“ภาพถ่ายในนิตยสารแฟชั่นและภาพถ่ายคนดังส่วนใหญ่ในปัจจุบัน ไม่ได้สะท้อนถึงตัวตนที่แท้จริงของบุคคลเหล่านั้นเลย”

David LaChapelle เกิดเมี่อปี ค.ศ.1963 ในสหรัฐอเมริกา เป็นช่างภาพแฟชั่นที่ทำงานในสไตล์ “Honest Fantasy” (นำเสนอมโนภาพความเพ้อฝันอย่างตรงไปตรงมา) เขาเชื่อมั่นว่า ผลงานของตนแตกต่างจากช่างภาพแฟชั่นคนอื่นๆ และไม่เหมือนกับโฆษณาที่พบเห็นได้ทั่วไป


LaChapelle เคยนำเสนอภาพถ่ายของศิลปินเพลงแร็ป Tupac Shakur ในสภาพที่เขาเป็น “แรงงานทาสผิวสี” ขณะกำลังเก็บฝ้ายในไร่ เคยถ่ายภาพศิลปินเพลงร็อคอย่าง Courtney Love ในภาพลักษณ์ของ “พระแม่มารี” และถ่ายภาพของ Britney Spears ขณะทำงานเป็น “คนขายฮ็อตด๊อก”

LaChapelle ตั้งคำถามกับโฆษณาแฟชั่นที่พบเห็นกันทั่วไปตามหน้านิตยสารว่า เป็นเรื่องของการสร้างภาพที่จอมปลอมที่สุด เขายกตัวอย่างโฆษณาชิ้นหนึ่งที่นำนางแบบสาวสวยใส่เสื้อสเวตเตอร์ราคาแพงของ Prada กับรองเท้าคู่งามยี่ห้อ Miu Miu ไปเดินเฉิดฉายอยู่ในย่านสลัม ในภาพเห็นทรงผมที่ดูมันเยิ้มแบบ “เฟคๆ” โดยฝีมือช่างทำผมค่าตัวแพง LaChapelle มองว่า ทุกอย่างช่างดูจอมปลอมไปหมด เพราะในความเป็นจริงแล้ว คงไม่มีนางแบบคนไหนกล้าไปเดินอยู่ในที่เสื่อมโทรมแบบนั้นเป็นแน่

โดยคำชักชวนของ Andy Warhol ในปี ค.ศ.1984 LaChapelle ได้ร่วมงานกับนิตยสาร Interview ในตำแหน่งช่างภาพ เขานำเอาเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการถ่ายภาพเชิงพาณิชย์ ผลงานของ LaChapelle นั้นมักทำให้คนดูโฆษณาต้องฉงนในความคิดแผลงๆ ของเขา หลายครั้งก็ใช้ภาพโฆษณาเป็นเครื่องมือในการวิพากษ์วิจารณ์สังคมด้วย

ผลงานโฆษณาสินค้าแฟชั่นยี่ห้อ Diesel เป็นอีกตัวอย่างที่ LaChapelle สร้างความฮือฮาให้กับทั้งวงการโฆษณาและสาธารณชน โดยเขานำเสนอภาพของทหารหนุ่มชาวอเมริกันสองคนที่จุมพิตกันอย่างดูดดื่ม ในวันฉลองชัยชนะที่สหรัฐอเมริกามีต่อญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่ 2 ภาพถ่ายนี้พาดพิงถึงภาพหน้าปกอันโด่งดังของนิตยาสาร Life ในปี ค.ศ.1954 ซึ่งเป็นภาพของทหารอเมริกันจุมพิตกับนางพยาบาลที่ Time Square นิวยอร์ค LaChapelle เองภาคภูมิใจกับผลงานชิ้นนี้มาก เพราะมันได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ไปยัง 67 ประเทศทั่วโลก ในวันฉลองครบรอบ 50 ปีแห่งชัยชนะที่สหรัฐอเมริกามีต่อญี่ปุ่น เขาเล่าว่ามีชาวรักร่วมเพศมากมาย ตั้งแต่ K.D. Lang (นักร้อง) ไปจนถึงบาร์เทนเดอร์เกย์ในเมืองออร์ลันโด ที่เข้ามาคุยกับเขาเพื่อสารภาพว่า “ได้ฉีกภาพโฆษณานิตยสารของ Diesel ชิ้นนี้ไปประดับฝาบ้านจริงๆ”

จากเด็กวัยรุ่นที่เคยถูกกลั่นแกล้งปาเศษอาหารใส่ และถูกเพื่อนประณามว่าเป็น “ตุ๊ด” LaChapelle ในวันนี้คือตัวแทนของชาวเกย์ที่ไม่เคยปิดบังความเป็นรักร่วมเพศของตน ไม่ว่าจะในชีวิตประจำวันหรือในการทำงานด้านสื่อบันเทิง เขาได้รับรางวัลจากกลุ่ม Gay & Lesbian Alliance Against Defamation ในปี ค.ศ.2006 ในฐานะที่มีส่วนทำให้กลุ่มคนที่รังเกียจคนรักร่วมเพศ (Homophobia) ได้เข้าใจในธรรมชาติของคนรักร่วมเพศมากยิ่งขึ้น

LaChapelle เห็นว่าภาพถ่ายในนิตยสารแฟชั่นและภาพถ่ายคนดังส่วนใหญ่ในปัจจุบัน ไม่ได้สะท้อนถึงตัวตนที่แท้จริงของบุคคลเหล่านั้นเลย มันมิได้สื่อความหมายที่ลึกซึ้ง หรือนำเสนอรายละเอียดที่ซับซ้อนแต่อย่างใด LaChapelle เองชอบที่จะเพิ่มเรื่องราวเข้าไปในภาพถ่าย เพื่อให้ผลงานดูมีสาระมากยิ่งขึ้น ตลอด 2 ทศวรรษที่ผ่านมา เขาได้ถ่ายภาพดาราและคนดังให้กับโฆษณาแฟชั่นมากมาย จนรู้สึกว่าไม่เหลือใครที่เขาอยากจะถ่ายภาพให้อีกแล้ว

ผลงานในช่วงหลังของ LaChapelle แตกต่างออกไปจากงานในช่วงแรกอย่างสิ้นเชิง ในปี ค.ศ.2006 LaChapelle ผันตัวมาเป็นผู้กำกับภาพยนตร์สารคดี เขากำกับเรื่อง Rize (2006) ซึ่งเป็นเรื่องราวของนักเต้นตัวตลกมุขก้าวร้าว (หรือ clowner) อันเป็นที่นิยมชมชอบของชาวผิวสีในเมือง Las Vegas สหรัฐอเมริกา นอกจากนั้น LaChapelle ยังหันมาถ่ายภาพที่มีคนธรรมดาสามัญเป็นแบบมากขึ้น

ผลงานในช่วงหลังของ LaChapelle แสดงให้เห็นถึงอิสระทางความคิดที่เปิดกว้างมากขึ้น เขาจัดแสดงนิทรรศการภาพถ่ายคนธรรมดาสามัญขึ้นในปี ค.ศ.2007 โดยมีผลงานเด่นชื่อ Awakened (2007) เป็นภาพถ่ายของคนที่กำลังลอยน้ำและจมน้ำ นอกจากนั้นยังมีผลงานมีชื่ออีกชิ้นคือ Deluge (2007) ที่ LaChapelle ไปตีความจิตรกรรมฝาผนังของ Michelangelo ใหม่ให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น งานนี้จัดแสดงที่ Palazzo Royale ในเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี

รวบรวมโดย ณัฎฐิณี กาญจนาภรณ์
ที่มา: http://www.tcdcconnect.com/content/blog/?p=4227