“มนต์”
1.
ในขณะที่ฉันกำลังประนมมือสวดมนต์
โดยที่ฉันเองก็ไม่รู้ความหมายของบทสวดนั้น
ภาวะหนึ่งฉันรู้สึกซาบซึ้งขนลุกซู่ล้ำลึกไปสู่หัวใจ
ฉันสงบ ฉันเข้ม ฉันขลัง ด้วยนิยมเสพพิธีกรรม
ภาวะหนึ่งฉันก็รู้สึกว้าวุ่นหวั่นไหวใจหวาม
เวียนวนคิด
คืนนี้จะเคาะแป้นอักษรและแลโฉมหน้าที่เร่าร้อน
เพื่อบอกนิทราราตรีสวัสดิ์แก่ชู้รักคนไหนก่อน
แล้วชู้รักคนไหนกันหนอจะมามอบความรัก มอบความอบอุ่น
และมอบความซ่านเสียวอย่างมิแหนงหน่ายใจในอนาคตอันใกล้
ฉันคิดเพริด
กระทั่งสวดมนต์จบ
จึงก้มกราบลงไปบนหมอน
ปิดไฟ
ใส่กลอน
เตรียมตัวจะเข้านอน
ทว่าความคิดถึงลีลารักกลับเร้ามิพักรบ
ฉันจึงเลิกชุดนอนขึ้นด้วยเร่าร้อน
ภาวะหนึ่งนึกถึงบทสวดมนต์
ภาวะหนึ่งนึกถึงความเสียวสยิว
ใจหรือก็จวนจะขาดอยู่รอนรอน
อันที่จริงฉันควรที่จะสร้างความเสียวให้แก่ตัวเองเสียก่อน
แล้วจึงค่อยสวดมนต์
หากจัดลำดับก่อน-หลังให้ดี
ฉันคงไม่ต้องรู้สึกผิดและอดสูใจเช่นนี้
เพราะฉันท่องบทสวดมนต์พร้อมกับสร้างความเสียวให้แก่ตัวเอง...
2.
กลุ่มชนผู้ล้าหลังนับถือผีป่าเป็นสรณะ
ไม่เคยย่ำยีบีฑาทำร้ายโลกและธรรมชาติ
ผู้ที่เรียกขานตนว่าเป็นคนที่มีศาสนา
มีความเจริญทางด้านสติและปัญญา
ไฉนจึงสร้างความเจ็บปวดให้แก่กันและกันอย่างไม่รู้ลดละ
กรุณานำเอาศาสนาและความศิวิไลซ์ของท่าน
นำไปตะกองกอดให้ชื่นใจอย่างโฉดเขลาเถิด
อย่ามายุ่งกับผู้นับถือและบูชาผีป่าอย่างฉัน!
**********
Tags:
© 2009-2025 PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.
Powered by