สงคราม ขาวกับดำ ในโลกนางแบบ

 

ชาแนล ไอมาน ลูกครึ่งผิวดำ-เกาหลี แฉวงการนางแบบกีดกันผิวสี ด้าน V Magazine สหรัฐฯ เล่มล่าสุดขุด Grace Jones วัย 60 ขึ้นปก 

ได้เห็นหน้าปก V Magazine สหรัฐฯ เล่มล่าสุดที่นำคุณป้า Grace Jones วัย 60 อดีตนางแบบ นักร้อง และนักแสดงผิวดำเชื้อสายจาเมกา ที่เคยโด่งดังสุดขีดตั้งแต่เมื่อช่วงปลายยุค 70 และยุค 80 กลับมาขึ้นปกอีกครั้งในปี 2009 ก็ทำให้ผู้เขียนรู้สึกดีอีกครั้ง เพราะตั้งแต่ช่วงกลางปี 2008 ที่ผ่านมา ดูเหมือนวงการแฟชั่นโลก จะเปิดโอกาสให้กับนางแบบผิวดำมากขึ้น 

ผมจำได้ว่า เคยเขียนถึงประเด็นนางแบบผิวดำลงในคอลัมน์นี้ไปแล้วสองครั้ง หลังจากนิตยสาร Vogue อิตาลี ฉบับกรกฎาคม 2008 ที่ผ่านมา ได้นำนางแบบผิวดำมาขึ้นปกและถ่ายแบบทั้งเล่ม ซึ่งเป็นครั้งแรกของโลกที่นิตยสารแฟชั่นชั้นแนวหน้ากล้าหาญที่จะแสดงจุดยืนของตัวเอง ที่ต้องการรณรงค์ให้คนในวงการแฟชั่นโลก "เปลี่ยน" ทัศนคติและเห็นคุณค่าของนางแบบผิวดำให้มากขึ้น 



เพราะนางแบบผิวดำที่มีรูปร่างหน้าตาสวยงามก็มีมากมาย แต่ปัญหาการเหยียดผิวที่เป็นเรื่องฝังรากลึกมาเป็นร้อยๆ ปี เป็นตัวการที่ไปปิดกั้นโอกาส "เกิด" ของนางแบบผิวดำ ทำให้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซูเปอร์โมเดลชื่อดังระดับโลกเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์จะเป็นสาวผิวขาว 

ขณะที่ซูเปอร์โมเดลชื่อดังที่เป็นสาวผิวดำ กว่าจะโด่งดังขึ้นมาได้สักคนต้องดิ้นรนและใช้ความอดทนอย่างสูง ซึ่งไม่ใช่ว่ารูปร่างหน้าตาของนางแบบผิวดำจะสู้นางแบบผิวขาวไม่ได้ แต่มันเป็นเรื่องของทัศนคติล้วนๆ เพราะคนที่ทำหน้าที่คาสติ้งคัดเลือกนางแบบมักจะเป็นคนขาว ซึ่งแม้ฝรั่งผิวขาวบางคนไม่ได้รังเกียจนางแบบผิวดำ แต่พวกเขาก็จำเป็นต้องเลือกนางแบบผิวขาวไว้ก่อน เพราะเชื่อกันว่า นางแบบผิวดำจะส่งผลกระทบต่อยอดขายเสื้อผ้า 

โดย ชาแนล ไอมาน (Chanel Iman) นางแบบผิวดำชาวอเมริกันลูกเสี้ยวเกาหลี หนึ่งในนางแบบผิวดำรุ่นใหม่ที่มาแรงที่สุดในขณะนี้ เป็นคนออกมา "แฉ" เรื่องนี้ด้วยตัวเอง โดยเธอเพิ่งให้สัมภาษณ์ใน Page Six Magazine ของสหรัฐฯเมื่อสัปดาห์ก่อนที่เธอยืนยันว่า ไม่ใช่เพียงแค่นางแบบผิวดำเท่านั้นที่เจอกับการเหยียดผิว 



เพราะนางแบบชาติอื่นไม่ว่าจะเป็นนางแบบบราซิล นางแบบสเปน หรือนางแบบเอเชีย ก็จะต้องเจอกับทัศนคติแปลกๆ ของผู้คัดเลือกนางแบบและดีไซเนอร์ระดับโลก ที่เชื่อกันว่า ถ้าเลือกนางแบบฝรั่งผิวขาวสไตล์เดียวกันทั้งหมดให้ขึ้นมาเดินแบบ จะทำให้ผู้ชมสนใจเพียงเสื้อผ้าและในที่สุดก็ลงเอยด้วยการซื้อเสื้อผ้า แต่หากเลือกนางแบบชนชาติอื่นให้ขึ้นมาเดินแฟชั่นร่วมกับนางแบบฝรั่งผิวขาวแล้วล่ะก็ นางแบบหน้าตาแปลกๆ จะดึงดูดความสนใจของผู้ชมมากเกินไป ทำให้ผู้ชมแฟชั่นไม่สนใจเสื้อผ้า เพราะมัวแต่มองหน้านางแบบ 

โดยนางแบบชาแนลให้สัมภาษณ์อย่างน้อยอกน้อยใจว่า 

"สินค้าแบรนด์ดังต่างรุมกันแย่งตัวพวกนางแบบผิวขาวไปเป็นนางแบบโฆษณากันใหญ่ ทั้งที่แต่ละคนก็มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกันหมด ถ้าฉันทำได้ซักครึ่งหนึ่งของพวกนางแบบผิวขาวก็คงจะดี แต่ฉันว่า หากปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปมันไม่ถูกต้อง มันไม่ยุติธรรม" 

การให้สัมภาษณ์ครั้งล่าสุดของนางแบบผิวดำรุ่นใหม่อย่าง ชาแนล ไอมาน เป็นข้อพิสูจน์ว่า แม้ Vogue อิตาลี มีความพยายามจะเปลี่ยนแปลงทัศนคติของคนเบื้องหลังวงการแฟชั่นโลก ด้วยการนำนางแบบผิวดำมาถ่ายแบบทั้งฉบับ เพื่อแสดงให้โลกเห็นถึงความสวยงามของสาวผิวดำ แต่ก็น่าจะต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงทัศนคติได้แบบ 100% 



อย่างไรก็ตาม การขจัดปัญหาการเหยียดผิวในวงการแฟชั่นโลกก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีความหวัง เพราะมีสัญญาณบางอย่างที่ถือเป็นแนวโน้มที่ดีอยู่เหมือนกัน ว่าปัญหานี้น่าจะคลี่คลายไปทีละเล็กละน้อยในอนาคต เพราะคนในวงการแฟชั่นโลกที่ตอบรับแนวคิดของ Vogue อิตาลี ทันทีก็คือ แอนนา วินทัวร์ (Anna Wintour) บก.Vogue สหรัฐฯ หนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในวงการแฟชั่นโลกที่ใครๆ ก็เกรงบารมี 

โดย บก.แอนนาช่วยเหลือนางแบบผิวดำ ด้วยการทำสกู๊ปพิเศษตีแผ่ปัญหาการเหยียดผิวที่เกิดขึ้นในวงการแฟชั่นโลกลงใน Vogue สหรัฐฯ พร้อมนำนางแบบผิวดำรุ่นใหม่ 3 คนมาถ่ายแบบแนะนำตัว ซึ่ง 1 ใน 3 นางแบบก็มีนางแบบ ชาแนล ไอมาน รวมอยู่ด้วย และในเดือนมกราคมนี้ บก.แอนนา ก็ต้อนรับปีใหม่ด้วยการให้นางแบบผิวดำ 2 คนมาถ่ายแบบแฟชั่นเซตใหญ่ใน Vogue สหรัฐฯโดยไม่มีนางแบบผิวขาวแม้แต่คนเดียว 

ซึ่ง บก.แอนนา ไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนในชีวิต เพราะปกติเธอจะสงวนพื้นที่แฟชั่นเซ็ทใหญ่ของ Vogue สหรัฐฯไว้ให้นางแบบผิวขาวเท่านั้น ซึ่งหนึ่งในนางแบบผิวดำ 2 คนที่ได้ถ่ายแบบครั้งนี้ ก็คือนางแบบ ชาแนล ไอมาน อีกเช่นเคย ส่วนนางแบบผิวดำอีกคนก็คือ จอร์แดน ดัน (Jourdan Dunn) นางแบบอังกฤษ ที่เธอเคยขึ้นปก Vogue อิตาลี ฉบับดำมาแล้ว 

และนางแบบจอร์แดนเองก็เพิ่งสร้างความฮือฮาเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2008 ที่ผ่านมา เพราะเธอสามารถคว้าตำแหน่ง Model Of The Year 2008 ของสมาคมแฟชั่นอังกฤษมาได้ โดยจอร์แดนมีชัยเหนือนางแบบผิวขาวชื่อดังอีก 2 คนที่เข้าชิงรางวัลพร้อมกับเธอ 

ส่วนนิตยสารแฟชั่นชั้นนำเล่มอื่นพอเห็นความเปลี่ยนแปลงของ Vogue อิตาลี และ Vogue สหรัฐฯ ก็เริ่มมีการนำนางแบบผิวดำมาถ่ายแบบมากขึ้นจนสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม งานแฟชั่นวีคเสื้อผ้าผู้ชายในมิลานที่จัดขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน ก็ได้ตอกย้ำให้โลกเห็นว่า ปัญหาการเหยียดผิวในวงการแฟชั่นโลกยังคงหนักหน่วง เพราะดีไซเนอร์ชื่อดังส่วนใหญ่ซึ่งเป็นคนผิวขาว ยังคงไม่ยอมเลือกนายแบบผิวดำขึ้นเดินแบบ 



โดย ฟรีดา จิอานนินี (Frida Giannini) ดีไซเนอร์ของ Gucci บอกว่า เรื่องนี้ต้องโทษเอเยนซี เพราะเธอบอกกับเอเยนซีแล้วว่า ให้ส่งคนที่น่าสนใจมาให้ เพราะเธอต้องการใช้งานนายแบบนางแบบผิวดำมากๆ รวมทั้งนายแบบนางแบบจากทุกชนชาติด้วย แต่เอเยนซีก็ไม่เคยส่งมาให้ตามคำขอ 

ด้านเจ้าของเอเยนซีก็ออกมาสวนกลับดีไซเนอร์สาวของ Gucci ทันที ว่าทุกเอเยนซีส่งนายแบบนางแบบผิวดำเจ๋งๆ ป้อนให้ดีไซเนอร์ต่างๆ ทุกครั้ง แต่ในที่สุด เมื่อถึงขั้นตอนการคัดเลือกตัวครั้งสุดท้าย ดีไซเนอร์กลับปฏิเสธที่จะเลือกนายแบบนางแบบผิวดำให้ขึ้นเดินแบบบนรันเวย์ 

ต่างฝ่ายต่างโยนความผิดกันไปมาแบบนี้ ดูท่าทางเราคงจะต้องมานั่งถกประเด็นการเหยียดผิวในวงการแฟชั่นโลกกันอีกหลายครั้งแน่นอน 

************ 
โดย : คมน์ นพรัตน์ 

Views: 411

Reply to This

Replies to This Discussion

อืม

RSS

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service