เสน่ห์หนังอาร์ตยุโรป รสชาติที่ไม่คุ้นลิ้น (แต่ก็กินอร่อยได้)

 


เมื่อพูดถึงหนัง 'ยุโรป' หลายคนคงนึกถึง ภาพของหนังที่ถ่ายทำอย่างสวยงาม เดินเรื่องเนิบช้า เพลงประกอบไม่เร้าอารมณ์ แถมบทสนทนายังไม่น่าสนใจอีกต่างหาก
จึงไม่แปลกที่หนังจากชาติยุโรปไม่ได้นั่งอยู่ในใจนักดูหนังชาวไทยหมู่มาก (จริงๆ
ก็ทั่วโลกนั่นแหละ) เพราะดูจะตรงกันข้ามกับหนังสีสันฉูดฉาด น่าติดตาม อย่าง
'ฮอลลีวูด' จากประเทศมหาอำนาจอย่างอเมริกา ที่ต้องทำทุกอย่างให้ใหญ่ ให้เยอะ
ให้เวอร์ไว้ก่อน


แต่ในโอกาสที่ เทศกาลภาพยนตร์สหภาพยุโรป 2010 มาถึงอีกครั้งในปีนี้ จึงนับเป็นฤกษ์งามยามดีที่จะชวนมาดูเบื้องลึก เบื้องหลัง
ของหนังยุโรป ว่าแท้จริงแล้ว อะไรคือ 'จุดแข็ง'
ที่ทำให้หนังยุโรปยังคงสามารถยืนหยัดต่อสู้กับฮอลลีวูดมาได้อย่างยาวนาน
และต้องปีนบันไดดูกันอย่างที่หลายคนบ่นกันหรือไม่ วันนี้มีคำตอบ



'ดูยาก' นี่แหละ คือ เสน่ห์!


“จริงๆ หนังยุโรป เสน่ห์มันก็คือความยากนี่แหละ”


รัชฏ์ภูมิ บุญบัญชาโชค นักดูหนังพันธุ์แท้ วิเคราะห์ประโยคแรกที่อาจจะทำให้มือใหม่หลายๆ คน
สะดุ้งโหยง

“แต่จุดหนึ่งที่มันยังคงยืนหยัดอยู่ได้ ก็เพราะมันยังมีกลุ่มคนดูเยอะมากพอที่จะมีเงินหมุนเวียน
ถึงเทียบสัดส่วนแล้วจะน้อยกว่าพวกหนังฮอลลีวูดอยู่
สาเหตุหลักก็เพราะยุโรปเป็นทวีปที่รุ่มรวยวัฒนธรรมมากๆ ทั้งศิลปะ วรรณกรรม การละคร
และดนตรี ต้นทุนทางศิลปวัฒนธรรมเขาเยอะกว่าใครเพื่อน แถมเริ่มต้นมาก่อน
รากทางวัฒนธรรมเขาเลยแข็งแรงมาก”


แต่สำหรับประเทศยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกานั้น หนังไม่ได้ถูกสร้างขึ้นในแง่ของ 'ศิลปะ' เท่าใดนัก

“มันถูกพัฒนาด้วยจุดประสงค์ที่ต่างกัน คือ เอามาใช้เพื่อนความบันเทิงเป็นหลัก เอามาใช้แทน 'ละครสัตว์' ดังนั้นมันจึงถูกพัฒนามาอย่างแตกต่างกัน
แต่ที่พูดถึงกันนี้มันคือ ‘หนังอาร์ทยุโรป' นะ คือความจริงแล้ว
เขาก็ทำหนังมหาชนด้วย สยองขวัญ ตลก แอ็กชัน เขาก็ทำเหมือนกัน”



'หนังอาร์ท' กับ 'ฮอลลีวู้ด' กระจกสะท้อนกันและกัน

อย่างไรก็ดี รัชฏ์ภูมิ ก็ได้เปิดมุมมองที่น่าสนใจว่า แท้ที่จริงแล้ว หนังฮอลลีวูด และหนังอาร์ทยุโรป
เป็นสิ่งคู่กันที่ไม่สามารถแยกขาดจากกันได้


“หนังอาร์ทเองก็ต้องพวกหนังมหาชนยืนไว้เป็นหลักเกณฑ์เพื่อจะได้ทำเป็นอาร์ทได้ ส่วนฮอลลีวูดเองก็เช่นเดียวกัน มันจะเป็นเหมือนการทำตรงกันข้ามกันไปกันมา
เป็นเหมือนการแก้เกมกันและกัน”

ยกตัวอย่าง หนังฮอลลีวูด เดินเรื่องเร็ว ตัดภาพรวดเร็ว บทสนทนาสั้นกระชับ ทางหนังฝรั่งเศสก็จะแก้เกมโดยการ
เดินเรื่องให้ช้าลง ทำลายขนบของหนังสูตรต่างๆ

“หนังตำรวจ ฝั่งฮอลลีวูดที่เราเห็นส่วนมากก็จะยิงกันโป้งป้างบู๊สนั่นกันตลอดทั้งเรื่อง
แต่หนังตำรวจฝรั่งเศสกว่าจะเริ่มยิ่งนัดแรกบางทีหนังผ่านไปชั่วโมงหนึ่งแล้ว
แถมเป็นตำรวจเพิ่งเรียนจบใหม่ โดนใช้ให้ทำงานเดินเอกสารเกือบทั้งเรื่อง"


หรือแม้แต่พวกหนังภัยพิบัติโลกแตกทั้งหลาย ฝั่งอเมริกาก็จะเน้นเรื่องสถาบันครอบครัว เช่น เรื่อง ง2012’
ทื่พ่อแม่ลูกพยายามช่วยกันเอาชีวิตให้รอด ทางฝรั่งเศสก็จะบิดให้สุดโต่ง คือ
หลังจากพระเอกรู้ว่าโลกจะแตกแน่นอนแล้ว ก็เลยเลิกกับภรรยา ขับรถไปหาชู้
แถมเจอสาวถูกใจระหว่างทางก็ฟันแหลกซะอย่างนั้น


“ฝั่งหนังตลาดเองก็ลอกเขามาเหมือนกันนะ อย่างเรื่อง ‘District 9’ ก็ลอกฟอร์มของหนังสารคดีทดลองเก่าๆ ของยุโรป ถ้าจะให้สรุปก็คือ
ฝั่งอาร์ทถ้าจะเอาฮอลลีวูดมาจะเอามาบิดให้แตกต่าง
แต่ในทางกลับกันฮอลลีวูดจะเอามาทำให้ง่ายและใหญ่”



ต่างชาติ ต่างรส ให้เลือกชิม

“คือจริงๆ แล้วหนังยุโรปมันมีหลายประเทศมาก แต่ละชาติก็มีแนวทางของตัวเองอยู่ แต่เรามักจะติดภาพหนังฝรั่งเศส เยอรมัน
หรือสแกนดิเนเวีย ที่ค่อนข้างดูยาก ดำเนินเรื่องช้า ไม่เร้าอารมณ์”
หนุ่มนักดูหนังอธิบายถึง 'มายาคติ' ของนักดูหนังทั่วไปที่มีต่อหนังอาร์ตยุโรป


แต่ที่จริงแล้ว ชาติยุโรปมีมากมายหลายรสชาติ ให้เลือกชมเลือกชิม เพราะแค่ในสหภาพยุโรป ก็มีสมาชิกถึง 27 ประเทศแล้ว จึงขอไกด์โดยย่อถึงลักษณะเด่นๆ
ของแต่ละชาติ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการเลือกชม เลือกชิมให้ถูกรสนิยม


ในบรรดาทุกชาติในยุโรป 'อังกฤษ' จะทำหนังได้ดูง่ายที่สุดในทวีป เพราะค่อนข้างลงตัวระหว่างความเป็นหนังตลาดกับหนังอาร์ท
แต่ก็ทำให้เสน่ห์ค่อนข้างลดน้อยลงไปในภาพรวม ผิดกับ 'ฝรั่งเศส'
ที่จะสุดทางไปเสียทุกเรื่อง มีทั้งหนังนิ่งๆ เอื่อยๆ สุดๆ
ไปจนถึงหนังสยองสุดโหดเลือดสาเต็มจอ ไปจนถึงหนังเกี่ยวกับเพศระดับฮาร์ดคอร์


ทางด้านแดนสปาเก็ตตีอย่าง 'อิตาลี' จะมีความโฉ่งฉ่างมากกว่าเพื่อน เรียกได้ว่า บิวท์อารมณ์ได้เก่งสุดๆ ส่วนใครที่บอกว่าหนังยุโรปพูดน้อยจนอึดอัดนั้น
ต้องลองชิม 'สเปน' เพราะพูดกันน้ำไหลไฟดับ
แถมทั้งภาพและจังหวะการเล่าเรื่องถือได้ว่า ฉูดฉาดสุดๆ


ส่วนถ้าเกิดว่าเก๋าพอตัวแล้ว อยากลองซัดกับรุ่นใหญ่ก็ขอแนะนำ 'เยอรมัน' เพราะเสียงลือเสียงเล่าอ้างหลายคนบอกว่าพี่แก 'ดุ' จริง อะไรจริง
เพราะเมืองเบียร์แห่งนี้ผ่านสงครามครั้งใหญ่มา แผลในใจเลยเยอะเป็นพิเศษ ซึ่งหลายๆ
เรื่องอึดอัดและกดดันมาก

ส่วนประเทศยุโรปตะวันออก มักจะเน้นภาพยนตร์ที่อิงจากเรื่องในสังคม ไม่ค่อยมีเรื่องระดับบุคคล เช่น ครอบครัว
คนรัก โดยมากมักเป็นเรื่องชนชั้นและการประท้วงเสียมากว่า
นอกจากนี้ก็ยังมีประเทศที่น่าสนใจอย่าง 'โปแลนด์' ที่ทำหนังขรึมๆ เครียดๆ และ
'สาธารณรัฐเชก' ที่ทำหนังเชิงสังคมออกมาได้ตลกและมีชั้นเชิง


แต่สำหรับมือใหม่แล้ว รัชฏ์ภูมิ บอกว่า ไม่ต้องรีบร้อนลงสนามกับหนังยากๆ เพราะอาจจะทำให้ขวัญหนีดีฝ่อ ก่อนจะได้เจอกับด้านที่สวยงาม


“สำหรับมือใหม่ไม่ต้องรีบไปลุยกับหนังยากๆ หรอกครับ เพราะอาจจะทำให้ตกใจ เหวอ จนไม่กลับมาดูอีก
ทางที่ดีลองเลือกหนังที่ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาต่างประเทศมาดูก่อน
ตามพวกแผงขายดีวีดีลดราคาหน้าโรงหนังลิโด
เพราะพวกนี้ถือว่าได้รับการคัดมาแล้วว่าดูง่ายต่อคนหมู่มาก
แต่พอเราเริ่มคุ้นชินแล้วค่อยเริ่มขยับไปดูพวกหนังจากเทศกาลภาพยนตร์ต่างๆ
ที่จะลุ่มลึกและยากกว่า”



หนังยากๆ ดูยังไง? ดูแล้วได้อะไร?

จนมาถึงตรงนี้หลายอาจจะยังคงคาใจอยู่ดีว่าจะดูหนังอาร์ตๆ ยากๆ เหล่านี้อย่างไร เพราะดูมากี่ทีก็ไม่เห็นจะเข้าใจกับเขา


“เราว่าต้องลองดูแบบอย่าพยายามไปตีความ คนไทยส่วนใหญ่จะติดเวลาดูหนังไม่รู้เรื่อง
เพราะไปตั้งธงว่าดูหนังสนุกได้ต้องตีความออก ต้องเข้าใจก่อน แล้วค่อยชอบ แต่จริงๆ
แล้วหนังสไตล์นี้ควรจะชอบก่อน ดูเพลินๆ ไปก่อน แล้วถ้ามันโดนใจเรา
เราค่อยเริ่มเอามาคิดมาวิเคราะห์ ซึ่งจุดนั้นแหละที่เราจะเริ่มสนุกกับมันแล้ว
แต่ถ้าเราไปฝืนพยายามทำความเข้าใจตลอดเวลาเราจะทำความสนุกหล่นหายไป”


ส่วนโจทย์ที่ว่าให้เริ่มจากดูหนังง่ายๆ ก่อนนั้น เป็นเพราะว่าคนดูหนังทั่วๆ ไปมักเคยชินกับการเล่าเรื่องแบบฮอลลีวูดจนดูหนังแบบอื่นไม่ได้ จึงต้องค่อยๆ
ปรับตัวทีละนิดไปก่อน

“คือถ้าคุณอยากดูหนังยากๆ แต่แรกคงไม่มีปัญหา แต่กับคนที่ยังกล้าๆ กลัวๆ อยากให้ค่อยๆ เคยชินกับวิธีการเล่าเรื่องแบบอื่นๆ
ที่ไม่ใช่แบบตลาดก่อน เวลาเราชินแล้วเราก็จะไม่รีบร้อนตัดสินว่า
ทำไมเดินเรื่องช้าจัง อืดจัง อึดอัดจัง
พอเปิดใจได้เราก็จะยอมรับได้แล้วว่ามันมีหนังประเภทอื่นๆ อยู่ด้วยนะ”



ส่วนข้อดีของมัน หนุ่มอารมณ์ศิลป์คนนี้ก็อธิบายว่าได้การ 'ต่อยอด' ที่ดี

“หนังฮอลลีวูดมันจะจบในตัว ไม่ต้องพูดจา หารือกันแล้วหลังออกจากโรง แต่หนังอาร์ทยุโรปเวลาดูเสร็จเราจะเกิดการพูดคุยกัน เพราะเรามองต่างกัน
วิเคราะห์ต่างกัน มันทำให้เราอยากจะหาบทวิเคราะห์ วิจารณ์มาอ่าน
อยากหาความรู้เกี่ยวกับประเทศอื่นมากขึ้น ซึ่งเรามองว่ามันเป็นเรื่องที่ดีนะ


“แถมหนังอาร์ทมันยังมีมุมมองที่อิสระกว่าด้วย เพราะไม่ต้องทำตามโจทย์แบบฮอลลีวูดที่ต้องคำนึงถึงคนหมู่มาก
แต่เป็นการเสนออะไรก็ได้ที่ผู้สร้างอยากจะเสนอ
ซึ่งมันก็เป็นการเปิดมุมมองให้เราเห็นอะไรเยอะขึ้น เพราะบางทีดูฮอลลีวูดเยอะๆ
มันก็จะเริ่มวนเหมือนกัน”


แต่อย่างไรก็ดี รัชฏ์ภูมิ ทิ้งท้ายว่า จะหนังอาร์ทยุโรป หนังฮอลลีวูด หนังไทย หรือหนังอะไรก็ดี
ล้วนมีทั้งหนังดีและแย่ทั้งนั้น
ดังนั้นขอแค่เปิดใจแล้วดูอย่างไม่ต้องตัดสินว่าใครดีกว่าใคร คงจะดีที่สุด

 

 


>>>>>>>>>>>


มาดูหนังอาร์ทยุโรปกันเถอะ!


ปีนี้ เทศกาลภาพยนต์สหภาพยุโรป 2010 จัดฉายผลงานภาพยนตร์ร่วมสมัยถึง 19 เรื่อง จาก 15 ประเทศในสหภาพยุโรป ในช่วงเวลากว่า 10 วัน ในแนวทางหลากหลาย
ทั้งแนวตลก ความรัก ดราม่า ระทึกขวัญ และผจญภัย


มีไฮไลท์ของงานเป็นหนังจากประเทศแปลกๆ หลายเรื่อง เช่น ‘LOFT’ (2008) จากเบลเยียม ที่ว่าด้วยเรื่องของหนุ่มเจ้าสำราญ 5
คนที่เช่าห้องร่วมกันไว้รับรองสาวๆ
แต่เช้าวันหนึ่งดันมาพบศพหญิงสาวกลางห้องซะอย่างนั้น จนเกินการระแวงกันครั้งใหญ่


ส่วนทางฟินแลนด์ก็ขนภาพยนตร์ดราม่า ‘LETTERS TO FATHER JACOB’ (2009) ที่เล่าเรื่องของนักโทษหญิงผู้ถูกจำคุกตลอดชีวิตซึ่งได้รับการอภัยโทษ
โดยต้องมาทำงานรับใช้นักบวชตาบอดแทน
อันเป็นการสลับบทบาทผู้ให้และผู้ถูกช่วยเหลือที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง


หนังอารมณ์สนุกสนานก็มีให้ดู เช่น ‘STORM BOUND’ (2007) จากเนเธอร์แลนด์ ที่เล่าเรื่องการผจญภัยของเด็กชายวัย 14 ที่ใฝ่ฝันถึงชีวิตและการผจญภัยบนท้องทะเล
แม้พ่อของเขาจะถูกฆาตกรรมบนเรือก็ตาม ขณะที่ออสเตรียก็ขนหนังเอาใจคอลูกหนังอย่าง
‘KICK OFF’ (2007) มาให้อาดรีนาลีนได้สูบฉีดเช่นกัน

ยังมีหนังให้เลือกชม จากหลายชาติ หลายแนว ทั้งตลก เศร้า สนุกสนาน แม้แต่สารคดี หรือ อนิเมชัน
ก็มีให้เลือกชม ใครที่สนใจ ก็สามารถตรงดิ่งไปที่ หอศิลปฯ กรุงเทพมหานคร
(ตรงข้ามมาบุญครอง) ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2553
โดยเปิดให้ชมฟรีทุกรอบ โอกาสแบบนี้ถ้าปล่อยให้หลุดมือไป
ต้องตามไปดูถึงเมืองเชียงใหม่ เพราะเขาจะเดินสายไปฉายต่อที่ เรือนโบราณล้านนา 140
ปี โครงการตลาดอนุสาร (ถนนเจริญประเทศ) ในวันที่ 4-14 พฤศจิกายน 2553 นี้




โดย: แมวหง่าว
ที่มา: ASTVผู้จัดการรายวัน 28 ตุลาคม 2553

Views: 1275

Reply to This

Replies to This Discussion

ขอบคุณข้อมูลดีๆด้านนี้ที่ได้แบ่งปันมาค่ะ

RSS

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service