ยุคเศรษฐกิจทรุดคนแห่พึ่งองค์พิฆเนศ! บูชา 10 ปางยอดฮิต - "แก้จน-เสริมบารมี"


 

เศรษฐกิจไม่กระเตื้อง การเงินทรุด คนเป็นหนี้ล้น ฉุดกระแสคนไทยนิยมบูชาพระพิฆเนศพุ่งถึงขนาดแข่งกันสร้างรูปเหมือนขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ขณะที่ผู้ที่นับถือบอกเป็นเทพที่ เชื่อว่า "ขอได้ ไหว้รับและไม่ใช้ต้องคืน"แถมยังเป็นเทพเจ้าแห่งความสำเร็จที่นับถือกันมานานนับพันปี เจ้าหน้าที่กรมศิลปากร ระบุ 10 ปางยอดฮิต มีตั้งแต่แก้จน เสริมอำนาจ บารมี สกัดสิ่งชั่วร้าย ไปจนถึงประสพความสำเร็จทุกด้าน 

เป็นที่ทราบโดยทั่วกันว่าพระพิฆเนศ เป็นเทพเจ้าที่คนส่วนใหญ่ในประเทศอินเดีย รวมไปถึงชาวเอเชียและชาวโลกอีกจำนวนไม่น้อยรู้จักและให้ความเคารพนับถือกันมากที่สุดสาเหตุเป็นเพราะท่านเป็นเทพที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น "เลิศ" ในด้านต่างๆ มากที่สุดไม่ว่าจะเป็นด้านความสำเร็จในชีวิต หน้าที่การงาน สติปัญญา โชคลาภ ขจัดอุปสรรคปัญหา ฯลฯ ฉะนั้นพระพิฆเนศ จึงเป็นเทพที่ได้รับการกราบไหว้บูชาจากผู้คนทุกสาขาอาชีพที่ต่างก็ให้ความเคารพนับถือกันอย่างกว้างขวาง 

เชื่อกระแส "พระพิฆเนศ" 
แรงต่อเนื่องอีกนาน
 

แม้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมากระแสความนิยมบูชาในองค์จัตุคามรามเทพจะมาแรงแซงกระแสความนิยมของพระบูชาต่างๆรวมไปถึง "เทพ"ซึ่งมีอยู่นับสิบองค์ตามคติของศาสนาฮินดู แต่สุดท้ายความนิยมในองค์จัตุคามรามเทพก็เริ่มลดน้อยถอยลงจนเงียบหายไปตามกาลเวลา ขณะที่กระแสความนิยมในองค์เทพก็เริ่มแรงขึ้นโดยเฉพาะกระแสความนิยมในองค์พระพิฆเนศ 

ปัณฑร ทีรคานนท์ ผู้สร้างพิพิธภัณฑ์พระพิฆเนศขึ้นเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในเมืองไทย ที่ จังหวัดเชียงใหม่ บอกกับ "ผู้จัดการ 360 องศารายสัปดาห์"ว่าขณะนี้กระแสความนิยมบูชาพระพิฆเนศในหมู่คนไทยมีมากขึ้นเป็นลำดับเนื่องจากเศรษฐกิจโลกทรุด การทำมาค้าขายไม่ดี คนมีปัญหาด้านการทำมาหากิน ทำให้ต้องหันไปพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เขาคิดว่าพึ่งพาได้และจะสามารถช่วยให้เขาพ้นจากวิกฤตการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่ได้และสิ่งที่เข้ามาตอบสนองความต้องการของคนที่กำลังขาดที่พึ่งได้ดีที่สุดในขณะนี้คือพระพิฆเนศ ซึ่งเป็นเทพเจ้าที่ทุกคนเชื่อว่าเป็นเทพแห่งความสำเร็จ 

"ผู้ที่นับถือพระพิฆเนศด้วยความบริสุทธิ์ใจไม่หวังผลตอบแทนจากท่านส่วนใหญ่มักจะพบแต่สิ่งดีๆ ประสบผลสำเร็จตามที่เขาประสงค์ซึ่งคนกลุ่มนี้มีอยู่ทั่วไปส่วนผู้ที่นับถือท่านเพราะทำตามกระแสมักจะไม่ค่อยประสบผลสำเร็จ ดังนั้นการนับถือพระพิฆเนศที่ถูกต้องคือต้องมีศรัทธาเต็มร้อยแล้วคุณจะสามารถสัมผัสได้ถึงความสำเร็จที่คุณต้องการ" 

การนับถือพระพิฆเนศนั้นคนไทยส่วนใหญ่มักจะศึกษาข้อมูลมาจากประเทศอินเดียซึ่งผู้เชี่ยวชาญอย่างปัณฑร บอกว่า พระพิฆเนศมีจะมีพระนามมากมายถึง 1008 พระนามแต่ผู้ที่นับถือพระพิฆเนศจริงๆจะเลือกบูชาในปางที่องค์ท่านมี 5 เศียร 10 กรหรือเรียกว่าปางเหรัมภะคเณศ ซึ่งเป็นปางที่ถือว่ารวมเอาสิ่งดีๆในพระองค์ท่านมาไว้ในที่เดียวกันคือคนที่บูชาปางนี้เพียงปางเดียวถือว่าได้นับถือท่านทั้ง 32 ปางนั่นเอง 

อย่างไรก็ดีในเรื่องความเชื่อเป็นสิ่งที่แตะต้องไม่ได้แต่ใช้ความรู้สึกสัมผัสได้ สำหรับผู้บูชาพระพิฆเนศส่วนใหญ่จะมีความเชื่อว่าท่านสามารถขจัดปัดเป่าปัญหาและอุปสรรครวมไปถึงการประทานความสำเร็จให้แก่ผู้ที่บูชา ซึ่งคนเหล่านั้นเขาจะสัมผัสได้ด้วยตัวเขาเองว่าได้รับการตอบสนองหรือไม่ ผมเชื่อว่าพวกเขาเหล่านั้นได้รับแน่นอนเพราะไม่เช่นนั้นกระแสความนิยมจะไม่มากมายขนาดนี้ 

จากเหตุผลดังกล่าวทำให้ปัณฑร เชื่อว่ากระแสความนิยมในองค์พระพิฆเนศในประเทศไทยจะมีอยู่ต่อไปและอาจจะขยายมากขึ้นเรื่อยๆ และจะมีต่อเนื่องไปอีกหลายสิบปี เนื่องจากพระพิฆเนศนั้นเป็นเทพเจ้าที่ได้รับการนับถือมาอย่างต่อเนื่องมาแล้วนับพันๆปี 

"การนับถืออะไรสักอย่างเป็นความเชื่อส่วนบุคคลเราไปห้ามเขาไม่ได้ ซึ่งคนที่เขานับถือองค์ท่านคงจะสามารถรับรู้ได้เฉพาะตัวแต่โดยส่วนตัวแล้วเชื่อว่าท่านประทานความสำเร็จให้กับผู้นับถือท่านจริงๆ" 

บูชาองค์ท่าน 
"ขอได้ ไหว้รับ"
 

ด้าน บุนนาค โมกงาม เจ้าหน้าที่พัสดุกรมศิลปากร และเป็นผู้จัดสร้างพระพิฆเนศของกรมศิลปากร บอกว่ากระแสความนิยมในองค์พระพิฆเนศในบ้านเรานั้นมีมานานมากแล้วแต่ไม่ค่อยมีข่าวการจัดสร้างผ่านสื่อทำให้รู้เฉพาะคนที่นับถือจริงๆแต่หลังจากนี้ต่อไปเชื่อว่ากระแสการนับถือท่านจะมีมากขึ้นเพราะมีหลายๆหน่วยงานจัดสร้างและทำการประชาสัมพันธ์กันอย่างต่อเนื่อง 

ปัจจุบันจะเห็นได้ว่ามีการลงโฆษณาการจัดสร้างพระพิฆเนศตามหน้าหนังสือพิมพ์ นิตยสาร วิทยุ โทรทัศน์มากมาย นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ บุนนาค มองว่าจะเป็นการฉุดกระแสความนิยมของพระพิฆเนศ 

ส่วนที่กรมศิลปากรก็มีผู้ที่นับถือองค์ท่านได้มาบูชาทั้งที่เป็นเหรียญสำหรับห้อยคอในรูปแบบต่าง ๆ และที่เป็นองค์พิฆเนศสำหรับตั้งไว้บูชาซึ่งทยอยมาอยู่เรื่อย ๆ 

"พระพิฆเนศท่านเป็นเทพที่เป็นผู้ให้จริงๆเพราะคนที่นับถือท่านส่วนมากเชื่อว่าท่านเหมือนท่านท้าวจัตุคามคือขอได้ไหว้รับ แต่มีความแตกต่างกันก็คือเมื่อได้รับแล้วไม่ต้องมาใช้หนี้คืน และเมื่อขอได้ครั้งหนึ่งแล้วยังขอต่อเนื่องได้โดยตลอดด้วย" 

สำหรับกรมศิลปากร ได้มีการจัดสร้างองค์พระพิฆเนศมาหลายรุ่นแล้ว ซึ่งแต่ละรุ่นผ่านการปลุกเสกมาอย่างถูกต้องตามพิธีกรรม และทุกรุ่นต่างได้รับความนิยมโดยมีประชาชนติดต่อบูชาที่กรมศิลปากรอย่างต่อเนื่อง 

"กรมศิลปากรสร้างมาแล้ว 3 รุ่น รุ่นแรกปี 2540 รุ่นที่ 2 ปี 2547 และรุ่นที่ 3 ปี2550 ซึ่งรุ่นที่คนนิยมมากสุดและต้องการมากที่สุดขณะนี้คือปี40 เพราะเป็นรุ่นแรกที่มีทำพิธีเทวาภิเษกครั้งแรกของเมืองไทยโดยกรมศิลปากร" 



ชี้คนนิยม 10 ปาง 
พุทธคุณต่างกัน
 

เมื่อมีคนนิยมมากขึ้นย่อมต้องมีการจัดสร้างมากขึ้นในอนาคต ทำให้หลายๆคนเชื่อว่าจะเกิดเป็นพุทธพาณิชย์ เช่นเดียวกับองค์จัตุคามรามเทพ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวลสำหรับคนที่รู้ไม่จริง บุนนาค บอกว่า การจัดสร้างพระพิฆเนศจะต้องจัดสร้างให้ถูกต้องตามหลักการ ซึ่งสามารถดูแบบอย่างหรือขอคำปรึกษาได้ที่กรมศิลปากร 

สำหรับคนที่ศรัทธาในองค์พระพิฆเนศส่วนใหญ่จะเห็นรูปเคารพท่านเป็น 2 แบบคือแบบนั่งและแบบยืน แต่ในความเป็นจริงแล้วพระพิฆเนศจะมีพระนามมากมายถึง 108 พระนาม ในขณะที่มีปางที่ได้รับการสรรค์สร้างออกสู่สายตาของผู้นับถือ 32 ปาง แต่ในแง่เทวประติมานั้นมีอยู่เพียง 10 ปางเท่านั้นที่คนนิยมบูชา โดยการบูชาในแต่ละปางก็ให้คุณที่แตกต่างกันออกไป 

1.ปางพาลคเณศ เป็นพระพิฆเนศในวัยเด็กรูปลักษณ์ที่เห็นมักจะเป็นพระพิฆเนศที่ยังคลานอยู่กับพื้น หรือยังอยู่ในอิริยบถไร้เดียงสาอย่างเด็ก ๆ แต่ถ้าโตขึ้นจะนั่งขัดสมาธิเพชรบนดอกบัวมี 4 กร ถือขนมโมทกะ กล้วย รวงข้าว ซึ่งหมายถึงความเป็นสุขภาพดีของเด็ก ๆในครอบครัวรวมความหมายถึงให้เด็ก ๆได้ระลึกถึงการเคารพรักในบิดา มารดา ปางนี้นิยมบูชากันในบ้านที่มีเด็กเล็กและเด็กในวัยเรียน 

2.ปางนารทคเณศ ปางนี้จะเป็นพระพิฆเนศที่อยู่ในอิริยาบถยืน มี 4 กร ในมือถือคัมภีร์และหม้อน้ำกมัลฑลุ ไม้เท้า และร่ม หมายถึงการเดินทางไกล แต่มักจะเป็นการเดินทางไปเพื่อการศึกษาต่อหรือเป็นปางนี้เหมาะแก่วิชาชีพของคนที่เป็นครูบาจารย์เท่านั้น 

3.ปางลักษมีคเณศ ปางนี้พระพิฆเนศจะประทับนั่งห้อยพระบาทบนแท่นมี 6 กร และพระหัตถ์หนึ่งโอบพระลักษมีเทวีไว้ การบูชาปางนี้เสมือนหนึ่งได้บูชาเทพทีเดียวกันถึง 2 พระองค์ในลักษณะของทวิภาคี (พระพิฆเนศ -พระลักษมี) กล่าวคือ ลักษมีคเณศหมายถึงความอุดมสมบูรณ์ พูนสุข ความมั่งคั่ง มั่งมีอย่างหาที่สิ้นสุดมิได้ 

4.ปางวัลลยภาคเณศ ปางนี้พระพิฆเนศจะอุ้มพระชายาทั้ง 2 ไว้บนตักทั้งซ้ายและขวา ซึ่งชายาทั้งคู่คือคือนางพุทธิและสิทะ ซึ่งตำนานได้กล่าวไว้ ปางนี้ให้ความหมายในลักษณะของความสมบูรณ์ของการเป็นครอบครัวมีทรัพย์สินและบริวารมากมาย 

5.ปางมหาวีระคเณศ เป็นพระพิฆเนศที่มีจำนวนของพระกรมากเป็นพิเศษ อาจจะ 12,14 หรือ16 กร โดยแต่ละพระหัตถ์นั้นถือศาสตราวุธหลากหลายชนิดแตกต่างกันไปอาทิลูกศร คันธนู ดาบยาว ตะบอง ขวาน จักร บ่วงบาศ งูใหญ่ หอก ตรีศูล ปางนี้ถือกันว่าเป็นปางออกศึกเพื่อปราบศัตรูหมู่อมิตรทั้งหลาย ดังนั้นจึงเป็นความเหมาะสมพิเศษกับบรรดานักรบ แม่ทัพนายกอง ทหาร ตำรวจและข้าราชการ 

6.ปางเหรัมภะคเณศ เป็นปางที่ห้อยพระบาทอยู่บนพญาราชสีห์ ซึ่งปางนี้จะมีอยู่ห้าเศียร หรืออาจจะเป็นเศียรตามปกติก็ได้ เพราะสัญลักษณ์ที่แท้จริงของปรางค์นี้ก็คือ สิงโตเท่านั้น เพราะสิงโตเป็นเจ้าป่า ดังนั้นจึงเหมาะสมที่ผู้ใหญ่ที่ต้องมีบริวารในการปกครองมาก นอกจากนี้ยังเป็นสัญลักษณ์ที่บรรดากษัตริย์ทั้งหลายแต่โบราณนิยมบูชากัน เรียกว่าเป็นสุดยอดปางของพระพิฆเนศก็ว่าได้ 

7.ปางสัมปทายะคเณศ เป็นปางที่เราพบเห็นกันบ่อยคือ มีอาวุธอยู่ในสองพระหัตถ์บน ส่วนพระหัตถ์ล่างด้านซ้ายนั้นถือขนม และด้านขวาอยู่ในท่าประทานพร ซึ่งความหมายของปางนี้คือ การอำนวยพรให้ประสบความสำเร็จนั่นเอง 

8.ปางตรีมุขคเณศ เป็นพระพิฆเนศที่มี 3 พระพักตร์ 4 กร มีความหมายถึง 3 โลก แต่บางคนเชื่อว่าหมายถึง ศีล สมาธิ ปัญญา ซึ่งเหมาะกับผู้ปฎิบัติธรรมที่ต้องการขจัดอุปสรรคและสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ 

9.ปางปัญจคฌณศ บางคนเรียกปางนี้ว่า พระพิฆเนศเปิดโลก ถือเป็นปางที่เชื่อกันว่าจะทำให้ประสบความสำเร็จในทุก ๆ ด้าน 

10.ปางวิชัยคเณศ เป็นปางที่พระพิฆเนศขี่หนูเป็นพาหนะ มี 4 กร พระหัตถ์ขวาด้านล่างอยู่ในท่าประทานพร ซึ่งมีความหมายถึงการอยู่เหนือบริวารนั่นเอง 

"ทั้ง 10 ปางนี้จะเห็นได้ในบ้านเราแต่การจัดสร้างที่ทำขึ้นใหม่นี้อยากให้เรียกเป็นรุ่นจะถูกต้องกว่าเพราะการจัดสร้างเท่าที่เห็นจะเกิดจากจินตนาการของผู้สร้างมากกว่า" 

คนไทยแข่งสร้าง "ใหญ่"ที่สุด 

การจัดสร้างพระพิฆเนศในประเทศไทยในช่วงสองปีที่ผ่านมาปรากฏว่ามีคณะผู้จัดสร้างจากหลายๆหน่วยงานต่างจัดสร้างพระพิฆเนศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดมากขึ้น 

บุนนาค บอกว่า การจัดสร้างพระพิฆเนศนั้นถือเป็นเรื่องที่ดีแต่การจัดสร้างองค์ใหญ่ๆตามสถานที่หลายๆแห่งนั้นอาจจะทำให้เทวลักษณะไม่ถูกต้องตามหลักของศาสนาฮินดูเพราะในอดีตยังไม่ปรากฏว่ามีการสร้างองค์พระพิฆเนศที่มีขนาดใหญ่มากๆเหมือนเช่นทุกวันนี้ 

"การจัดสร้างองค์ท่านเป็นเรื่องที่ดีทั้งหมดแต่อยากให้ผู้สร้างคำนึงถึงหลักความถูกต้องทั้งทางด้านประติมากรรม ศิลปกรรมรวมถึงโครงสร้างขององค์ท่านด้วยเพราะยิ่งมีขนาดใหญ่เท่าไหร่ต้องให้ความสำคัญกับความมั่นคงแข็งแรงมากเท่านั้นเพราะนั่นหมายถึงความปลอดภัยด้วย" 

ปัจจุบันมีการจัดสร้างพระพิฆเนศองค์ใหญ่อยู่หลายแห่ง อาทิ เมื่อวันเดือนกันยายน 2551 ได้มีการ "เปิดอุทยานพระพิฆเนศ" ตั้งอยู่ที่ ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก ซึ่งมีการสร้างพระพิฆเนศองค์ใหญ่ขนาดหน้าตักกว้าง 9 เมตร สูง 15 เมตร 

ในขณะที่จังหวัดฉะเชิงเทรา สมาคมชาวฉะเชิงเทราร่วมกับมูลนิธิน้ำใจไทยได้สร้าง พระพิฆเนศ รุ่น "สำริด สำเร็จ สมปรารถนา" มีความสูง 39 เมตร หล่อด้วยเนื้อสำริดริมฝั่งแม่น้ำบางปะกง อำเภอคลองเขื่อน 

เช่นเดียวกับประชาชนในจังหวัดนราธิวาสกลุ่มหนึ่งโดยการนำของ นายอินดาร์แชล บุศรี วัย 73 ปี ที่คนนราธิวาสรู้จักและคุ้นหูกันดีในชื่อ "นายห้าง" เจ้าของกิจการ "ดีวรรณ พาณิชย์" ร้านจำหน่ายผ้ารายใหญ่ ได้ร่วมกันสร้างพระพิฆเนศมีลักษณะเป็นปูนปั้น ความสูง 15.90 เมตร หน้าตักกว้างประมาณ 5.50 เมตรขึ้น 

จังหวัดชุมพรก็เป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่มีองค์พระพิฆเนศองค์ใหญ่สูงเท่ากับตึก 2 ชั้น น้ำหนักกว่า 2 ตัน หล่อด้วยเนื้อทองเหลืองซึ่งพระพิฆเนศองค์นี้เกิดขึ้นจากความศรัทธาของคนกลุ่มหนึ่งที่กรุงเทพฯ และเคลื่อนย้ายจากกรุงเทพฯไปประดิษฐานอยู่ที่วัดแก้วประเสริฐ อำเภอเมือง 

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ชี้ให้เห็นความศรัทธาของคนไทยที่มีต่อเทพอย่างพระพิฆเนศ ซึ่งเชื่อว่า แรงศรัทธาที่มีต่อองค์ท่านจะยิ่งกระจายออกไปอย่างต่อเนื่อง

Views: 0

Reply to This

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service