จิอานฟรังโก้ เฟอร์เร่ สถาปนิกแห่งแฟชั่น

ดีไซเนอร์ผู้มีชื่อเสียงติดอันดับโลก จิอานฟรังโก้ เฟอร์เร่ (Gianfranco Ferre) เกิดเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ปี ค.ศ.1944 ในกรุงมิลาน ประเทศอิตาลี เฟอร์เร่สำเร็จการศึกษาด้านสถาปัตยกรรมในปีค.ศ.1969 และเริ่มต้นอาชีพในวงการแฟชั่นในปีถัดมาโดยการออกแบบสินค้าแฟชั่นประเภทแอคเซสซอรีส์และเครื่องประดับ เฟอร์เร่เริ่มตั้งบริษัทของตนเองอย่างจริงจังชื่อ เบย์ล่า (Baila) ในปีค.ศ.1974 และเปิดตัวแฟชั่นคอลเลคชั่นสำหรับผู้หญิงเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ.1978 เสื้อผ้าผู้ชายของเฟอร์เร่คอลเลคชั่นแรกเผยโฉมขึ้นในปี ค.ศ.1982 อีกสี่ปีถัดมาเฟอร์เร่เลือกกรุงโรมเป็นสถานที่เปิดตัวกูตูร์ (Couture) คอลเลคชั่นแรกของเขา โลกแฟชั่นยกย่องความสามารถในการออกแบบแฟชั่นของเฟอร์เร่ด้วยคำว่า 'สถาปนิกแห่งแฟชั่น' ตามพื้นฐานการศึกษาและทัศนคติในการสร้างสรรค์งานออกแบบแฟชั่นของเขา 

 
A tribute to Gianfranco Ferre 
1944 - 2007

---------------------- 

จิอานฟรังโก้ เฟอร์เร่ก้าวสู่ความเป็นดีไซเนอร์ให้กับห้องเสื้อชั้นสูงเมื่อเขาย้ายไปปารีสในปีค.ศ.1989 เพื่อทำงานเป็น Stylistic Director ให้กับห้องเสื้อ คริสเตียน ดิออร์ ตามคำชวนของเบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ เจ้าของแบรนด์คริสเตียน ดิออร์ นับเป็นเครื่องชี้ความสามารถอย่างสูงของเขาที่ห้องเสื้อปารีสยอมรับดีไซเนอร์ต่างชาติ เจ็ดปีหลังจากนั้นเฟอร์เร่ก็หมดข้อผูกมัดกับคริสเตียน ดิออร์ คอลเลคชั่นสุดท้ายที่เฟอร์เร่ทำให้กับคริสเตียน ดิออร์ คือคอลเลคชั่นสปริง 1997 เขากลับสู่มิลานเพื่อดูแลแบรนด์จิอานฟรังโก้ เฟอร์เร่อย่างจริงจัง สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์แฟชั่นทั้งผู้ชายและผู้หญิง รวมไปถึงเครื่องหนัง น้ำหอม ชุดชั้นในชาย 

สไตล์แฟชั่นของเฟอร์เร่อยู่บนพื้นฐานของเส้นและโครงสร้างที่เรียบง่าย เหมาะสำหรับหนุ่มสาวรุ่นใหม่และสวมใส่ได้ง่ายกว่าดิออร์ โดยเฉพาะเสื้อครึ่งตัวสีขาวสำหรับผู้หญิงถือเป็น 'เครื่องหมายการค้า' ของห้องเสื้อเฟอร์เร่ รวมทั้ง 'ชุดสูททำงานสำหรับผู้หญิง' ก็ได้รับความนิยมสวมใส่กันในหมู่นักธุรกิจหญิงทั่วโลก เนื่องจากการตัดเย็บและรูปแบบทำให้พวกเธอดูเป็นสาวทำงานชาวกรุงขึ้นมาทันตา 

ดอนนาเทลล่า เวอร์ซาเช่ ยกย่องเฟอร์เร่ด้วยคำว่า 'ผู้ชายจากอีกห้วงเวลา' เพราะเขาช่วยเปลี่ยนโฉมหน้าแฟชั่นอิตาเลียน 

จิอานนี่ เวอร์ซาเช่ ก็เคยกล่าวถึงเฟอร์เร่ว่า "เขาคือนักออกแบบอาภรณ์สตรีผู้รู้วิธีสร้างสรรค์ความงามทันสมัยอย่างแท้จริง ด้วยรายละเอียดที่ผมเคยไม่เบื่อหน่ายที่จะละสายตามองผลงานของเขา ซึ่งสิ่งนี้จะคงอยู่ในประวัติศาสตร์แฟชั่น" 

จิออจิโอ อาร์มานี่ กล่าวว่า "สิ่งที่ผมชื่นชมเฟอร์เร่เป็นพิเศษก็คือ ความสามารถในการเชื่อมโยงของเขา ความมีเหตุมีผล และสุนทรียศาสตร์ ซึ่งเขาผสมผสานออกมาเป็นปรัชญาในการทำงานแฟชั่นของเขา เวลาที่ผมนึกถึงจิอานฟรังโก้ เฟอร์เร่ ความคิดที่ผุดขึ้นมาแวบแรกคือความมีเกียรติ สุขุม ความรู้สึกของความรับผิดชอบที่เขาใส่ลงไปในผลงานของเขา" 

ในฐานะแฟชั่นดีไซเนอร์ จิอานฟรังโก้ เฟอร์เร่ ได้รับรางวัลและเกียรติยศด้านแฟชั่นหลายรางวัล 

เดือนกรกฎาคมปี ค.ศ.1975 Moda Mare Capri มอบ รางวัล Tiberio D'oro ให้กับแฟชั่นชุดชายหาดคอลเลคชั่น Les Grenouilles ของเฟอร์เร่ ชุดชายหาดคอลเลคชั่นนี้มีลักษณะทั้งแบบเทคโนและหรูหรา ดูเทคโนตรงที่ตัวเสื้อครึ่งบนใช้ผ้าเหมือนไนลอนกันลม แต่ก็มีความหรูหราอ่อนโยนมีชีวิตตรงที่มีการตกแต่งชุดให้เหมือนมีโบผูกไว้ตรงสะโพกและด้านหลัง เฟอร์เร่บอกว่าหลังจากชุดชายหาดคอลเลคชั่นนี้เปิดตัวออกมา เขาจำได้ว่ามีสื่อมวลชนติดต่อเข้ามาเพื่อขอสัมภาษณ์และขอให้เขาแสดงให้ดูว่าจะพันผ้าให้เป็นโบอย่างที่เห็นพวกเขาในภาพได้อย่างไร รางวัลนี้ถือเป็นรางวัลแฟชั่นแรกในชีวิตที่เฟอร์เร่ได้รับ 

เดือนตุลาคม ปี ค.ศ.1982 เฟอร์เร่ได้รับ รางวัล Occhio d'Oro ในฐานะ Best Italian Designer สำหรับคอลเลคชั่นผู้หญิงสปริง-ซัมเมอร์ 1983 และได้รับอีก 5 ครั้งในปีต่อๆ มา โดยเฉพาะในปีค.ศ.1989 เป็นความทรงจำพิเศษเมื่อคอลเลคชั่นโอต์ กูตูร์ ของคริสเตียน ดิออร์ ที่เฟอร์เร่ออกแบบได้รับรางวัลนี้เป็นครั้งแรก 

ไม่เฉพาะรางวัลในยุโรป จิอานฟรังโก้ เฟอร์เร่ ยังได้รับรางวัลแฟชั่นและได้รับเกียรติจากนานาประเทศด้วย เดือนมิถุนายน ปี ค.ศ.1985 นิวยอร์กมอบ รางวัล Cutty Sark Men's Fashion ให้เขา นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลด้านออกแบบแฟชั่นจากลอสแองเจลิส ญี่ปุ่น (อาซาฮี ชิมบุน) เยอรมนี (มิวนิก) 

กลุ่มพัฒนาเทคโนโลยี-วิทยาศาสตร์และวิจัยเสื้อผ้าแห่งชาติจีนเทียนกงใน กรุงปักกิ่ง เชิญจิอานฟรังโก้ เฟอร์เร่ รับตำแหน่ง 'ที่ปรึกษาอาวุโส' ในปี ค.ศ.1993 และ เซี่ยงไฮ้ ก็เชิญเฟอร์เร่รับตำแหน่ง 'ที่ปรึกษาอาวุโสด้านศิลปะเสื้อผ้า' เมื่อปี ค.ศ.2001 ที่ผ่านมานี้เอง 

ถึงแม้จะได้รับรางวัลด้านแฟชั่นมากมาย แต่จิอานฟรังโก้ เฟอร์เร่ บอกว่า ทุกรางวัลสร้างความตื่นเต้นให้กับเขาเป็นอย่างมากเหมือนกันทุกครั้ง เช่นเดียวกับการทำแฟชั่นโชว์ ทุกโชว์คือบททดสอบคือตัวตนของเขาคือสิ่งที่เขารู้สึก 

"เมื่อผมออกมาบนรันเวย์และแสดงตัวต่อหน้าผู้ชม ความรู้สึกไม่เคยเปลี่ยน ไม่เคยลดน้อยลง ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี นาทีนั้นช่างมหัศจรรย์และน่าหวาดกลัวอยู่ในที ผมคือคนหนึ่งที่เชื่อจริงๆ ว่าบททดสอบไม่เคยมีจุดสิ้นสุด" 

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า จิอานฟรังโก้ เฟอร์เร่ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ซาน ราฟาเอล ในกรุงมิลานเมื่อคืนวันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน และโรงพยาบาลได้รับอนุญาตให้ประกาศตามคำยินยอมของครอบครัวเฟอร์เร่ว่า จิอานฟรังโก้ เฟอร์เร่ ได้เสียชีวิตลงแล้วด้วยสาเหตุเลือดคั่งในสมอง เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่เขาอายุ 62 ปี 

ทิ้งคำตอบของบททดสอบอันมีค่าไว้เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์แฟชั่นโลก 


***********
บนเก้าอี้ตัวนั้น 
เรื่อง : วลัญช์ สุภากร 
โดย : กรุงเทพธุรกิจ จุดประกาย วันอาทิตย์ ปีที่ 20 ฉบับที่ 6935 
วันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2550 

Views: 89

Reply to This

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service