Thailand's Creative Art & Design Community

ถามมาตอบไป 1 : การรับงานถ่ายภาพตกแต่งภายใน เรื่องจำนวนรูปที่ให้ลูกค้า

หวัดดีคับ พี่เด๋ย และคุณเต้ย อยากสอบถาม เกี่ยวกับเรื่อง การรับงานถ่ายภาพตกแต่งภายใน เรื่องจำนวนรูปที่ให้ลูกค้า ว่ามากสุดประมาณกี่รูป และ น้อยสุดกี่รูป ขอบคุณคับ / โต้ง

Replies to This Discussion

Permalink Reply by pirak anurakyawachon on October 1, 2009 at 4:02pm

เนี่ยครับ สภาพตอนถ่าย บางงาน ก็ต้องกลายเป็นผีซ่อนตู้แบบเนี้ยครับ จากภาพคงพออธิบายประโยชน์ของเลนส์มุมกว้างได้นะครับคุณจี และเพื่อนๆทุกท่าน ตอนถ่ายนี้ใช้ hasselblad เลนส์ 40 มม (ประมาณ 18 หรือ 19 หรือ 20 มม เนี่ยครับจำไม่ได้)

Permalink Reply by Justin Suwintawong on October 2, 2009 at 2:47am

ผมว่าการถ่าย Architecture เเบบนี้จำเป็นที่ช่างภาพควรที่จะรู้ความเเตกต่างของเลนส์ในเเต่ละช่วงที่จะให้ภาพออกมาไม่เหมือนกัน สามารถให้วัตถุดูเล็กหรือใหญ่โตได้ ผมเองก็ชอบใช้เลนส์ไวด์ถ่าย เเต่ก่อนหน้านั้นชอบใช้่ Tele 200mm สำหรับ FF dslr ซึ่งต้องถอยกันยาววววว ครึ่งกิโล ซึ่งเลนส์เทเลให้ภาพตึกออกมาดูใหญ่โต(กว่าความเป็นจริง?) คือสัดส่วนไม่ใช่เหมือนที่ตาเห็นตามธรรมชาติ เเต่พอถ่ายเล่นๆมาเรื่อยๆก็ค้นพบว่า ภาพที่ดีที่สุดคือภาพที่มีสัดส่วนสมจริง ดังนั้นถึงเเม้จะใช้เลนส์ไวด์เพื่อเก็บบรรยากาศรอบๆเเต่ก็ต้องมีภาพตัวอาคารที่ถูกต้องตามสัดส่วนสมจริงด้วย อย่างภาพชุดที่คุณ pirak เอามาลงเป็นตัวอย่างนี่เป๊ะเลยครับ ขอบคุณสำหรับเกร็ดความรู้ครับ

Permalink Reply by pirak anurakyawachon on October 1, 2009 at 4:04pm

จุดที่ยืนถ่ายอยู่ก็ประมาณเนี้ยครับ

Permalink Reply by pirak anurakyawachon on October 1, 2009 at 4:34pm

ส่วนคำถามที่ 2 จากคุณจี

(ผมเห็นผลงานที่ได้จากกล้อง medium format Hasselblad H3DII เเละมี adapter tilt & shift สำหรับ lens ในเเต่ในช่วง ออกมาสุดยอดมาก เเต่ราคาเเรงน่าดู คงไม่เหมาะสำหรับการเริ่มต้นเเน่ๆ อยากทราบว่าในวงการถ่ายภาพ interior/architecture อาชีพทุกวันนี้ช่างภาพที่เคยใช้ 4X5 ย้ายไปใช้ digital back กันเยอะหรือยังครับ เป็นการสมควรเเก่เวลาที่จะย้ายไปใช้ digital back เเทนกล้องฟิล์ม 4X5 หรือยังครับ ถามประดับความรู้ครับ ผมไม่มีปัญญาซื้อกล้องเป็นล้านมาถ่ายเเน่ๆ)

ตอบ / ผมก็ไม่มีปัญญาเหมือนกันครับคุณจี เหอๆๆๆๆๆ แต่ถ้าเช่าก็สามารถ จริงๆแล้วตัว Hasselblad H3DII เเละมี adapter tilt & shift สำหรับ lens ผมก็เห็นแล้ว แต่มันมีข้อดีข้อเสียครับ คือ adaptor ตัวนั้น มันจะทำให้เราต้อง x 1.5 ครับ ดังนั้น สมมุติเลนส์ 28 มม มันก็จะกลายเป็น 36 มม ไปเลย และตัวผมเองก็มี adaptor ที่มันใช้กับ hass แบบเดียวกันนี้ แต่เป็นใช้กับกล้องฟิล์ม คอนเซ็ปเดียวกันครับ ก็เลยเฉยๆ เพราะเวลาใช้งานจริง สุดท้ายแล้ว ถ้าต้องชิฟต์ ผมก็ใช้กล้อง 4x5 อยู่ดี

อีกส่วนก็คือราคาแพงครับ คือถ้าไม่ได้เป็นตากล้องคิวทองอย่าง tim griffith หรือ เต้ย ณ เมืองนนท์ ก็คงจะไม่มีปัญญาซื้ออ่ะ สำหรับผม output ที่มันจะให้เราได้ ตอนนี้ก็มี 60 mpx แล้ว ของ hass แต่เราต้องซื้อระบบของเขาทั้งระบบอ่ะครับ คือ back ของตัวนี้มันถอดไปติดกับกล้องฟิล์มที่เรามีอยู่ไม่ได้อ่ะครับ เคยถามแล้ว ผมเคยสนใจ hass cfv 39 back ซึ่งมันจะเป็น back ที่ติดกับ hass 503cw ที่ผมมีอยู่ได้ ติดกับ sinar f2 ที่ผมมีอยู่ได้ แต่ราคามันซื้อ vios ได้คันนึงเลย ก็เลยยังก้มหน้าก้มตาใช้ฟิล์มไปก่อนครับ

อีกเหตุผลนึงคือ เซ็นเซอร์ของ back ในปัจจุบันมันก็ยังเป็น 6x4.5 ซม อยู่ พื้นที่รับภาพจากเลนส์มันน้อย ยังไม่เท่าฟิล์ม medium 6x6 6x9 6x12 หรือ 4x5 ดังนั้น เวลาถ่าย ถ้าเราจะเอาback มาใช้กับเลนส์ และกล้องฟิล์มที่เรามีอยู่ มันก็จะมีข้อสังเกตอยู่สองอย่างคือ
1. เมื่อพื้นที่รับภาพน้อยลง เลนส์กว้างที่เรามี ก็จะไม่กว้างอีกต่อไป สมมุติว่า ผมใช้ 20 มม กับ ฟิล์ม 6x6 พอมาใช้ digitalback รูปมันจะหายไป 1.5 ซม hass ถึงออกอุปกรณ์มาทั้งระบบไงครับ อย่างเลนส์ 28 มม ที่ใช้กับ h3d หรือ h4d มันก็ได้ 28 เต็มๆ ไม่หาย แต่ก็มีทางออกครับ บางคนใช้ back กับ กล้อง 4x5 เขาก็ไปหาอุปกรณ์ที่มันทำให้ถ่ายต่อกันได้ 4 รูป มาต่อกันในภาพเดียว ก็ถ่ายไปดิ สี่รูปซ้ายขวาบนล่าง แล้วก็เอามาต่อกัน สมมุติว่าเอา back 60 ล้านถ่าย ไฟล์ต่อกันก็จะกลายเป็น 240 ล้านพิกเซลไปซะงั้น

2. ถ้าถามว่าสมควรแก่เวลาหรือยัง ต้องถามตัวคุณจีเองด้วยครับว่า มันจะทำให้การทำงานของคุณจีง่ายขึ้นหรือป่าวหรือว่า ff dslr ก็ได้คุณภาพใกล้เคียงกัน คือถ้าเป็นงานอดิเรกก็คงไม่เป็นเรื่องอะไรมาก แต่ถ้าทำเป็นอาชีพ ผมว่ามันจะมีอะไรตามมาอีกเยอะครับ แต่คุณจีถ่ายงานแต่งงานนี่ครับ ถามผม ผมว่า ff dslr ก็น่าจะพอ เพราะมันคล่องตัวกว่ามาก กล้องที่คุณจีพูดถึง ผมว่า เหมาะกับช่างภาพแฟชั่นที่มีผู้ช่วยเป็นสิบ อีกอย่าง ถ้าเราใช้ digital back เราต้อง upgrade ระบบคอมของเราที่มีด้วยนะครับ มันไม่ใช่แค่การบันทึกไฟล์ขณะถ่าย แต่มันอยู่ที่การจัดเก็บ back up ด้วยครับ ถ้าถ่ายกระจุยจริงๆ ผมว่า hard disk 2TB ก็จะเต็มได้ภายในเวลาไม่กี่งาน อันนี้เจอกะตัวเองครับ แค่ 5dmark ii กับ idsmark iii แค่นี้ คอมผมก็นิ่งอึ้งแล้วครับ ไฟล์หนักมาก

Permalink Reply by pirak anurakyawachon on October 1, 2009 at 4:43pm

ส่วนอันนี้เล่าสู่กันฟังนะครับ
ช่วงนี้มีคนถามผมบ่อยมาก ว่าเมื่อไหร่จะมี DSLR เป็นของตัวเองสักที เห็นเช่าเฮียจุ้ย procenter ใช้อยู่ได้ มีเหตุผลดังนี้ครับ

1 ถ้าซื้อผมไม่ได้ซ์้อแค่กล้อง แต่ต้องมีเลนส์อีกอย่างน้อยสามตัว คอมพิวเตอร์ และฮาร์ดิสก์รวมแล้ว ราคาก็หลายแสนอยู่ มันจะเป็นการลงทุนอะไรอีกก้อนใหญ่เลย

2 งานหลักที่ใช้ ก็ยังเป็นงานถ่ายให้นิตยสาร ฟิล์ม ก็ยังให้ผลลัพธ์ที่พอใจ และผมก็รู้สึกชอบมันมากกว่าภาพดิจิ

3 กล้องดิจิ ถ้าผมใช้ ก็คือสำหรับลูกค้าที่เค้าต้องการอย่างเอเจนซี่ ซึ่งผมก็ไม่มีลูกค้าดิจิเยอะขนาดนั้น ดังนั้น การเช่าจากเฮีย ก็เลยน่าจะเหมาะสุด เพราะมีโอกาสได้ใช้กล้องรุ่นใหม่ล่าสุดอยู่ตลอดเวลา

4 เป็นโชคดีที่ ผมยังหาซื้อฟิล์มได้อยู่ครับ ถ้าเมื่อไหร่หาไม่ได้ก็คงต้องปรับขบวนกันใหม่หมด แต่ถึงเวลานั้นแล้ว ไม่รู้จะยังมีแรงถ่ายอีกหรือเปล่า

โอเค วันนี้แค่นี้ก่อน หวังว่าคงจะตอบคุณจีได้ครบนะครับ
ถามมาตอบไปครับ

Permalink Reply by Justin Suwintawong on October 2, 2009 at 2:56am

Hasselblad digital นี่เป็น system ในฝันเลย เเต่ไม่รู้จะซื้อมาทำไม (อีกอย่างไม่มีปัญญาซื้อ-เเพงจับจิต) กับการทำงานปัจจุบัน 5DII ก็เหลือเฟือเกินพอเเล้ว ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ ได้ความรู้เพิ่มขึ้นอีกเยอะ

Permalink Reply by pirak anurakyawachon on October 2, 2009 at 8:13pm

ด้วยความยินดีครับ แวะมาบ่อยๆนะครับ คุยกัน ช่วงนี้เป็นไงบ้างครับ งานเยอะมั้ยครับ กลับเมืองไทยบ้างป่าวครับ เข้าน่าหนาวแล้ว รักษาสุขภาพนะครับทั่น

Permalink Reply by WCDMA on May 29, 2010 at 8:48pm