Thailand's Creative Art & Design Community

เหล่าคนดังชวนประชาชนใกล้ชิดงานศิลปะ สนองพระราชดำริ “ในหลวง”

ข่าววันที่ 24 ธันวาคม 2552 แหล่งข่าวจาก สยามรัฐ

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และความร่วมมือของ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) จัดงานรับมอบประติมากรรม “ช้าง” ประกอบไปด้วยช้าง 3 เชือก เป็นกลุ่มช้าง พ่อ แม่ และลูก ที่มีความหมายแฝง โดยช้างตัวลูกจะมีสัญลักษณ์ใบโพธิ์ ที่สื่อถึงการรณรงค์ลดภาวะโลกร้อน สร้างสรรค์โดย นายวิจิตร อภิชาติเกรียงไกร ศิลปินระดับชาติชื่อดังเป็นผู้รังสรรค์งานปั้นเป็นแบบงานหล่อสัมฤทธิ์ “ช้าง” เป็นหนึ่งในผลงานของโครงการ เดอะ สคัลป์เจอร์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ที่ต้องการให้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เป็นแลนด์มาร์คของศิลปะและประติมากรรมกลางใจกรุงเทพฯ และสนองพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการให้ประเทศไทยมีพื้นที่ให้ประชาชนใกล้ชิดงานศิลปะ โดยงานนี้ได้เหล่าคนดังมาร่วมงานอย่างคับคั่ง มาฟังความคิดเห้นของพวกเขาที่มีต่อพื้นที่แสดงงานศิลปะในเมืองไทยกัน

เริ่มต้นกันที่ อภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงพื้นที่แสดงงานศิลปะในปัจจุบันว่า ในส่วนของภาครัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอย่างใน กทม.ได้พยายามส่งเสริมสถานที่ที่เป็นพิพิธภัณฑ์หรือหอศิลป์ ในขณะเดียวกันก็ต้องส่งเสริมให้ภาคเอกชนเข้ามามีบทบาทในการช่วงกันส่งเสริม เรื่องศิลปะ เหมือนกับที่ทางศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ได้จัดโครงการ เดอะ สคัลป์เจอร์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้มีโอกาสสัมผัสผลงานศิลปะ ซึ่งเป็นเรื่องของการช่วยจรรโลงจิตใจและส่งเสริมวัฒนธรรมและผลงานของจิตกร ไทยด้วย นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างสรรค์พื้นที่สาธารณะสำหรับการจัดแสดงงาน ประติมากรรมและงานศิลปะต่างๆ ที่ล่าสุด บริษัท ไทยเบฟเวอร์เรจ ได้มอบประติมากรรม “ช้าง” ให้เป็นหนึ่งในผลงานประติมากรรมของโครงการนี้

ในฐานะตัวแทนของเซ็นทรัลเวิลด์ สุพิชญา สุรคุปต์ ผู้อำนวยการแผนกประชาสัมพันธ์ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า ปัจจุบันคนสนใจเรื่องงานศิลปะมากขึ้น อย่างในพื้นที่ศูนย์การค้าอย่างเซ็นทรัลเวิลด์ก็ได้มีผลงานประติมากรรมจาก ศิลปินไทยและศิลปินระดับโลก ในชื่อโครงการ “เดอะ สคัลป์เจอร์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์” เป็นโครงการที่ริเริ่มขึ้น โดยบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เพื่อร่วมเฉลิมฉลองเนื่องในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติ ครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนพรรษา 80 พรรษา ทางศูนย์ฯ เห็นว่าไม่อยากให้ประชาชนมาเดินซื้อของเพียงอย่างเดียว แต่อยากให้ประชาชนได้เข้ามาซึมซับงานศิลปะด้วย เวลาศุนย์ฯ จัดงานแฟร์ต่างๆ ก็อยากให้ผลงานศิลปะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของงานด้วย

สุพิชญา กล่าวต่อว่า ตนคิดว่าเมืองไทยยังมีพื้นที่แสดงผลงานศิลปะไม่เพียงพอ อยากให้พื้นที่เหล่านี้อยู่กลางเมือง จะได้เข้าถึงง่าย เด็กๆ จะได้มีโอกาสสัมผัสกับงานศิลปะได้มากขึ้น จึงอยากให้ภาคส่วนต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดพื้นที่แสดงผลงานศิลปะ สุพิชญา ยังได้แนะนำถึงวิธีที่จะทำให้เด็กๆ ได้ใกล้ชิดกับงานศิลปะว่า การดึงศิลปินหรือคนที่เด็กๆ ชื่นชอบ ให้มาเป็นผู้เชิญชวนเยาวชนให้มาสนใจในการทำผลงานศิลปะก็น่าจะช่วยได้เยอะ

ทางด้านของ เล็ก - กรกนก ยงสกุล กล่าวว่า ด้วยความที่ตนเรียนทางด้านศิลปะมาก็จะชอบวาดภาพ เช่น ภาพสีน้ำมัน หรือเขียนภาพบนผ้าใบ ที่เป็นแนว AbstracT และสะสมผลงานที่ตนเองทำ ในเมืองไทยน่าจะมีการนำผลงานศิลปะมาไว้ในพื้นที่ของศูนย์การค้าอย่างที่ เซ็นทรัลเวิลด์ทำมานานแล้ว เพราะเวลาที่เด็กๆ มานอกจากจะได้เดินเที่ยวแล้ว ยังได้ชมงานศิลปะพัฒนาจิตใจและสมองไปในตัวด้วย บางทีการไปพิพิธภัณฑ์ต่างๆ อาจจะไม่สะดวก แต่ถ้ามาที่ศูนย์การค้าที่อยู่ใจกลางเมืองก็จะได้ชื่นชมผลงานศิลปะจากศิลปิน หลายๆ ท่านด้วย สำหรับเมืองไทย ตนคิดว่ายังมีพื้นที่สำหรับจัดแสดงงานศิลปะไม่เพียงพอ ถ้าเทียบกับต่างประเทศ ความจริงไม่จำเป็นต้องเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีขนาดใหญ่มากก็ได้ แต่ขอให้มีความน่าสนใจ มีสิ่งดึงดูด ทำให้คนอยากเข้าไปเดินชม

“สำหรับประติมากรรม “ช้าง” ที่เป็นผลงานล่าสุดในแคมเปญ เดอะ สคัลป์เจอร์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ มีความน่ารักมาก และเป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทย นักท่องเที่ยวหรือแม้แต่คนไทยที่เดินทางมาที่เซ็นทรัลเวิลด์นอกจากจะได้มา เดินเที่ยวแล้วยังได้มาสัมผัสงานศิลปะด้วย ตัวผลงานได้มีการสื่อถึงการรณรงค์เรื่องการลดโลกร้อนก็ทำให้คนที่เดินผ่านไป มาได้ตระหนักถึงวิกฤตินี้ไปในตัวด้วย จริงอยู่ว่างานศิลปะอาจจะไม่ได้มีส่วนช่วยในการลดโลกร้อนโดยตรง แต่มีส่งผลทางอ้อม เพราะผลงานศิลปะส่วนใหญ่จะทำมาจากธรรมชาติ เช่น งานปั้น ที่ต้องใช้ดิน กิ่งไม้ เปลือกหอย หรือเศษวัสดุต่างๆ การวาดภาพที่ใช้ผ้าใบหรือกระดาษ ของพวกนี้สามารถย่อยสลายตามธรรมชาติได้” เล็ก - กรกนก กล่าว

กวาง – กุญช์ณิชา (พรประภา) พึ่งบุญพระ กล่าวถึงการจัดแสดงผลงานศิลปะของเซ็นทรัลเวิลด์ว่า เวลามีผลงานศิลปะสวยๆ คนส่วนใหญ่จะไม่มีโอกาสได้เห็น แต่การเอามาไว้บนพื้นที่สาธารณะอย่างลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ก็ถือว่าเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้สัมผัสและซึมซับความสวยงามของ ผลงานศิลปะ ส่วนตัวพื้นที่แสดงผลงานศิลปะของไทยก็ยังไม่เพียงพอ ถ้าเทียบกับเมืองนอก ไม่ว่าจะไปโบสถ์หรือตามเมืองสำคัญๆ ก็มักจะเห็นพิพิธภัณฑ์หรือพื้นที่แสดงผลงานศิลปะมากมาย เลยคิดว่าประเทศไทยถ้ามีการแสดงผลงานศิลปะบนพื้นที่สาธารณะอย่างที่เซ็นทรัล เวิลด์ทำก็จะเป็นประโยชน์กับประชาชนมาก เพราะทำให้ชมงานศิลปะได้ง่ายขึ้นไม่ต้องไปถึงพิพิธภัณฑ์ ชมได้ทั้งครอบครัว ทุกคนสามารถทำกิจกรรมที่ตนเองชอบได้ ชมงานศิลปะเสร็จแล้วก็อปปิ้งได้เลย

“เป็นเรื่องที่ดีที่ทางเซ็นทรัลเวิลด์ได้นำผลงานประติมากรรมที่เป็นฝีมือของ ศิลปินต่างประเทศ และศิลปินไทยมาจัดตั้ง ที่ล่าสุดก็ได้นำประติมากรรม “ช้าง” ที่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มอบให้มาจัดตั้งเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการรณรงค์ลดโลกร้อน ตนคิดว่าประติมากรรม “ช้าง” จะมีส่วนช่วยกระตุ้นจิตสำนึกในการช่วยกันลดภาวะโลกร้อน ทำให้เราฉุกคิดว่าขนาดช้างยังอยากจะช่วยลดโลกร้อนเลย แล้วเราที่เป็นคนละทำไมไม่ช่วยกันช่วยโลกบ้าง” กวาง บอก

มาถึงเซเล็บสาวมากความสามารถอย่าง ปุ๊กลุก - ศศิวิมล ณ ระนอง กล่าวว่า ตนเองเป็นคนสนใจและชื่นชอบในงานศิลปะอยู่แล้ว และตนเคยได้มีโอกาสไปที่บ้านของศิลปินหลายๆ ท่านก็รู้สึกชื่นชมในผลงานของศิลปินไทย จึงคิดว่าน่าจะมีการส่งเสริมให้เยาวชนรุ่นใหม่ๆ ได้มีโอกาสทำผลงานศิลปะบ้าง กับโครงการที่ทางเซ็นทรัลเวิลด์ได้มีการนำผลงานศิลปะมาไว้ในพื้นที่ ศูนย์การค้า มีส่วนทำให้ประชาชนที่เข้ามาเที่ยวได้มีโอกาสสัมผัสกับศิลปะมากยิ่งขึ้น

“อยากให้ผู้ปกครองปลูกฝังความรักในงานศิลปะให้ลูกหลานตั้งแต่เล็กๆ เพราะศิลปะจะช่วยจรรโลงจิตใจ พัฒนาสมองซีกขวาให้ทำงานได้ดี และการที่เซ็นทรัลเวิลด์ได้นำผลงานประติมากรรม “ช้าง” มาไว้ข้างหน้าก็เป็นสิ่งที่ดีที่ เพราะถือได้ว่าช้างเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของไทย เช่นเดียวกับการตั้งประติมากรรม The Head ของราวินเดอร์ เร็ดดี้ ก็ชอบ เพราะเป็นศิลปะร่วมสมัย แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมของชาวอินเดีย เพราะทำให้เซ็นทรัลเวิลด์เป็นศูนย์รวมหรือแลนด์มาร์คของงานศิลปะ อย่างชาวต่างชาติหรือนักท่องเที่ยวผ่านไปผ่านมาก็ได้มาร่วมชื่นชมกับผลงาน ทำให้เซ็นทรัลเวิลด์กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกที่หนึ่งที่สามารถมาช้อป ปิ้งและมาชมงานศิลปะได้ในเวลาเดียวกัน” ปุ๊กลุก บอก