ความคิดสร้างสรรค์เกิดขึ้นได้ไม่จำกัดสำหรับคนรุ่นใหม่ รวมถึงเหล่า "ดรีมทีม" เยาวชนผู้ร่วมฝันช่วยกันเปลี่ยนแปลงโลกในโครงการ "Climate Cool"

โครงการสนับสนุนคนรุ่นใหม่ให้มีส่วนร่วมคิด ร่วมลงมือทำสิ่งดี ๆ ให้กับโลก จากความร่วมมือของ บริติช เคาน์ซิล สถานทูตอังกฤษ นิตยสาร a day และ Youth Venture Thailand

"จอห์น ไวท์เฮด" ผู้อำนวยการ บริติช เคาน์ซิล ประเทศไทยกล่าวว่า โครงการนี้เป็นการร่วมมือกันของคนจากหลากหลายส่วนที่จะมาร่วมกันสร้างสังคมคาร์บอนต่ำด้วยความคิดสร้างสรรค์หลากหลาย และสร้างการตระหนักรู้ การตื่นตัวให้กับตัวเยาวชนและสังคมผ่านการทำงานอย่างเป็นเครือข่าย

ทั้งนี้ "Climate Cool" ไม่ใช่การประกวดโครงการแต่เป็นการสนับสนุน คนรุ่นใหม่ที่มีความพร้อมจะสร้างการเปลี่ยนให้กับชุมชน สังคม และโลกใบนี้ โครงการนี้จึงเน้นการสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่ได้คิดและทำกิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมในแบบของตนเอง โดยการสนับสนุนของ "Climate Cool" ซึ่งประกอบด้วยความ เชื่อมั่นในผู้ที่สมัครเข้าร่วมว่าทุกคนมีความคิดสร้างสรรค์ มีความสามารถในตัวเองจึงเปิดกว้างรับไอเดียทุกประเภท

การอบรมการพัฒนาไอเดีย การคิดโครงการ หาข้อมูล ตั้งเป้าหมาย การวางแผนรวมถึงการบริหารโครงการ การอบรมในเรื่องเนื้อหาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (climat change) และการหาทางออก การมีคณะกรรมการและผู้มีความรู้ในหลากหลายสาขาอาชีพมารับฟังโครงการของทุกทีม และช่วยตั้งคำถามที่จะดึงศักยภาพของ ทุกทีมออกมาให้เต็มที่ มีพี่เลี้ยงและ ที่ปรึกษาตลอดโครงการ ให้เงินสนับสนุนตามความต้องการและขนาดของโครงการ

รวมถึงการจัดงาน จัดกิจกรรม อีเวนต์ เปิดโอกาสให้แต่ละทีมได้นำเสนอกิจกรรมเพื่อชวนคนทั่วไปเข้ามาร่วมกระบวนการเปลี่ยนแปลงและสร้างการเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายของคนรุ่นใหม่ที่ลุกขึ้นมาเป็นผู้นำความเปลี่ยนแปลงทั้งของ Climate Cool และ Youth Venture

"เพ็ญรพี รามอินทรา" ผู้จัดการฝ่ายวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม บริติช เคาน์ซิล ประเทศไทยระบุว่า โครงการที่ส่งเข้ามาเราเน้นที่ไอเดีย เราจึงคัดเลือก 12 โครงการที่ให้การสนับสนุนจากใบสมัครที่ส่งมาทั้งหมด 42 โครงการ โดยการจัดทำโครงการเหล่านี้เราต้องการเห็นผลใน 2 ส่วนคือ ผลต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อให้น้อง ๆ ได้เห็นกระบวนการและการนำเสนอความคิดให้ไปถึงคนส่วนใหญ่ในสังคม เพื่อให้เกิดการตระหนักในสิ่งแวดล้อม และในอีกด้านคือการพัฒนาตัวเด็ก เป็นการดึงศักยภาพในตัวเขาออกมาให้เต็มที่

"การคัดเลือกโครงการที่ให้การสนับสนุนทั้งด้านเงินทุนและการให้คำปรึกษา เราจึงมีโจทย์ว่าเขามีไอเดียอยากทำให้โลกดีขึ้นได้อย่างไรบ้าง" เพ็ญรพีกล่าว

"ภนิธา โตปฐมวงศ์" นักศึกษาคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 1 ใน 6 สมาชิกผู้เสนอโครงการ "Cool Bus Cool Smile" เล่าว่า โครงการของเธอและเพื่อนเกิดขึ้นจากความอยากสร้างกระแสให้คนกรุงเทพฯหันมาใช้บริการรถประจำทางแทนการใช้รถยนต์ส่วนตัว เพื่อลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมจึงเกิดเป็นโครงการจัดประกวดลวดลายรถยนต์ตามช่วงอายุในวัยต่าง ๆ โดยแบ่งประเภทการแข่งขันเป็นประถมศึกษา มัธยมศึกษา นักศึกษา และบุคคลทั่วไป

ส่วนลวดลายหรือภาพที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในแต่ละประเภทจะถูกนำไปเพนต์บนรถเมล์สาย 29 (หัวลำโพง-ธรรมศาสตร์รังสิต) จำนวน 3 คัน ซึ่งทั้ง 3 คันนี้จะวิ่งบนถนนและมีลวดลายจากรางวัลชนะเลิศติดอยู่ระหว่างเดือนเมษายน-มิถุนายน

"กิจกรรมนี้ทำให้ได้คิด ได้เรียนรู้จากการทำงานจริง ได้ลองติดต่อกับหน่วยงานราชการ เช่น ขสมก.

ซึ่งเขาก็มีหน่วยงานด้านซีเอสอาร์ที่ยินดีร่วมงานกับพวกเรา และที่สำคัญได้เรียนรู้ตัวเอง" เป็นความรู้สึกของภนิธาหลังจากได้คลุกคลีอยู่กับโครงการ Cool Bus Cool Smile มานานกว่า 4 เดือน

ขณะที่ทีม TIE Project หรือ This Is Environment Project กลุ่มคนรักละคอน บัณฑิตคณะศิลปกรรมศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ใช้ความรู้ในเรื่องกระบวนการละครทำกิจกรรมกับเด็ก ๆ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนวัดมหาธาตุ และโรงเรียนวัดตรีทศเทพ ในระยะเวลา 6 สัปดาห์ เพื่อให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้และซึมซับเรื่องสิ่งแวดล้อมจากนิทานและการแสดงบทบาทสมมติ

"สร้อยฟ้า แสนคำก้อน" และ "วิอัมพร คงศิริพาณิชย์" 2 ใน 4 สมาชิกของกลุ่ม เล่าถึงกิจกรรมของพวกเธอว่า ได้นำนิทานเรื่องต้นโอ๊กใหญ่ไม่อยากเป็นกระดาษมาเล่าให้เด็ก ๆ ฟัง แล้วใช้กระดาษรีไซเคิลทำเป็นหุ่น สร้างจินตนาการและการรับรู้ของเด็ก เพื่อให้เด็กได้สังเกต ตั้งคำถาม ผ่านกิจกรรมที่มีความสนุกสนาน ส่วนที่เลือกทำกิจกรรมกับเด็กนักเรียน ป.4 เพราะเป็นวัยที่สามารถเรียนจากสิ่งที่เป็นนามธรรมแปลงเป็นรูปธรรมได้

ส่วนผลจากการใช้ละคอนเพื่อการศึกษานี้ ทำให้เด็กนักเรียนบางคนของเธอเข้าใจและเขียนลงในแบบประเมินว่า "หนูเพิ่งรู้ว่ากระดาษทำมาจากต้นไม้" ซึ่งเป็นเรื่องที่สะท้อนความเข้าใจของเด็กและทำให้คนทำงานมีความประทับใจ

สำหรับผู้ที่สนใจจะเข้าร่วมปฏิบัติการในโครงการ Climate Cool ปีที่ 2 ทางบริติช เคาน์ซิล กำลังจะเปิดรับสมัครโครงการในเดือนพฤษภาคมปีนี้ สามารถติดตาม รายละเอียดผ่านเว็บไซต์ http://www.britishcouncil.org/th/thailand-science-climate-cool.htm ได้


ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 33 ฉบับที่ 4196