Lui Ye ศิลปินจีนหัวใจเด็ก

เมื่อวันที่ 5 เมษายน ค.ศ.2010 ที่ผ่านมา ในการประมูลภาพวาดของ Sotheby ที่ฮ่องกง นาง Wang Wei ภรรยามหาเศรษฐีหุ้นแห่งฮ่องกง Lui Yiquian ประมูลภาพวาดชื่อ Bright Road ไปได้ด้วยราคาสูงถึง 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา ภาพ Bright Road เป็นภาพเด็กชายและเด็กหญิงมีปีก ทำท่าเหมือนวิ่งหรือกระโดดหรือเต้นรำ หนังสือ และหมวกกำลังหล่นลงพื้น ข้างหลังเป็นหน้าต่างที่เปิดอยู่มองเห็นรุ้งกินน้ำ มีทางเดินทอดยาว ต้นไม้สีเขียวเรียงรายข้างทางเดิน บนท้องฟ้ามีเมฆสีคล้ำ หลังสุดเป็นท้องฟ้าสีแดงน่ากลัว มีลูกระเบิดกำลังเข้าใกล้พื้นดิน ภาพ Bright Road เป็น ฝีมือของศิลปินชาวจีนชื่อ Lui Ye 


 




Lui Ye เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะผู้วาดภาพประเภท pop art ที่ชอบวาดภาพคนหัวโต ตาโต แต่ตัวเล็ก คนที่เขาวาดมีท่าทางเหมือนตัวการ์ตูน มีสีสันสดใส น่ารัก ดูแล้วโดดเดี่ยว บางภาพแม้จะเปลือยอกแต่ดูแล้วก็ไม่โป๊เพราะนมเล็กเหลือเกิน Lui Ye บอกว่า ตนเองได้รับอิทธิพลในการวาดภาพมาจากศิลปินชาวดัชท์ Vermeer และ Mondrain โดยเฉพาะ Mondrain ที่วาดภาพเส้นเรขาคณิตสอดสีที่ Lui Ye ชอบมากและเอามาทำเป็นฉากของภาพวาดจำนวนมากของเขา 



Lui Ye เป็นศิลปินที่มีความแตกต่างไปจากศิลปินแบบร่วมสมัยของจีนคนอื่นๆที่อยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน มีหลายเหตุผลที่ทำให้เขาต่างไปจากศิลปินจีนคนอื่นๆ เขาเลือกที่จะวาดภาพผู้หญิงเปลือยอก สูบบุหรี่ ทำท่าเหมือนเด็ก มากกว่าที่จะวาด ภาพเกี่ยวข้องกับการเมือง เพราะเขาเห็นว่า ศิลปะเป็นคนละเรื่องกับการเมือง ศิลปะมีความเป็นสากลในขณะที่การเมืองเป็นเรื่องภายในของแต่ละประเทศ 

 

 



Lui Ye เกิดที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีนเมื่อปี ค.ศ. 1964 ชีวิตในวัยเด็กแตกต่างไปจากเด็กอื่น เขาเป็นเด็กที่มีโอกาสอ่านนิทานและอ่านหนังสือเด็กที่มาจากประเทศตะวันตกอย่างเช่นนิยายของ Hans Christian Andersen เพราะพ่อของเขาทำงานเขียนหนังสือเด็กให้รัฐและเขียนของตัวเองส่วนตัวด้วย แต่หนังสือของพ่อก็เป็นหนังสือที่ไม่มีภาพประกอบ พ่อมีส่วนสำคัญที่ทำให้ลูกชอบหนังสือเด็ก เริ่มจากวันหนึ่ง Lui Ye มีปัญหาเล่นกับเพื่อนแล้วทะเลาะกันจึงหนีไปขังตัวเองอยู่ในห้อง 


พ่อก็เลยเอานิทานของ Hans Christian Andersen มาให้เขาอ่าน ความสนุกของนิทานทำให้ Lui Ye อ่านมากขึ้นแล้วก็ชอบดูภาพวาดประกอบ สมัยเรียนอนุบาล Lui Ye ชอบวาดภาพ เมื่ออายุได้ 10 ปีเพื่อนของพ่อเห็นภาพที่เขาวาดเข้าจึงได้แนะนำให้เขาเรียนศิลปะ พ่อของ Lui Ye จึงจัดให้เขาได้เรียนวาดเขียนพิเศษ 2 ครั้งต่อสัปดาห์เรื่อยมา จนกระทั่ง Lui Ye อายุ 15 ปี ในปี ค.ศ.1980 พ่อของ Lui Ye จึงได้ให้เขาวาดรูปประกอบหนังสือการ์ตูนของพ่อ 

 


 




เมื่อเรียนจบการศึกษาขั้นต้น ในปี ค.ศ.1986 Lui Ye ก็ได้เข้าเรียนศิลปะระดับปริญญาตรีที่ Central Academy of Fine Arts ในกรุงปักกิ่ง ต่อมาเมื่อเรียนจบ Lui Ye ได้รับทุนไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโทสาขา Plastic Art ที่ Hochschule der Kunst ในกรุง Berlin ประเทศเยอรมนีในปี ค.ศ.1989 
Lui Ye ใช้ชีวิตในกรุง Berlin อยู่หลายปีจนทุนหมดก็ต้องทำงานล้างจานในร้านอาหารเพื่อที่จะได้มีเงินเรียนต่อ 


 

 

 




ในปี ค.ศ.1991 Lui Ye ได้มีโอกาสร่วมแสดงผลงานร่วมกับศิลปินอื่นๆในกรุง Berlin ในงาน Free Berlin Art ผลงานของเขาได้รับความสนใจเป็นอันมากจากผู้ชมเพราะเป็นภาพวาดที่มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครในช่วงเวลานั้น งานของ Lui Ye มีลักษณะคล้ายการ์ตูน คนหัวโต ตาโตแต่ตัวเล็ก ในการแสดงผลงานนี้เองที่เขามีโอกาสได้พบกับผู้อำนวยการห้องแสดงภาพเขียนขนาดเล็กแห่งหนึ่งที่ชื่อ Taube Gallery ที่ได้ซื้อภาพของเขาไปในราคา 2000 Deutsch Marks 


และนอกจากนี้ยังตกลงจ้างเขาอีกเดือนละ 1200 Deutsch Marks ให้วาดภาพให้กับห้องแสดงภาพเขียนแห่งนั้น Lui Ye แปลกใจกับความเปลี่ยนแปลงในชีวิตเป็นอย่างมากเพราะไม่คิดว่าตนเองจะเปลี่ยนจากคนที่ไม่มีเงินมาเป็นคนรวยมีงานทำในช่วงเวลาข้ามคืน ในปี ค.ศ.1993 Taube Gallery ได้จัดแสดงผลงานเดี่ยวให้กับ Lui Ye ชื่อSolo Exhibition of Lui Ye ปรากฎว่า ภาพวาดของ Lui Ye ขายได้หมด ต่อมาในปี ค.ศ.1995 ก็มีการจัดแสดงผลงานเดี่ยวของ Lui Ye อีกครั้งหนึ่งซึ่งเขาก็สามารถขายภาพเขียนได้หมดเช่นเดียวกัน 


 

 

 




จากนั้นมา Lui Ye ก็ได้กลายเป็นศิลปินจีนขายดีในยุโรป เมื่อกลับมาอยู่ที่ประเทศจีนในปี ค.ศ.1995 พร้อมกับเงินจำนวนมาก เขาก็เริ่มต้นผลิตผลงานโดยมิได้เข้าร่วมหรือเข้าไปรวมกลุ่มกับศิลปินจีนอื่นๆ Lui Ye เดินทางไปแสดงผลงานเดี่ยวหลายครั้งทั่วโลก เช่นในปี ค.ศ.2001 ที่กรุง London ในปี ค.ศ. 2004 ที่ Hong Kong ในปี ค.ศ.2005 ที่Tokyo ในปี ค.ศ.2007 ที่ Bern ประเทศ Switzerland ในปี ค.ศ.2006 ที่กรุง New York ในปี ค.ศ. 2009 และ2010 ที่ Miami 

 

 

 

 

 




แม้จะวาดภาพมากแต่ Lui Ye ก็ไม่มีโอกาสได้ทำอะไรตามใจตัวเองมากนัก เขาอยากวาดภาพเหมือนของ Mozart ในแบบของเขามากว่า 10 ปีแต่ก็ไม่กล้า แต่พอตัดสินใจวาด Lui Ye ก็ใช้เวลาเพียงแค่ 2 สัปดาห์ในการวาด นอกจาก Mozart แล้ว เขาก็ยังอยากวาด Alice in Wonderland ด้วยเช่นกัน ปัจจุบันพอเห็น Tim Burton นำ Alice in Wonderland มาสร้างเป็นภาพยนตร์ Lui Ye ก็เลยยิ่งอยากวาดมากเข้าไปใหญ่ แต่ก็ยังไม่กล้าพอ 


3 ปีก่อนหน้านี้ Lui Ye ขายภาพได้ภาพละพันกว่าเหรียญสหรัฐแต่วันนี้เขาขายภาพได้ไม่ต่ำกว่าภาพละล้านเหรียญสหรัฐ 

Lui Ye ไม่มีผลงานออกมาบ่อยนักเพราะเขาเป็นคนทำงานช้า ช้าเหมือนสมัยที่ล้างจานอยู่ในร้านอาหารที่กรุง Berlin จนถูกไล่ออก 


 

 

 

 

 

 




โดย: อายตนะ 
ที่มา: มติชน / 14 มีนาคม 2554

Views: 159

Reply to This

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service