high fidelity คนหนุ่ม(ในหนัง)ที่ "เท่" ที่สุดในรอบ 10 ปี

 

"High Fidelity เรื่องนี้คือหนังอันว่าด้วยเรื่องราวของผู้ชายที่ "เท่แบบรสนิยม" ที่สุดในรอบหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา" 

นิค ฮอร์นบี้ เริ่มต้นเขียนหนังสืออย่างเป็นทางการครั้งแรกตั้งแต่เป็นนักศึกษาวิชาเอกวรรณกรรมอังกฤษ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ด้วยการเป็นคอลัมนิสต์วิจารณ์เพลงให้กับนิตยสารไทม์เอาท์ (ช่วงปี 1984) อีก 11 ปีต่อมา ผู้ชายสายเลือดอังกฤษคนนี้ก็มีผลงานนวนิยายเล่มแรกในชีวิต ออกตีพิมพ์ในชื่อ "High Fidelity" ที่จัดจ้านทั้งด้วยสำนวนลีลาการเขียน รวมไปจนถึงมุมมองความคิดที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมคนหนุ่มร่วมสมัยได้อย่างแหลมคมและสมจริง 

แน่นอนว่า นอกจาก...นี่จะถือเป็นฉากเปิดตัวสู่โลกของนักเขียนอย่างเต็มตัวของนิค ฮอร์นบี้ แล้ว ด้วยจำนวนยอดขายที่เหมาะสมกับความฮิตของมัน ว่ากันว่า นิยายเล่มดังกล่าวนี้ยังเปรียบได้กับตัวแทนที่สื่อสะท้อนถึงตัวตนของคนเขียนได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความสนอกสนใจอย่างลึกซึ้งในด้านศิลปะแห่งบทเพลงและดนตรี 

อีก 5 ปีต่อมา ภายหลังหนังสือตีพิมพ์ (ปี 2000) เรื่องราวในหนังสือก็ถูกถ่ายเทสู่แผ่นฟิล์มด้วยฝีมือการกำกับของ "สตีเฟ่น เฟรียซ" ซึ่งถ้าต้นฉบับนวนิยายจะได้รับการกล่าวขานว่าเป็นงานที่หนุ่มโสดร่วมสมัยต้องอ่านแล้ว สำหรับฉบับภาพยนตร์ เราก็คงมิอาจกล่าวเป็นอื่นไปได้ นอกเหนือไปจากว่า "นี่คือหนังที่คนหนุ่มร่วมสมัยสมควรได้ดู" เช่นกัน 

โดยคร่าวๆ นั้น หนัง(สือ) เล่าเรื่องราวของ "ร็อบ กอร์ดอน"(จอห์น คูแซ็ค) คนหนุ่มที่ดูเหมือนว่าปัญหาต่างๆ กำลังล้มทับชีวิตเขาอย่างรอบด้าน หญิงคนรักที่ร่วมเรียงเคียงหมอนกันมานานเนิ่น เริ่มเก็บข้าวเก็บของออกจากอพาร์ตเมนต์ไปหาชายคนใหม่ ขณะที่ธุรกิจร้านแผ่นเสียงซึ่งเขาเป็นเจ้าของก็อยู่ในภาวะลูกผีลูกคน จะเจ๊งมิเจ๊งแหล่ 





จากพล็อตเรื่องที่เล่ามา หลายๆ คนคงจะคิดเหมือนกับผมว่า มันสามารถที่จะทำให้เป็นหนังดราม่าชีวิตเข้มข้นของคนทุกข์ระทมขมขื่นซึ่งกำลังถูกมรสุมรุมกระทืบได้ไม่ยาก แต่ไม่ใช่ซะล่ะ เพราะสิ่งที่ นิค ฮอร์นบี้ ใส่ไว้ในตัวละครเอกของเขาก็คือ "อารมณ์ขันอย่างร้ายกาจ" ไม่ว่าจะเป็นสีหน้าท่าทางไปจนถึงถ้อยคำที่บ่งบอกความช่างคิดและประชดประชันเหน็บแนมอะไรโน่นนี่ได้เรื่อยๆ (ลักษณะเหล่านี้ ผมรู้สึกว่าใกล้ๆ เคียงๆ กับคนช่างจ้อได้น่าฟังอย่าง "วู้ดดี้ อัลเลน" ในหนังของเขาทุกเรื่อง) 

และที่ผมเกริ่นไว้ในเบื้องต้นว่า งานชิ้นนี้บรรจุตัวตนของคนที่เป็นต้นฉบับนิยายนั้น ก็จะเห็นได้ทั้งในเนื้อหาคาแรกเตอร์ของ ร็อบ กอร์ดอน ที่ถือว่าเป็นเซียนเพลงตัวฉกาจ นอกเหนือจากรู้เรื่องเพลงหลากหลายทั้งในแง่ประวัติศาสตร์ความเป็นมาชนิดที่ว่าพูดอะไรเกี่ยวกับเพลงขึ้นมาสักอย่าง เขาก็พูดต่อเกี่ยวกับมันได้อย่างคนมีภูมิ ขณะที่เวลาออกปากวิพากษ์วิจารณ์ได้อย่างมีรสชาติและมีรสนิยม ยิ่งผสมโรงกับเพื่อนหนุ่มอีกสองคน (ซึ่งเขาจ้างมาทำงานในร้าน 3 วันต่ออาทิตย์ แต่ดันมากันทุกวันจนเขาเซ็ง) ของร็อบด้วยแล้ว มันยิ่งได้รสชาติเข้าไปใหญ่ 

สำหรับผม โดยส่วนตัว ต่อให้ไม่มีเรื่องอื่นๆ มาเกี่ยวข้องในหนังเรื่องนี้ ผมว่าแค่ได้เห็นคนหนุ่มเหล่านี้สนทนากันถึงวัฒนธรรมเพลงและดนตรี ขณะที่เปิดเพลงให้เราฟังเป็นระยะๆ มันก็คุ้มแล้วล่ะครับสำหรับการชมหนังเรื่องนี้ 

ที่สำคัญ ผมคิดว่าผมสามารถใช้คำว่า "โคตรเท่เลยว่ะ" กับพวกเขาได้อย่างไม่มีวันสำนึกเสียดายเสียใจ อย่างน้อยๆ ก็ความ"รู้ลึก-รู้จริง" ของพวกเขานั่นเองที่ทำให้ผมรู้สึกยอมรับนับถือ 



ผมไม่แน่ใจว่า ตอนนี้ เรามีคนประเภทนี้อยู่มากน้อยแค่ไหน คนที่รักและสนใจในบางสิ่ง (อาจไม่ใช่เพลง ไม่ใช่หนัง แต่หมายถึงอะไรก็ได้) แล้วเทใจให้มันจนเชี่ยวชาญในสิ่งนั้นอย่างคนที่รู้จริง บางที ในโลกที่อะไรๆ มาเร็วไปเร็วเช่นทุกวันนี้ อาจไม่อนุญาตให้ใครได้มีโอกาสใช้ "ความจดจ่อจริงจัง" กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปแล้วก็ได้...แต่เอาเถอะ ผมเชื่อว่า อย่างน้อยๆ มันน่าจะยังมีคนอย่างร็อบและผองเพื่อนของเขาหลงเหลืออยู่ในโลกบ้างล่ะ... 

คงเป็นเพราะหลงใหลคลั่งไคล้ในโลกดนตรีแบบฝังลึกนี่เอง ทำให้หนุ่มร็อบของเรา "ติด" วัฒนธรรมการจัดอันดับมาใช้กับทุกๆ สิ่งรอบตัว (เหมือนกับที่วงการเพลงชอบจัดอันดับโน่นนี่กัน) ไม่เว้นแม้กระทั่งหญิงสาวที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ก็ยังไม่วายถูกเขาหยิบจับมาจัดอันดับด้วย และยิ่งได้รู้เหตุผลของการติดอันดับต่างๆ พร้อมทั้งฟังเขาบอกเล่าที่มาที่ไปของ "อันดับหญิงสาว" แต่ละคนด้วยแล้ว มันก็เป็นความ "ตลกรื่นรมย์อันเหลือร้าย" แก่คนดูผู้ชมไปแบบเต็มๆ 

ถ้าหากหนังเรื่องเจ๋งๆ ของ "กาย ริชชี่" อย่าง Lock Stock & Two Smoking Barrels หรือ Snatch จะได้รับการนิยามว่าเป็นหนังที่ "เท่แบบกวนตีน" ผมคิดว่ามันก็คงไม่เกินเลยเท่าไหร่นักหากจะบอกว่า High Fidelity เรื่องนี้คือหนังอันว่าด้วยเรื่องราวของผู้ชายที่ "เท่แบบรสนิยม" ที่สุดในรอบหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมานี้



คอลัมน์ : Film 
ผู้เขียน : อภินันท์ บุญเรืองพะเนา 
โดย ผู้จัดการ 360 องศา รายสัปดาห์ 11 มิถุนายน 2553 

Views: 94

Reply to This

Replies to This Discussion

great

RSS

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service