เปลือยหนังอีโรติก ตีตั๋วดูสาวร้อน ประชันเต้าบนจอเงิน

 

ดูเหมือนว่าหนังอีโรติกเรื่อง "ผู้หญิง 5 บาป 2" ที่ค่ายหนังที่ประกาศชัดเจนว่า เกิดมาเพื่อสร้างหนังอีโรติก อย่างที-มูฟวี่ ฉายฉลอง พ.ร.บ.เรตติ้ง ท่ามกลางเหตุการณ์ก่อความไม่สงบ จะกลายเป็นนางกวักศักดิ์สิทธิ์ โบกมือเรียกหนังอีโรติก ที่เคยถูกกองเซ็นเซอร์ฆ่าด้วยคมกรรไกร ฝังกลบ ให้ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง 

แม้ไม่อาจเรียกว่าเป็นปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ แต่รายชื่อหนังอีโรติกทั้งจากค่ายเล็ก และค่ายใหญ่ยักษ์ ที่กำลังชักแถวเข้าโรงให้แฟนหนังที่อายุครบ 20 ปีได้สยิว ไม่ว่าจะเป็น "น้ำมันพราย", บาปหนา, มหา'ลัยสยิวกิ้ว และที่แน่ๆ ก็คือ SUGAR BROW หรือ "น้ำตาลแดง" ของค่ายสหมงคลฟิล์มฯ ที่รวบรวม 6 เรื่องรสรักจากดาราเซ็กซี่แห่งยุค ทั้ง "อุ้ม-ลักขณา วัธนวงส์ศิริ, ครี-พัสวีพิชญ์ ศรณ์อัคราภา, แอนนา รีส, ปรางทอง ชั่งธรรม" รวมไปจนถึง "เป้ย-ปานวาด เหมมนี" มาให้แฟนหนังผู้ใหญ่ได้เลือกลิ้มรสหวานกันตามจริต ก็เป็น 

ปรากฏการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อนก็แล้วกัน 

- ปรากฏการณ์ดังกล่าวสะท้อนอะไร? 

- อะไรทำให้ค่ายยักษ์สหมงคลฯ เลิกเมินหนังอีโรติก และหันมาปันงบให้ในชั่วโมงนี้? 

- หนังอีโรติก เป็นทางเลือกของคอหนัง ที่เบื่อหนังตลก และเอียนหนังผี จริงหรือ? 

สาวเท้าตามหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ 360 องศา รายสัปดาห์ ไปเปิดบั้นท้ายปรากฏการณ์หนังอีโรติกที่กำลังเป็นกระแส พร้อมๆ กันได้เลย... 

หนังอีโรติก ไม่ใช่ของใหม่ที่คอหนังไทยไม่เคยสัมผัสมาก่อน เพราะแวดวงจอเงินบ้านเราเคยเสพหนังอีโรติกชั้นเลิศ อย่าง "กลกามแห่งความรัก" ที่ทำลายทุกสถิติการเข้าดูของผู้ชม เมื่อปี 2532 กระทั่งได้รับรางวัลตุ๊กตาทองบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม "สวรรค์ชั้น 7" ในปี 2533 และ "มาม่าซัง" หรือ "กลกามแห่งความรัก 2" ของอีโรติกตัวพ่ออย่าง "ทรนง ศรีเชื้อ" มาตั้งแต่เมื่อครั้ง พ.ร.บ.เรตติ้งยังไม่เกิดด้วยซ้ำไป 

แต่ดูเหมือนว่าถัดจากนั้น หนังอีโรติกที่เคยได้ทั้งเงินและกล่อง ต่างก็ทยอยเสียพื้นที่ให้หนังผี และหนังตลกจนสิ้น แม้จะมีผู้กำกับบางคนพยายามผลักดันให้หนังแนวดังกล่าวกลับมาเป็นตัวเลือกให้ผู้บริโภคบ้างก็ตาม ทว่าที่สุดแล้วหนังเหล่านั้นก็ไม่พ้นคมกรรไกรเซ็นเซอร์ หรือหลุดรอดออกมายิ่งใหญ่อย่างที่เคยเป็น 

การกลับมาของหนังอีโรติกในวันที่คนทำหนังมี พ.ร.บ.เรตติ้งเป็นเสื้อเกราะ จึงเป็นเรื่องชวนตื่นเต้นไม่น้อย สำหรับคนทำหนัง และคอหนังไทย คนกลุ่มนี้พากันลุ้นว่าหนังอีโรติก จะเผ็ดร้อน และดีพอจะตีวงล้อมเข้ามากระชับพื้นที่ กระทั่งทวงคืนจากหนังผีและตลกได้หรือไม่?? 

"ว่ากันตามจริงแล้ว การมาถึงของหนังอีโรติก ของแวดวงหนังไทย พ.ศ.นี้ มีส่วนคล้ายกับยุคทองของหนังฮอลลีวูด และฮ่องกง เมื่อปี 1960 นะ ทันทีที่ประเทศร่วงสู่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ พิษเศรษฐกิจก็ฟาดใส่ทุกการลงทุน ซึ่งรวมถึงวงการหนังด้วย เห็นได้จากค่ายหนังที่ไม่พร้อมจะเสี่ยงกับหนังทุนสร้างสูงๆ ต่างก็พากันเปลี่ยนทิศทางมาสร้างหนังทุนน้อย อย่างอีโรติก อย่าง erotic ghost story, the imp กันถ้วนหน้า" สุกิจ นรินทร์ ผู้กำกับเจ้าของหนังอีโรติกอย่าง "ผู้หญิง 5 บาป 2 เปรียบเทียบ และพูดที่มาของหนังอีโรติกให้ฟัง พร้อมขยายให้เห็นภาพว่า 

"เมื่อใดที่เศรษฐกิจแย่ วงการหนังก็ซบเซา หนังทุนใหญ่ก็จะค่อยๆ หมดลมหายใจ ถึงจะไม่สูญพันธุ์ทันที แต่จำนวนหนังทุนใหญ่ยักษ์ๆ ก็เหลือน้อยเต็มที ขณะที่ค่ายที่ไม่ยอมจำนนต่อความตาย ก็หันมาสร้างหนังสเกลเล็กทุนต่ำ พอเป็นหนังทุนต่ำ หวยจึงมาออกที่ หนังตลก ผี และก็อีโรติกนี่แหละ" 

ค่ายหนังตั้งลำ 
เจียดงบลุยหนังเสียว
 

จะด้วยเล็งเห็นช่องทาง หรืออะไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่าการขยับลงมาร่วมวงหนังอีโรติกของค่ายยักษ์ใหญ่ อย่างสหมงคลฯ ก่อให้เกิดเสียงคาดเดา กระทั่งเขย่าวงการหนังไทยให้เป็นที่สนใจได้มากโข เกี่ยวกับเรื่องนี้ "บัณฑิต ทองดี" โปรเจกต์แมเนเจอร์ของหนังติดเรตเรื่อง BROWN SUGAR หรือน้ำตาลแดง ค่ายสหมงคลฟิล์มฯ ให้เหตุผลที่สหมงคลฯ โดดลงมาทำหนังอีโรติก ง่ายๆ ว่า ต้องการต้อนรับ พ.ร.บ.หนังฉบับใหม่ที่มีการจัดเรตติ้ง 

"เมื่อก่อนมันไม่มี ก็ไม่กล้าทำ เพราะถึงทำไปก็มีการตัดทอน อรรถรสก็เสียไป เมื่อเสียอรรถรส คนดูก็ไม่อยากดูอยู่แล้ว ไปดูหนังแผ่นดีกว่า ทีนี้พอ พ.ร.บ.มันมีความชัดเจนขึ้นมา มันเลยดูมีตลาดให้เลือกมากขึ้น มีทางเลือกให้กับหนังไทยมากขึ้น" 

"ในส่วนของการจัดสรรนโยบาย ตั้งเป้าอะไรนี้ ทางสหมงคลฯ ไม่ได้กำหนดเลยครับ ไม่ได้กำหนดเป็นเรื่องเป็นราวว่าจะทำกี่เปอร์เซ็นต์ของจำนวนหนังทั้งหมดของบริษัท แต่จะทำออกมาเรื่อยๆ เพียงแต่ว่าเรื่องแรกๆ นี้ จะเป็นการลงทุนที่ไม่สูงนัก เพราะว่ามันจะเป็นการทดลองตลาดก่อน แต่ถ้าถามว่าปีหนึ่งจะทำกี่เรื่อง จะต้องดูความเหมาะสม และดูจำนวนความต้องการของตลาดด้วย หรือว่ามีผู้กำกับที่อยากทำหนังแนวนี้หรือเปล่า พูดง่ายๆ ถ้าเราอยากทำสักสิบเรื่องต่อปี แต่ถ้ามันไม่มีผู้กำกับมาทำ มันก็ทำไม่ได้" บัณฑิต เผย ก่อนจะพูดถึงตัวเลขว่า 

"สำหรับผมแล้วหนังอีโรติกจะโกยรายได้หรือไม่ ไม่ได้อยู่ที่บทอย่างเดียวนะ ต้องขึ้นอยู่กับโปรดักชั่น คุณภาพของนักแสดงก็มีผลเช่นกัน ถ้าบทไม่ดี นักแสดงไม่ดี ก็ทำให้หนังออกมาไม่ดี ทุกอย่างต้องสอดคล้อง แต่การจะดึงดาราเกรดเอมาดูดคนดูเข้าโรง ในวันที่หนังอีโรติกยังถูกชาวบ้านมองว่า เป็นหนังลามกอนาจาร ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย 

"ตอนนี้กลายเป็นว่านักแสดงที่กล้าเล่น ส่วนใหญ่ล้วนเป็นดาราที่มีภาพลักษณ์เซ็กซี่ กล้าถอด กล้าโชว์อยู่แล้ว คนดูเลยไม่รู้สึกพิเศษหรือตื่นเต้นอะไร แต่ถ้าสักวันมีดาราที่เป็นนางเอกแถวหน้าลงมาเล่น บางทีอาจทำให้ตลาดของหนังอีโรติกบูม และทำกำไรมหาศาลก็ได้"โปรเจกต์แมเนเจอร์แห่งค่ายใบโพธิ์ วิเคราะห์ 

บางทีสิ่งที่บัณฑิต พยายามจะสื่อ อาจเป็นสิ่งเดียวกับที่ สุกิจ แห่งที-มูฟวี่ เชื่อมั่นเต็มร้อยว่า หากมีหนังอีโรติกสักเรื่องทำเงิน 30-50 ล้านบาท คาดว่าคงมีดาราเกรดเอ ลงมาเปลื้องผ้าจนทำให้แวดวงหนังอีโรติกบานฉ่ำ เหมือนอย่างที่ยุคหนึ่งหนังเรื่อง Sex & Zen ของฮ่องกง กอบโกยเม็ดเงินจำนวนมหาศาลจากฮ่องกง และทะลุขึ้นไปบุกตลาดโลกได้ แน่นอน 

ซึ่งก็คงจริงอย่างที่เขากล่าว เพราะจนถึงวันนี้ไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่าความสำเร็จของหนังอีโรติกบนเกาะนั้น ส่วนหนึ่งมาจากการเปลื้องผ้า อวดเรือนร่างของดาราเกรดเอที่ยินยอมพร้อมใจแก้ผ้ากู้วิกฤต อย่างน่าชื่นชม 

"อย่างหนังของหม่อมน้อย (หม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุล) เรื่อง "ชั่วฟ้าดินสลาย" ถ้า อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม แก้ผ้าหมด แล้วได้เงินแค่ 50 ล้านเนี่ย เชื่อเถอะว่าจะมีคนกล้าลงทุนจ้างดาราดังๆ แน่ อย่างผมมี 5 ล้าน บางที อั้ม-พัชราภา อาจจะมาแสดงให้ก็ได้นะใครจะไปรู้" สุกิจ ตั้งสมมติฐานให้ฟัง 

"ผมว่านักแสดงนำนี่แหละที่จะเป็นตัวชี้เป็นชี้ตายว่าหนังเรื่องไหนจะขายหรือไม่ขาย" ภีมเขตร บุตรเพชรวรัท กรรมการบริหารแห่งค่ายที-มูฟวี่ สนับสนุน ก่อนจะทิ้งท้ายว่า "ใครๆ ก็อยากดูของสวยของงามทั้งนั้นแหละครับ คิดดูสิว่าถ้าเอาที่น่าเกียจๆ มา แล้วมันจะขายได้เหรอ ดาราแม่เหล็กจึงเป็นตัวแปรหลักของหนังอีโรติก" 

เชื่อ...ฮอลลีวูด-ฮ่องกงโมเดล 
กระตุ้นอีโรติกไทยแข็งตัว
 

แม้ตัวเลขหลักฐานจะยืนยันว่า ผู้หญิง 5 บาป 2 ที่เขาปล่อยออกมาก่อนหน้า จะทำรายได้เพียงหยิบมือ จนคนในวงนอกมองว่าเจ๊งไม่เป็นท่า แต่ทว่าสำหรับสุกิจแล้ว การตอดเล็กตอดน้อยให้ผลเป็นที่น่าพอใจ มากกว่าการเดินฝ่าพายุเศรษฐกิจทำหนังฟอร์มยักษ์ ที่มีโอกาสเจ็บตัวเป็นไหนๆ 

"คุ้มเกินคุ้มครับ สำหรับผู้หญิง 5 บาป 2 คือ ที-มูฟวี่ มีโมเดลว่าเราจะทำหนังลงทุนไม่เกิน 6 ล้านบาท เพื่อที่ว่ารวมรายรับหมดแล้ว สามารถถัวเฉลี่ยกับค่าสายหนังต่างจังหวัด ให้มันคุ้มทุนให้ได้ แล้วส่วนในกรุงเทพฯ ก็จะเหลือแต่กำไรล้วนๆ ขณะที่อีกสองทางที่จะเป็นกำไรมากกว่าแน่ๆ คือสายของหนังแผ่นกับสายต่างประเทศ อย่างการฉายโรง เฉพาะ กทม.ทั้งๆ ที่อยู่ในช่วงเผาบ้านเผาเมือง และวัยรุ่นที่อายุไม่ถึงเกณฑ์หมดสิทธิ์ดู ถึงอย่างนั้น ที-มูฟวี่ ก็ยังได้ 6 ล้านบาท ตรงนี้ผมว่าก็โอเคนะ นายทุนก็แฮปปี้แล้วจริงไหม" ผู้กำกับแห่งค่ายที-มูฟวี่ เผยตัวเลขกำไร พร้อมแปรความคาดหวังที่ซ่อนอยู่ในใจออกมาเป็นคำพูดว่า 

"ตัวเลขกำไรจะสูงกว่านี้อีกนะ ถ้ามีการดึงดาราเกรดเอมาร่วมจอ เหมือนครั้งหนึ่งที่ฮอลลีวูด หรือฮ่องกง เคยทำสำเร็จมาแล้ว ซึ่งจะเห็นว่าตอนที่เขาหยิบหนังอีโรติกขึ้นมารักษาตลาด เขาก็ใช้กลยุทธ์ดึงดาราเกรดเอ อย่าง จูลี คริสตี้, แองเจลิน่า โจลี, คิม เบซิงเจอร์, ซูฉี, องหง, เส้าเหม่ยฉี มาเล่นนะ" 

ฟันธง...หนังสยิวขายได้ 
ทุนต่ำ กำไรเน้นๆ
 

ถึงหนังอีโรติกที่กำลังเป็นกระแสจะสร้างมูลค่าทางภาพยนตร์แนวใหม่ขึ้นก็จริง แต่หลายเสียงก็เชื่อว่า หนังอีโรติกยังไม่ดีพอที่จะสร้างเงินได้เป็นกอบเป็นกำเหมือนกับหนังผี ที่เริ่มจะหมดความน่ากลัว หรือหนังตลก ที่กำลังจะหมดมุกมาเรียกเสียงหัวเราะจากคนดูในโรง 

"ที่เป็นอย่างนั้นผมว่า เพราะคนไทยยังเขินอายกับการเข้าไปดูหนังแนวนี้อยู่ สังคมไทยยังมีความอายไม่กล้าเปิดเต็มที่ คนไทยยังมีจริตกับเรื่องแบบนี้อยู่มาก ที่สำคัญยังแสดงออกมาไม่ชัดเจน เหมือนกับ เกาหลี ญี่ปุ่น ที่เลือกซื้อหรือเข้าชมภาพยนตร์แนวนี้กันเป็นปรกติ"อ๊อด-บัณฑิต บอกเหตุผลที่มีส่วนทำให้อีโรติกเป็นหนังแคระให้ฟัง 

ก่อนจะย้ำด้วยน้ำเสียงเชื่อมั่นว่า "ถึงหนังอีโรติกจะไม่สามารถหลุดขึ้นมาเบียดหนังตลก และหนังผี ตามเสียงเชียร์ของแฟนหนังได้ แต่ค่ายหนังเล็กใหญ่ ที่ลี้ภัยมาสร้างหนังทุนสเกลเล็กแทนหนังฟอร์มยักษ์ร้อยล้าน ปิดประตูขาดทุนแน่นอน แต่ทั้งนี้ผมหมายถึงหนังที่ทำ ทั้งตัวผู้กำกับ และนักแสดง ก็ต้องเต็มที่ และกล้าเล่นด้วยนะ ถ้าผู้กำกับ หรือนักแสดง กล้าเล่นมากขึ้น หนังอีโรติกไทย ก็มีโอกาสถึงยุคเฟื่องฟูเร็วขึ้น" 

เกี่ยวกับประเด็นนี้ "ภีมเขตร" กรรมการบริหารแห่งค่ายที-มูฟวี่ ประเมินมูลค่า และมองทิศทางการเติบโตว่า "ถ้าจะให้ประเมินมูลค่าโดยรวม เราต้องเริ่มจากว่าปีหนึ่งมีหนังไทยประมาณ 40 เรื่อง ต่างประเทศ 200 เรื่อง มันมีพื้นที่ฉายอยู่เท่านี้ แต่อีโรติกมันก็แค่เติมเซกเมนต์ในตลาดเข้าไปเท่านั้น การจะมาแชร์ส่วนแบ่งตลาดหนัง สำหรับอีโรติก เต็มที่คงไม่เกินกว่า 5 เปอร์เซ็นต์นะ เพราะต้องยอมรับความจริงว่า วันนี้ตลาดหนังหลักๆ ของผู้บริโภคยังคงเป็นแอกชั่น ผี ตลก ส่วนอีโรติกมันเป็นนิชมาร์เกต ที่ไม่มีทางที่จะเป็นแมสได้เลย ไม่มีอีโรติกเรื่องไหนที่เป็นแมสในโลกนี้ในความรู้สึกผม เพราะว่าคนที่เค้าจะดู ก็ต้องชั่งใจตัวเองแล้วล่ะว่าเค้าอยากจะดู อีกอย่าง มันก็มีระบบจัดเรตอยู่แล้ว ซึ่งตรงนี้แน่นอนว่าเยาวชนก็คงดูไม่ได้" 

ฉากสุดท้ายของหนังอีโรติกเมืองไทย จะจบสวยสดงดงามอย่างที่คนทำหนังวาดหวัง หรือจะเป็นแค่ความฝันลมๆ แล้งๆ คงต้องย้อนกลับไปถามหาความจริงใจจาก พ.ร.บ.เรตติ้ง-เจ้าของโรง-เจ้าของทุน-ผู้กำกับ-นักแสดง ตลอดถึงคนดูว่า ยังสร้างหนังอีโรติก เพียงเพื่อต้องการขายเต้าขายตูด หรือเห็นหนังอีโรติก เป็นเรื่องลามกอนาจาร เพียงเพราะฉากบางฉากที่สอดแทรกอยู่ในหนัง มากกว่ามองหนังทั้งเรื่อง เหมือนบางช่วงบางตอนที่พิธีกรข่าวบางคนนิยมนำมาใช้!!??? 





"ตั๊ก-บงกช คงมาลัย" 
เส้นแบ่งบางๆ ระหว่างโป๊-อีโรติก 


ไม่ใช่ตัวเลขจำนวนปี หรือฉายานางเอกหน้าอกภูเขาไฟหรอก ที่ทำให้เราเลือก "ตั๊ก-บงกช คงมาลัย" นางเอกตลอดกาลที่คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงหนังไทยมานานปี หากแต่เป็นความสามารถขั้นเอกอุที่ยังไม่มีนักแสดงหญิงคนไหนเทียบเธอได้ กอปรกับห้วงเวลา และฉากเปลื้องผ้า ในผลงานภาพยนตร์กับที-มูฟวี่ เรื่อง POPSTAR ดวงอันตราย ซึ่งเธอแสดงคู่กับ เจ-มณฑล จิรา "ตั๊ก บงกช" มีเส้นแบ่งบางๆ ระหว่างคำว่าอีโรติก กับคำว่าโป๊ อย่างไร 9 Q&A มีคำตอบ 

1.POPSTAR...พูดถึงเรื่องราวอีกด้านหนึ่งของคนดัง ที่หลายคนไม่รู้ว่าที่จริงแล้วเขาก็มีทั้งสุข และทุกข์ ในเรื่อง ตั๊ก แสดงเป็นผู้หญิงธรรมดา ที่เดินเข้ามาในชีวิตของเจ (ซูเปอร์สตาร์ที่ชีวิตสมบูรณ์แบบ) ในฐานะแม่เลี้ยง ที่ยอมแต่งงานกับพ่อของเจเพื่อต้องการอยู่ใกล้เจ (อดีตคนที่เธอรัก) 

2.เหตุที่รับเพราะ ตั๊ก อ่านบทแล้ว รู้สึกชอบ เพราะชีวิตเจซึ่งมีทุกอย่าง ถ้าเขาเลือกที่จะอยู่และพอใจในสิ่งที่เขามี แทนที่จะมุ่งมามองเมียใหม่ของพ่อ ฉากอีโรติกที่ปรากฏอยู่ในหนังเรื่องนี้ สำหรับตั๊กแล้วมันเป็นเหมือนตัณหาที่เข้ามาก่อกวนใจเขาเท่านั้น ถ้าเขาก้าวข้ามไปได้ เขาก็พ้นจากความทุกข์ ถ้าก้าวไม่พ้นเขาก็จะจมอยู่กับทุกข์ 

3.ตัดสินใจนาน...ทั้งที่จริงๆ แล้วหนังเรื่องนี้มีฉากตั๊กไม่มากนะ สาเหตุที่ตัดสินใจเล่นไม่มีเหตุผลอื่นนอกจากหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ให้ความรู้สึกหม่นๆ แต่ฉายความเป็นจริง แน่นอนว่ามันน่าจะทำให้คนไทยที่เข้าไปดูในโรงเข้าใจคำว่าอีโรติกมากกว่าความหมายที่เข้าใจกัน และตั๊กเป็นเพียงนักแสดงที่แสดงให้พวกเขาเห็นความจริงตรงนั้นโดยไม่มีการโปรโมตใดใด 

4.เสน่ห์หนังอีโรติก...สำหรับตั๊กมันมีหลายองค์ประกอบรวมกัน ทั้งในส่วนที่เป็นบท นักแสดง ทีมงาน ค่ายหนัง โปรดิวเซอร์ รวมไปถึงคนทำงานที่ร่วมแรงร่วมใจ ตั๊กเชื่อว่าหนังอีโรติก หรือไม่อีโรติก ถ้าอยากได้ความเคารพจากคนดู ก็ต้องเคารพในคนดูก่อน เพราะฉะนั้นลำพังแค่นักแสดงอย่างเดียวไม่สามารถทำให้หนังมีเสน่ห์ หรือดึงดูดคนดูได้หรอก ทุกวันนี้คนที่เดินเข้าโรงหนังไม่ได้มองแค่ว่าใครเป็นนางเอกกันแล้ว 

5.สังคมพร้อมหรือยังกับหนังอีโรติก...จริงๆ แล้วหนังเรื่องป๊อปสตาร์ ตั๊กไม่เรียกว่าเป็นหนังอีโรติกนะ มันเป็นหนังดราม่า ที่มีฉากอีโรติก ที่มีความละเอียดมากกว่า ทุกวันนี้ตั๊กคิดว่าคนไทยยอมรับหนังที่มีฉากอีโรติกได้แล้วนะ ถ้าหนังเรื่องนั้นๆ มีเหตุผลพอที่จะมีฉากอีโรติก ตรงนี้ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคน 

6.เส้นแบ่งระหว่างอีโรติกกับโป๊อนาจาร...ตั๊กว่าอยู่ที่ใจนะ สำหรับคนที่มีใจเปิดกว้างมองในมุมคนทำงาน กระบวนการทำงาน พวกเขาจะรู้ได้ด้วยตัวเองว่า หนังอีโรติกเรื่องไหนเป็นศิลปะ หรืออนาจาร จากโรงหนัง เพราะหนังทุกเรื่องมีไว้ให้ดูในโรงที่ถ่ายทอดเป็นที่เป็นทาง เพื่อให้คนที่เข้าไปดูมองหาประโยชน์ รวมทั้งจดจำ และรู้สึกดีดีกับมัน ถ้าคลิก มันก็หนีความรู้สึกดีดีไม่พ้น สำหรับหนังเรื่องนี่ตั๊กคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังสับสน และดีกับคนที่ติดอยู่กับอดีตจนลืมก้าวไปข้างหน้า ตั๊กไม่อยากให้คนที่มาดูหนังคิดแต่เรื่องอนาจาร หรือตั้งใจมาดูฉากแก้ผ้า จนลืมเปิดใจกว้างรับรู้ปรัชญาชีวิตที่เป็นเหมือนโค้งของซูเปอร์สตาร์ที่หนังต้องการจะถ่ายทอด 

7.ลิมิตของตั๊ก...มีแน่นอนค่ะ เพราะตั๊กก็เป็นแค่นักแสดงคนหนึ่ง ลิมิตจึงอยู่ที่มีเหตุผลเพียงพอสำหรับฉากนั้นๆ หรือเปล่า...ในส่วนของฉากที่ตั๊กแสดง ตั๊กไม่ขอพูดถึงนะ แต่อยากให้ทุกคนเข้าไปดูหนังเรื่องนี้ในโรง เพราะคำตอบที่ถามรออยู่ตรงนั้น อย่างที่บอกหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ดี และน่าจะเหมาะกับคนที่ไม่เคยพอใจในสิ่งที่ตัวเองมี ถ้าได้ดูก็จะเข้าใจทั้งหมดเอง 

8.อีโรติกเป็นหนังที่เปลืองตัวหรือเปล่า...ไม่รู้สึกว่าเปลืองตัว ตั๊กเล่นหนังมา 10 เรื่อง เรียนแอกติ้งมาก่อน ครูสอนให้ตั๊กเป็นนักแสดง และบอกว่าเราต้องยึดถืออะไรเป็นหลัก ตั๊กอินกับหนัง แต่ก็ไม่หลุดออกไปจากความเป็นจริง แต่จะทำมันให้ดีที่สุด เพื่อให้คนดูรู้ความเป็นจริงจากหนัง อีโรติกจึงไม่อยู่ที่แก้ผ้าหรือไม่แก้ผ้า 

9.เงินเป็นตัวแปรสำคัญหรือเปล่า...เงินเป็นตัวแปรหนึ่ง แต่ไม่สำคัญที่สุด ตั๊กทำงานก็ได้เงิน เรื่องค่าตัวนี่ตั๊กให้แม่ดูแลทั้งหมด แน่นอนว่าราคาก็ต้องอยู่ในระดับที่ตั๊กพอใจ...แต่ตั๊กไม่เคยคิดนะว่าการที่นางเอกร้อยล้านหรือไม่ร้อยล้านมาเล่นหนังอีโรติก จะทำให้ภาพ หรือเรตติ้งของตั๊กตกต่ำ คือตั๊กจะไม่มองโลกด้วยสายตาแบบนั้น ตก หรือไม่ตก สำหรับตั๊ก อยู่ที่คุณภาพการทำงานในฐานะนักแสดงมากกว่าจะมองว่าการแก้ผ้าเป็นการลงทุน" 




ที่มา: ผู้จัดการ 15 กรกฎาคม 2553 

Views: 6050

Reply to This

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service