บัลแกเรียเปิดพิพิธภัณฑ์ "ศิลปะสมัยสังคมนิยม" คนแห่ชมรูปปั้นยักษ์"เลนิน"

 

"รูปปั้นขนาดใหญ่ของวลาดีเมียร์ เลนิน ที่ยืนเด่นสง่าเป็นประธานอยู่ท่ามกลางอดีตผู้นำโซเวียต เป็นสัญญาณชี้ว่า ระบอบการปกครองแบบคอมมิวนิสต์ได้หวนกลับมายังอดีตประเทศภายใต้เงาอำนาจของสหภาพโซเวียตอย่างบัลแกเรียแล้วในสัปดาห์นี้ ทว่ามันจะสิงสถิตอยู่ในพิพิธภัณฑ์เท่านั้น" 


ไดอาน่า เซมิโนว่า นักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงโซเฟีย ประเทศบัลแกเรียว่า เป็นเวลา 2 ทศวรรษนับตั้งแต่การล่มสลายของสหภาพโซเวียต ที่โฆษณาชวนเชื่อทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นรูปปั้นผู้นำคอมมิวนิสต์ สัญลักษณ์ดาวแดง หรือธงรูปค้อนเคียวได้ถูกนำออกไปจากจตุรัสและอาคารห้างร้านต่างๆในบัลแกเรีย แต่ในวันนี้ ทางการบัลแกเรียได้ฟื้นชีพพวกมันอีกครั้งด้วยการจัดตั้ง "พิพิธภัณฑ์ศิลปะสังคมนิยม" แห่งแรกในบัลแกเรีย

 

 

"นี่คือช่วงเวลาอันเหมาะสมที่จะนำเอาระบอบคอมมิวนิสต์ไปไว้ในที่ที่มันควรอยู่...นั่นก็คือในพิพิธภัณฑ์" นายเวจดี ราชิดอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมของบัลแกเรียกล่าวในพิธีเปิดพิพิธภัณฑ์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ท่ามกลางผู้ชมที่แย่งกันถ่ายรูปและจับจ่ายสินค้าที่ระลึก 


ทั้งนี้ ภาพวาดจำนวน 60 รูป รูปปั้น 25 ชิ้น และประติมากรรมขนาดยักษ์กว่า 77 ชิ้นจากโรงเก็บของได้ถูกนำมาแสดงเพื่อเป็นการรำลึกถึงระบอบการปกครองคอมมิวนิสต์ซึ่งดำเนินมาเป็นเวลา 45 ปี 


เซมิโนว่ารายงานว่า งานศิลปะส่วนใหญ่แลดูน่าประทับใจจากความใหญ่โตโอ่อ่าของพวกมัน อย่างเช่นรูปปั้นขนาดมหึมาของกอร์กี ดิมิทรอฟ ผู้นำคอมมิวนิสต์คนแรกของบัลแกเรีย หรือรูปปั้นศีรษะที่ทำจากทองเหลืองของเลนิน 


รวมทั้ง "ศิลปะแห่งโฆษณาชวนเชื่อ" อย่าง รูปวาดสีน้ำมันรูปชาวนาถือเคียว ที่กำลังกรำงานอยู่ในนา โดยสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวซึ่งมีเหรียญคอมมิวนิสต์ 3 เหรียญติดอยู่ หรือภาพคนงานเหมืองกำลังพักสูบบุหรี่ขณะอ่านหนังสือพิมพ์ของพรรคคอมมิวนิสต์ไปด้วย 


"งานศิลปะเหล่านี้ ซึ่งถูกทอดทิ้งเนื่องจากการที่ผู้คนมีทัศนคติที่ว่าพวกมันเป็นสิ่งที่หลงเหลืออยู่จากลัทธิเผด็จการ- ล้วนเป็นงานศิลปะชิ้นเอกทั้งนั้น" ราชิดอฟ กล่าว พลางพูดถึงผลงานเหล่านี้ว่าเป็น "งานฝีมือชั้นยอด ซึ่งเต็มไปด้วยองค์ประกอบที่ลงตัวและความงามทางศิลปะอันบรรเจิด" 


ทั้งนี้ รัฐบาลบัลแกเรียคาดว่า เงินกว่า 1.5 ล้านยูโร หรือประมาณ 62 ล้านบาทที่ใช้ไปในการลงทุนในพิพิธภัณฑ์ดังกล่าวจะคืนทุนให้แก่รัฐบาลภายในระยะเวลา 2 ปี ด้วยการจำหน่ายตั๋วเข้าชมในราคาใบละ 3 ยูโร หรือประมาณ 125 บาท 


เซมิโนว่ารายงานว่า อย่างไรก็ดี อนุสรณ์ของการปกครองสมัยโซเวียตอื่นๆที่ยังหลงเหลืออยู่ทั่วประเทศยังคงเป็นที่ถกเถียงกันว่า จะเอาพวกมันไปเก็บไว้ที่ไหนดี ในเมื่ออนุสรณ์เหล่านี้ล้วนมีขนาดใหญ่โตเกินกว่าจะนำไปไว้ในพิพิธภัณฑ์แห่งใดแห่งหนึ่ง

 

 

 

ที่มา: matichon.co.th / 22 กันยายน พ.ศ. 2554

Views: 545

Reply to This

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service