“เจ้าสำราญ”
การได้ลิ้มรสสุรากับสตรีงามใต้แสงจันทร์นวล
แม้นรสสุราราคาถูกจะขมบาดคอ
ก็หวานล้ำปานน้ำผึ้งป่าได้
สุราจอกนี้ ข้าขอดื่มให้แก่แม่นางผู้งดงาม
บุรุษยามลิ้มรสสุราคราใด วาจามักหวานลึกยากหยั่งแท้
สตรีเช่นข้า ก็เพียงดอกไม้ประดับในมหาสมุทรวจีอันไพศาลของท่าน
เพียงสบสายตากับท่านแค่หนึ่งชั่วกะพริบตา
ข้าก็ทราบถึงแรงปรารถนาของท่านแล้ว
แม่นาง...
ฤทธิ์สุรายามแผ่ซ่านในกระแสเลือด
ประหนึ่งโอสถทิพย์ให้ผู้ลิ้มรสเอ่ยแต่ถ้อยแท้จริง
บุรุษเช่นข้า หาได้แสร้งเยินยอ เพื่อหวังเชยชมเกสรของเจ้าไม่
คุณชายเจ้าสำราญ...
ท่านได้เผยแรงปรารถนาของท่านออกมาแล้ว
ยิ่งท่านปฏิเสธ มันก็ยิ่งปรากฏชัด
ข้ามิใช่คนตาบอด แม้นข้าจะตาบอด
แต่ข้าก็สามารถสัมผัสถึงแรงพิศวาสของท่านได้
มันแผ่ออกมาอย่างรุนแรง และน่ารังเกียจ
แม่นาง...
วาจาของเจ้าช่างสามหาวยิ่งนัก
สุราจอกนี้รสขมยิ่งแล้ว
ในเมื่อวจีกรรมอันไพเราะที่เยินยอเจ้ามิได้ผล
ข้าก็จักต้องใช้กำลังหักหาญเจ้าให้ตกเป็นของข้า
บุรุษก็เพียงนี้
เมื่อไม่ได้ดังใจ ก็คิดใช้กำลัง
เมื่อสมหวังก็ผละทิ้งไปโดยไม่แยแส
รสรัก รสพิศวาส
นั่นเพียงเศษเสี้ยวของรสชีวิต
ไยบุรุษเช่นท่านจึงยึดติดมันนัก
ไฉนไม่ร่วมลิ้มรสสุราใต้เงาจันทร์งามกับข้า เฉกเช่นมิตรรักเล่า
มิตรภาพของเราจักได้ยืนยาวนาน
ยั่งยืนกว่าการที่เราร่วมเสพสังวาสกันเพียงหนึ่งครั้ง
แล้วไม่อาจที่จะสบตากันอย่างลึกซึ้งได้อีกชั่วชีวิต...
**********
Tags:
© 2009-2025 PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.
Powered by