....

และ หางตา....

ใคร-บางคนเข้าไปโอบภาพถ่ายของผม และสะอื้นไห้

มองอย่างถี่ถ้วน

ผมค่อยรับรู้.........

นี่มันงานของผม

................ผมตายแล้วหรือนี่?

บางคน และ บางคน

ทยอยยกขาตั้งอย่างที่ใช้วางกรอบภาพหรืออะไรสักอย่างมาวางรอบๆบริเวณงาน

เรียงรอบเป็นวงกลมล้อมแขกภายในงาน

......และนำกรอบภาพ และอะไรบางอย่างคล้ายเฟรมภาพมาวางบนขาตั้งทีละตัว

...............นั่นมันภาพของผม

................ภาพที่ผมวาด

...............ภาพที่ถ่ายไว้ถูกเข้ากรอบอย่างดี

...............งานกราฟฟิกรูปแบบต่างๆที่ทำไว้ก็ถูกนำออกมาวาง

...............คล้ายเป็นนิทรรศการขนาดย่อม

ใครบางคนเข้าไปกระซิบกับภาพถ่ายผม.....เหมือนกำลังจะบอกอะไร

ผมเงี่ยหูฟัง..........

"เอาภาพมาจัดนิทรรศการให้นะ" เสียงสั่นๆนั้นออกมาจากลำคอ

ผมยิ้มเจื่อน......ยืนมองงานของตัวเองใล่ทีละชิ้น

"ชิ้นนี้ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ สีมันไม่จัดจ้านเท่าที่ควร น่าจะเอาอีกชิ้นนึงนะ"

ผมกอดอกพึมพำกับตัวเอง

ผละสายตาจากภาพ มองไปรอบๆด้วยอาการตื่นเต้น และ คาดเดา

"ใครมางานเราบ้างนะ"

สายตาพาไปเจอหนุ่มสาวคู่นึงกำลังนั่งกระซิบกันเบาๆ

ออ........ผมจำได้

ผู้ชายคือเพื่อนตอนอนุบาลที่เคยต่อยกับผม  .....ผมเอาหมวกฟาดไปที่หน้าจนเลือดออกตา......

"แกมาด้วยหรือว่ะเพื่อน"

ผู้หญิงข้างๆคือเพื่อนอนุบาลเหมือนกัน ผมเคยเล่นทายกับเจ้าคนข้างๆว่าเธอใส่ กกน.สีอะไร?

เราพนันหมากฝรั่งแท่งยาวที่ทำเลียนแบบบุหรี่กัน

.......แล้วผมก็เป็นคนเฉลย

เก้าอี้แถวหลังสุด หญิงสาวหน้าตาสะสวยดึงผ้าเช็ดหน้าสีชมพูขึ้นซับน้ำตา

........เธอคือรุ่นน้องตอนประถม คือคนที่เล่นขิมในวงโรงเรียน

 ......ตอนนั้นผมเล่นระนาด

ผมเข้าวงดนตรีไทยของโรงเรียนด้วยเหตุผลที่สามารถโดดเรียนได้ โดยอ้างว่าไปซ้อมดนตรี ตอนนั้นวงดนตรีไทยคือหน้าตาของโรงเรียน

ตอนเราไปฟอร์มวงกันที่โรงเรียนจนดึกดื่น.....เธอมักจะนอนข้างๆผม และผมก็มักจะแอบหอมแก้มเธอเป็นประจำ เธอมาบอกตอนหลังว่าเธอรู้.......

ผมนึกภาพหน้าเแดงก่ำของเธอ-ตอนผมถามว่าทำไมถึงไม่ว่าอะไรกับที่ผมทำ

................เธอก็มางานผม

สายตาพาผมไปหยุดที่ผู้ชายคนนึงที่ถือแก้วเบียร์นั่งคุกเข่าจ้องรูปภาพผม

เดินเข้าไปดูไกล้ๆถึงรู้ว่าเป็นไอ้ยุทธ......เพื่อนมหาลัย

ผมเอื้อมมือหวังจะตบกะบาลมันที่บังอาจจ้องรูปผม......ไม่ทันลงมือ ผมนึกได้

"กูตายแล้วนี่หว่า"

ไม่นานไอ้ตูนเดินมาพยุงร่างของมันลุกไปนั่งร่วมโต๊ะกับเพื่อนคนอื่น

"............มากันหมดเลยเหรอว่ะ"

ผมหันตามไปมองกลุ่มเพื่อนมหาลัย

มองไปรอบๆล้วนมีแต่คนที่ผมเคยรู้จักแทบทั้งสิ้น

ผมยิ้มน้อยๆพึงใจที่ได้เจอเพื่อนเก่ามากมายมารวมตัวกัน

บรรดาแฟนเก่าของผมจับกลุ่มคุยกันอยู่ที่มุมนึงของงาน

"เธอจะคุยอะไรกันนะ จะนินทาผมหรือเปล่า?......."

....ถ้าผมไม่ตาย และ พวกเธอปรองดองกันได้จริงๆแบบนี้ก็ดีสิ

....ผมนึกพลางหัวเราะเบาๆในลำคอ

หลังจากเดินไล่ดูและวิจารณ์งานตัวเองจนครบ ผมก็ถอยออกมา กวาดสายตามองรอบๆงาน

แม่!!!!!

......แม่ร้องไห้!

ผมไม่เคยเห็นแม่ร้องไห้แบบนี้มาก่อน.........ใจผมหวิวๆชอบกล

ผมหลบสายตาจากแม่.......ยืนนิ่งคิด

ตัวผมชาๆ..............ปากสั่น และหนักอึ้ง

เหมือนกำลังอมก้อนหินไว้ในปาก

พยายามรวบรวมความกล้า เพื่อหันไปมองหน้าแม่อีกครั้ง.........

ผมอยากเห็นหน้าแม่

............แต่ก็กลัวที่จะเจอภาพน้ำตาของแม่

ยังไงก็ต้องดู ผมรวบรวมความกล้าอีกครั้ง........

เอี้ยวคอไปช้าๆในใจนึกหวั่นที่จะเจอภาพที่คิดไว้

ผมเบิกตากว้างเพื่อมองได้ชัดขึ้น

แม่ร้องไห้หนัก.......หน้าแม่ซีดมาก...........ปากสั่น ตาบวมและแดงก่ำ

.........ผมแทบหยุดหายใจทั้งๆที่ตัวเองตายไปแล้ว

แต่ยังรู้สึกเหมือนหน้าชา ปากสั่น และน้ำตาจะไหลออกมา

ใจผมหวิวๆอีกครั้ง

ตัวค่อยเบา

เบา

เบา

จนหนักอีกครั้ง

หนักขึ้นเรื่อยๆ

ผมหลับตาแน่น

หูชา

หน้าร้อนผ่าว

ใจเต้นระรัว

......................ใจเต้น!!!!!!!

ผมตายแล้วนี่...........ทำไมใจถึงได้เถ้นถี่รัวแบบนี้ได้!

ตั้งสติ

ค่อยๆลืมตาออก

อย่างช้าๆ

ตาเปิดออก

มองเหนแสงรางๆจากมุมด้านบน

ผมค่อยๆคลายตากว้างขึ้น

มองช้าๆ

ทุกอย่างเริ่มชัด

โต๊ะคอมพ์

ตู้เสื้อผ้า

ชั้นวางหนังสือ

กลิ่นธูปหอมที่ผมจุดไว้เมื่อตอนค่ำลอยมาแตะจมูก

หนังสือวางอยู่ข้างๆหมอน

ใช่แล้ว.....ผมเอามันมาอ่านก่อนนอน

กวาดสายตาอีกครั้ง

เอื้อมมือไปบนหัวเตียง หยิบโทรศัพท์มือถือ....กดปุ่มดูเวลา

02.53 น.

............ผมฝันไปหรือนี่!

เพราะแม่แท้ๆ.......ผมถึงหลุดออกมาจากฝันได้

ทำไมคืนนี้ผมถึงฝัน

ปกติผมเป็นคนไม่ค่อยฝันนี่นา........

แต่มันก็เป็นฝันที่ใช้ได้เลย

ติดอยู่แค่ต้องเห็นแม่ร้องไห้นี่แหละที่ผมไม่ชอบเอาเสียเลย

 

 

 

02.53 น.

 อย่างไม่ค่อยจะเต็มใจนัก ตาผมเบิกออก-สมองออกเดิน ความคิดหลั่ง

ผมค่อนข้างตื่นตัว แปลกใจ และแอบตื่นเต้นเล็กๆ

......................ผมฝัน!

ใช่......ผมฝัน

อาจธรรมดาโลกสำหรับคนอื่นทั่วไป แต่.....ผมไม่ค่อยฝัน ฝันยาก!!!!

ตาผมเปิดออกกว้าง

อาการง่วงหายไปสิ้น

ดึงตัวเองลุกจากที่นอน

เปิดคอมพ์

ผมจะเขียนความฝัน

ผมฝัน

.....ผมตาย!!!!

 

______________________________________

 

 

Views: 190

Attachments:

Replies to This Discussion

===มีสต๊อคงานเขียนอีกเยอะเลยคับ
จะทยอยลงคับ
ฝันว่าตาย เขาว่าเป็นการต่ออายุ
;-)
ฝัน อื่ม ฝัน
ฝันว่าตนตาย เป็นการต่ออายุตน

RSS

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service