ไปเที่ยว Ghibli Museum เบื้องหลังการ์ตูนสุดเลิฟ


 
วันหยุดยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่อากาศร้อนสุดๆกับบรรยากาศการเมืองที่ร้อนระอุยิ่งกว่า การได้เดินทางไปยังที่เย็นๆอย่างประเทศญี่ปุ่น ซึ่งใช้เวลาเดินทางไม่มาก ผู้คนอัธยาศัยดี อาหารอร่อย การเดินทางสะดวกสบาย สะอาด และปลอดภัย
ความที่เป็นเกาะเล็กๆ ซึ่งมีประชากรจำนวนมาก การใช้พื้นที่อย่างจำกัดและจำเป็นทุกตารางนิ้ว มีคนบอกว่า คนญี่ปุ่นจึงสนใจต่อทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เราจึงได้ชมรายการทีวีแชมเปี้ยน ที่มีการแข่งขันทำอาหารหรืองานฝีมือที่สร้างสรรค์อย่างหลากหลาย


ฮายาโอะ มิยาซากิ ผู้ก่อตั้ง จิ บลิ

การคิดค้นสิ่งต่างๆแล้วจัดใส่ลงในพิพิธภัณฑ์อันมีอยู่ทั่วเมืองทุกเมือง เพื่อสร้างการเรียนรู้ให้กับเยาวชน
และผู้สนใจทั่วไป มีทั้งเอกชนและของรัฐ ทั้งงานศิลปะและที่สร้างเป็นทีมปาร์คแหล่งรวมของอาหารประเภทต่างๆ เช่นพิพิธภัณฑ์ราเมงหรือขนมหวานต่างๆ อย่างตั้งใจสร้างสรรค์ให้โดดเด่นเฉพาะตัว รวมทั้งของที่ระลึกของฝากของกินซึ่งแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับฤดูกาลของพืชพรรณผลไม้แต่ละเมืองที่เราไปเยือน เป็นแบบอย่างของสินค้าโอท้อปตัวแม่ของจริง

หลายคนที่เคยดูการ์ตูนแอนนิเมชั่นของสตูดิโอจิบลิ(The Studio Ghibli เคยอ่านจิบ-ลิ ที่ถูกต้องคือ จิ-บลิ) เช่น Spirited Away, Howl′s Moving Castle, My Neighbor Totoro หรือเรื่องความรักของปลาการ์ตูนโปเนียว "Ponyo on the Cliff by the Sea" เมื่อเร็วๆนี้ นอกจากเนื้อเรื่องที่ประทับใจแล้ว ยังอิ่มตากับภาพสีน้ำแสนสวยที่เคลื่อนไหวไปตามจิตนาการของผู้กำกับ ฮายาโอะ มิยาซากิ (Hayao Miyazaki)

เพื่อให้แฟนๆการ์ตูนของฮายาโอะ มิยาซากิ ได้สัมผัสโลกการ์ตูนของเขาอย่างใกล้ชิด มิยาซากิจึงได้สร้างพิพิธภัณฑ์จิบลิขึ้น ที่เมืองมิตากะ ในสวนสาธารณะมิตากะ อิโนคาชิระ กรุงโตเกียว


 
เขามีความทรงจำเกี่ยวกับเครื่องบินที่งดงาม
----------------------

การเข้าชมพิพิธภัณฑ์จิบลิ ต้องจองบัตรราคา 1,000 เยน ล่วงหน้าได้ที่ร้านสะดวกซื้อ Lawson ระบุวันและรอบเวลาที่ต้องการ อาจเป็นเพราะว่าพื้นที่อันจำกัดของพิพิธภัณฑ์ การได้ทราบจำนวนผู้เข้าชมล่วงหน้า เป็นผลดีทั้งต่อพิพิธภัณฑ์เองและผู้เข้าชม ทำให้ไม่แออัดมากและง่ายต่อการให้บริการ

วิธีเดินทางไปพิพิธภัณฑ์ด้วยรถไฟสายด่วน(rapid train) จากสถานีอูเอโนะหรือสถานีโตเกียว สายชูโอ(Chuo line) ประมาณ 390 เยน( 100 เยน ประมาณ 35 บาท) ใช้เวลา 20 นาที ลงที่สถานีมิตากะ ออกด้านประตูตะวันตกของสวนสาธารณะ จะเห็นป้ายรถเมล์หมายเลข 9 จุดรอขึ้นรถโดยสารของพิพิธภัณฑ์จิบลิ ค่ารถ 200 เยน

ระยะทางจากสถานีไปพิพิธภัณฑ์เดินแค่ 15 นาที ไม่ไกลนักสำหรับนักเดินทางอย่างเราๆ แต่เพราะอากาศ 5 องศาเซลเซียสบวกกับสายฝนที่โปรยปรายแต่เช้า คนเมืองร้อนอย่างเราคงเดินไปไม่ถึงพิพิธภัณฑ์ เพราะอาจหนาวจนแข็งตายข้างทางเสียก่อน
เส้นทางไปพิพิธภัณฑ์ มีต้นไม้ครึ้มเขียวตลอดทาง บางช่วงยังมีดอกซากุระให้เห็นปะปราย เมืองมิตาเกะ
เมืองเล็กๆน่ารัก บ้านเรือนเป็นระเบียบสะอาดตา


Howl′s Moving Castle หลายคนชอบเรื่องนี้
--------------------------------
 

การ์ตูนฮายาโอะลึกกว่า พิกซ่าร์ หลายเท่า
-------------------------------

ภาพพิพิธภัณฑ์ที่เห็นอยู่ข้างหน้า เป็นอาคารทรงกลมหลากสีสวยต่อกันเหมือนการ์ตูน อยู่ท่ามกลางแมกไม้ของสวนมิตากะ อิโนคาชอระ มีตัวโตโตโระตัวใหญ่สัญญลักษณ์ของพิพิธภัณฑ์รับแขกตรงทางเข้า

ทั้งๆที่เราออกจากบ้านกันแต่เช้ายังใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมงเศษๆ มีคนยืนรออยู่จำนวนหนึ่งแล้ว ตามรอบที่ระบุในบัตร ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนมัธยมและเด็กๆ จำนวนคนรอเพิ่มความยาวให้แถว แม้ว่าฝนจะตก เห็นหุ่นยนต์นักรบจากเรื่อง "Laputa Castle in the Sky" ยืนรับแขกผู้มาเยือนอยู่บนหลังคา

สิบนาฬิกาตรงเปะ ประตูพิพิธภัณฑ์ก็เปิดออก มีเจ้าหน้าที่ยืนต้อนรับ 2 คน ตามสไตล์ญี่ปุ่น เมื่อเรานำบัตรไปยื่น เจ้าหน้าที่ได้ให้แผ่นพับแนะนำพิพิธภัณฑ์และฟิล์มหนังของสตูดิโอจิบลิเป็นที่ระลึก

 

เลือกซื้อ ของสะสม ที่รัก
-------------------

 
มุมนี้เด็กสนุก อย่าบอกใคร
---------------------

 
Laputa Castle in the Sky" ยืนรับแขก
-------------------------


เนื่องจากทางสตูดิโอไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป จึงต้องบอกเล่าเป็นคำบรรยาย ขาวมือทางเข้าคือห้องแรกที่เราไปเยือน มีการ์ตูนหลายเรื่องอยู่ในห้องนี้ นำเสนอให้เห็นวิธีการเบื้องหลังก่อนเป็นการ์ตูนแสนสนุก ด้วยการนำภาพวาดสีน้ำแต่ละภาพมาเรียงต่อกันหลายๆสิบแผ่น บางเรื่องให้เราใช้มือหมุนเหมือนไขลานภาพที่เรียงไว้จะเคลื่อนตัวไปเรื่อย เห็นเป็นเด็กผู้หญิงกำลังวิ่ง หรือโปเนียวปลาการ์ตูนกำลังวิ่งอยู่บนเกลียวคลื่น ดูน่าทึ่งมาก

บางภาพที่เป็นป่าใหญ่ทำเป็นรูปสามมิติ มองเห็นความลึกของแนวป่าและต้นไม้ นอกจากจะดูเสมือนจริงมาก สีสันของภาพสวยงามเกินคำบรรยาย

ได้เห็นความอุตสาหะในการสร้างการ์ตูนแอนนิเมชั่นสักเรื่อง ต้องใช้ภาพวาดเป็นหมื่นๆภาพแสนๆภาพ มาเรียงร้อยให้เกิดความเคลื่อนไหวจนเป็นเรื่องราว

มีห้องทำงานของฮายาโอะ มิยาซากิ ดูเบื้องหลังกว่าจะเป็นการ์ตูนของเขา มีภาพวาดสีน้ำที่เขียนวางไว้ระเกะระกะ ที่เขี่ยบุหรี่เต็มไปด้วยก้นบุหรี่ หนังสือนานาภาษากองโต เป็นวัตถุดิบอันจุดประกายก่อนเป็นการ์ตูนที่มีจินตการมหัศจรรย์ล้ำเหลือ


 
โอ้โห สนุกจัง
--------------------------

 
ความทรงจำที่งดงาม
-----------------


แรงบันดาลใจของฮายาโอะ มิยาซากิ จากหนังสือเหล่านี้ มีทั้งหนังสือประวัติศาสตร์ ภาพต้นไม้โบราณ
ดอกไม้นานาชนิด เราจึงได้ดูการ์ตูนสวยๆที่เกือบทุกเรื่องจะมีต้นไม้แปลกๆ, ดอกไม้หลากสี, และปราสาทๆที่ออกจะพิศดาล

โถงกลางห้องสูงหลังคาเป็นกระจกโปร่งแสง มีทางเดินเชื่อมระหว่างชั้น และบันไดวนให้เด็กๆคนอายุน้อยเดิน สำหรับผู้อาวุโสให้ใช้บันไดธรรมดา
ชั้น2 มีห้องแมวยักษ์ หรือThe Cat Bus จากเรื่อง "My Neighbor Totoro" แมวยักษ์ตัวใหญ่คล้ายรถแมวเหาะในจิตนาการจากการ์ตูน ให้เด็กๆปีนป่ายเล่นอย่างสนุกสนาน เหมือนทำความฝันให้เด็กน้อยได้เป็นจริง (ห้องนี้จะตรงกับหลังหญ้าที่มีหุ่นยนต์นักรบอยู่)
เงยหน้ามองเพดานของห้องThe Space of Womder ตะลึงกับความงามของภาพเขียน เป็นท้องฟ้ามีดวงอาทิตย์อยู่ตรงกลาง รายรอบไปด้วยผลไม้ดอกไม้นานาพรรณสีสันสวยงาม มีแม่มดน้อยกิกิจากเรื่อง "Kiki′s Dilivery Service" บินอยู่ด้วย

 

ไม่อยากกลับ
------------

มีห้องหนังสือ "TRI Hawks" ให้เด็กและผูสนใจได้อ่าน-ชมหนังสือที่มาของการ์ตูน และถ้าชอบก็ซื้อได้ในห้องถัดไป เป็นร้านขายของที่ระลึก "Mamma Aiuto" แปลว่า "แม่จ๋า ช่วยหนูด้วย" มีของที่ระลึกมากมาย ทั้งพวงกุญแจ, ที่ห้อยโทรศัพท์ ที่น่าสนใจ คือการ์ดเรื่องราวการ์ตูนทำคล้ายกระจกสี
เราผ่านห้องโรงหนังที่มีความจุ 80 ที่นั่ง เดินตามกลิ่นหอมๆของกาแฟและขนมอบ มาเจอร้านอาหารของพิพิธภัณฑ์ที่ใช้หมวกสีชมพูน่ารักจากการ์ตูนTotoro เป็นสัญญลักษณ์ มีที่แขวนหมวกหลายใบให้เด็กยืมใส่ระหว่างอยู่ในร้าน
ร้านอาหารเป็นพื้นที่เดียวที่ถ่ายรูปได้ อยู่ติดกับสวนสาธารณะ ทางเดินไปห้องน้ำ มีรูปต้องเด็กของมิยาซากิติดเรียงไว้อย่างมีศิลปะ และห้องน้ำตกแต่งสวยมาก
กาแฟรสเข้มหอมกรุ่น แซนวิชอร่อย มีธงเล็กๆเป็นรูปการ์ตูนต่างๆปักมาบนขนมปัง ทุกๆอย่างที่เสริฟ
รวมทั้งทุกเรื่องราวในทุกๆห้องของพิพิธภัณฑ์ มีการจัดเตรียมอย่างตั้งใจทุกรายละเอียด
คุ้มค่าและมีความสุขมากสำหรับการเยี่ยมชม Ghibli Museum ขอบคุณคุณฮายาโอะ มิยาซากิ ที่นอกจากสร้างการ์ตูนน่ารักมีสาระให้ดู ยังสร้างพิพิธภัณฑ์ดีๆให้ชมอีกด้วย.



ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ
เรื่องโดย มาดามหลูหลี : hluhlee@gmail.com
วันที่ 06 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

Views: 378

Reply to This

Replies to This Discussion

wanna go

RSS

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service