กาแฟใส่ทศนิยมไม่รู้จบ

 

 

 

ก้าวย่างผ่านร้านกาแฟหรูหรา

จ้องมองแล้วคิดไปนานาให้เฮฮาสมอง

กาแฟหลากรสภายในร้านนั้นช่างน่าลิ้มลอง

มอคค่าใส่วิปครีม เอสเปรสโซรสชาติคงจะกลมกล่อม

มองพลางดูดกาแฟโบราณแก้วละสิบห้าบาทในมือไปพลาง

ในหัวคิดดังก้อง หากลองเทียบค่า รสชาติใดจะกลมกล่อมล้ำกว่ากัน

 

นึกถึงเกลอรักนายหนึ่ง

ผู้ซึ่งนิยมดื่มกาแฟในร้านหรู

ค่านิยมของเกลอไม่ใช่เรื่องใหญ่

แต่บางทีก็กวนอารมณ์กันพอดู

ลิ้นของเกลอต้องรับรสเอสเปรสโซยามเช้าตรู่

จึงจะเริ่มต้นชีวิตวันใหม่ด้วยความสดใสดังที่เกลอต้องการ

 

เคยถามเกลอรักอย่างไม่จริงจัง

กาแฟซองสำเร็จรูปห้าบาท นายดื่มได้ไหม

กาแฟโบราณไม่มากราคา นายดื่มได้หรือไม่

เกลอยิ้มหวานหวานแล้วตอบกวนกวนตามอัธยาศัย

ฉันดื่มได้ แต่ต้องการรสเพิ่มอีกหนึ่งที่น่าพึงใจ

รสที่ฉันต้องการได้ ก็คือการดื่มด่ำในรสนิยม

 

ฉันจึงทดลองตั้งโจทย์

ด้วยการนำเอารสนิยมตั้ง

แล้วหารด้วยกาแฟซองกับกาแฟโบราณรวมกัน

โอ...รสนิยมช่างมีค่ามากมายมหาศาลเชียวนะนั่น 

ใส่จุดทศนิยม คิดหาค่าเสียจนตาลายเลยฉัน

แต่ก็ยังไม่สามารถหารหาค่าที่แท้ของมันได้

 

ฮ่วย!  

ขออนุญาตคร้านที่จะคิดในเรื่องการหารหาค่า

ฉันจึงรีบเดินผ่านร้านกาแฟหรูหรานั้นไป

พลางดูดกาแฟที่เต็มไปด้วยทศนิยมไม่รู้จบ แล้วละซึ่งความข้องใจ

เพราะถึงอย่างไรฉันก็คบเกลอรักด้วยคุณค่าของกันและกันในทางหัวใจ

มิใช่คบกันด้วยรสนิยมไม่รู้ค่า มิน่าล่ะ เราจึงรักกันได้อย่างไม่รู้จบ...

 

 

 

**********

 

 

 

 

 

 

 

Views: 231

Replies to This Discussion

 
บทกวีชิ้นนี้ แน่แท้ว่ามิได้ขึ้นอยู่กับเรื่องของรสนิยมส่วนตัวเพียงส่วนเดียว
ทว่าขึ้นอยู่กับสภาวะแวดล้อมหรือปัจจัยอื่นๆต่างหากที่เพิ่มค่าหรือเพิ่มราคาของสิ่งที่ต้องการจะเสพรส
เช่น รสชาติของกาแฟ+คุณค่าของกาแฟ+แหล่งที่ตั้ง+ทัศนียภาพ+บรรยากาศ+การบริการที่ดี+ความพึงพอใจ+ถูกจริต+อื่นๆ = ยินดีที่จะควักสตางค์จ่ายจากรายได้ที่แสวงหามา โดยสุจริตหรือไม่ นั่นก็อีกเรื่อง (ฮา) ;D

แต่ที่ผมเขียนบทกวีชิ้นนี้
ก็มิได้จะให้ใครต่อใครตีความหมายเพียงแค่เรื่องของการกินกาแฟหรือเรื่องของรสนิยมเพียงอย่างเดียว
หากตีความไปให้กว้างกว่านี้ ก็จะอ่านบทกวีชิ้นนี้ได้อย่างสนุกสนานและได้ข้อคิดมากยิ่งๆขึ้น

บทกวีที่ผมเขียนทั้งชิ้นนี้และชิ้นอื่นๆที่ผ่านมา ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องของการต้องใจ ถูกใจ พึงพอใจ เศร้า หดหู่ โศกสลด เสียใจ ขำขัน ทั้งนี้ก็ล้วนแต่เป็นเรื่องของทัศนคติและอารมณ์ด้านต่างๆที่มีต่อเรื่องของการเมือง ศาสนา สังคม ศิลปะ กีฬา อาหาร หนังสือที่อ่าน ความรัก ภาพยนตร์ ดนตรี การนอนหลับ การเข้าห้องน้ำ ฯลฯ ซึ่งการตีความในการอ่านบทกวีนั้นๆ หากตีความเพียงด้านเดียว ก็จะไม่ค่อยได้อะไรไปจากการอ่านบทกวีนั้นๆมากนัก บทกวีที่ผมเขียนหรือกวีท่านอื่นๆที่เขียนถึงเรื่องความรัก อาจมิได้หมายถึงความรักเพียงอย่างเดียว อาจแฝงเรื่องความเชื่อ ศาสนา หรือการเมืองไว้ก็ได้ บทกวีที่เขียนถึงเรื่องการเมือง อาจแฝงนัยเรื่องของความรักหวานชื่นหรือร้าวรานไว้ก็ได้

ผมมีความเชื่ออยู่ว่า บทกวีที่ดีไม่ควรจะเรียบนิ่ง ตายตัว ไม่สามารถที่จะผันความหมายได้
หากเป็นเช่นนั้นจะต่างอะไรไปจากการเขียนบันทึกเพื่อระบายอารมณ์ที่ใครใครต่างก็มี

อยากให้ผู้ที่อ่านบทกวี ตีความหมายของบทกวีที่อ่านไปให้กว้างอีกสักนิด
รับรองว่าโลกทัศน์ของท่านผู้อ่านจะเปิดกว้างมากยิ่งขึ้
และจะมีความหฤหรรษ์เป็นตัวช่วยเร้าให้ท่านอยากอ่านบทกวีมากยิ่งขึ้นครับ ^^

เราอาจจะมีความชอบต่างกัน รสนิยมที่ต่างกัน

แต่ไม่ได้หมายความว่า เราจะไม่เข้าใจกัน

^________________^

 

 

เนาะ ไม่เห็นจำเป็นต้องมีความนิยมในสิ่งใดใดตรงใจกันไปเสียหมด แบบนั้นมันเผด็จการเกินไป

แม้จะมีความคิดเห็นแตกต่างกัน  ก็เพียงทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน พัฒนาความแตกต่างนั้นร่วมกัน

แล้วเราจะมีความสุขใจร่วมกันไม่ได้หรือ เนาะ (^_________^)

 

RSS

© 2009-2025   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service