ดอกไม้ ภาพถ่าย และ ศักดิ์ชัย กาย

“ผมคิดว่าคนทุกคนมีชีวิตที่เกี่ยวพันกับศิลปะ ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว เพียงแต่เราไม่รู้สึกว่าเราใช้ศิลปะในการดำเนินชีวิต และในแบบไหน ซึ่งจริงๆเราอยู่กับมัน... 

ผมคิดว่าศิลปะมีความสำคัญกับชีวิตของทุกคน ในสายเลือด ในทุกลมหายใจ 

บังเอิญนอกจากผมจะอยู่กับเค้าแล้ว ผมก็ยังมีวิชาชีพที่อยู่กับเค้าเหมือนกัน ศิลปะมันทำให้ชีวิตขับเคลื่อน ถ้าไม่มีศิลปะคุณลองคิดดูว่าชีวิตจะมีความเป็นอยู่อย่างไร” 

เจ้าของนามปากกา S.GUY หรือ ศักดิ์ชัย กาย บรรณาธิการบริหาร ของ LIPS นิตยสารแนวแฟชั่นที่ยืนหยัดมากว่า 10 ปี กล่าวขึ้น ณ ออฟฟิศ บริษัท เอมมารุต พับลิชชิ่ง จำกัด ฐานประจำการของชาว LIPS บนอาคารมณียาเซ็นเตอร์ 

ปฏิเสธไม่ได้ว่า สิ่งที่ทำให้ LIPS กลายเป็นนิตยสารสายป่านยาว มีโฆษณาหลั่งไหลเข้าจนชวนให้อิจฉา นอกจากทีมงานคุณภาพ ที่บางครั้งต้องยอมผิดระเบียบเพื่อให้เกิดไอเดียใหม่ๆ ยังคือเรื่องของศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ที่มีผู้ชายคนนี้จับมาทา ไม่ให้มันเป็นปากที่ไร้ความเซ็กซี่และถูกทาสีเดียวตลอดทั้งปี และเป็นดังสิ่งที่เขาเคยกล่าวไว้ เมื่อคราวที่ LIPS เติบโตมาถึงขวบปีที่ 10 ว่า 

“เงื่อนไขในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ ในการทำให้มันสวย ให้มันดี เราไม่กลัวเลย เพราะเราคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่เราทำมาตลอด เป็นสิ่งที่เราประเมินว่า เราทำได้ดีที่สุด เราเป็นนักบริหารความคิดสร้างสรรค์ ไม่ใช่นักบริหารธุรกิจ” 




ความคิดสร้างสรรค์ของ ศักดิ์ชัย กาย ที่คนทั่วไปได้สัมผัสตลอดมา นอกจากจะถูกหลอมรวมไว้ในทุกพื้นที่ของหน้านิตยสารแล้ว ยังมีภาพของความเป็น “นักจัดดอกไม้” และ “ช่างภาพ” ที่บางคนจดจำภาพของเขาในด้านนี้มากกว่าการเป็น บก.บห. เสียด้วยซ้ำ 

แม้เขาจะบอกว่าที่ผ่านมาจัดดอกไม้เป็นงานอดิเรก และงานถ่ายภาพก็เป็นงานอาชีพที่ทำมากว่า 30 ปี 

แต่เพราะงานดอกไม้ที่เขาจัด มักอลังการงานสร้างอยู่ในงานใหญ่ๆที่ใครต้องพูดถึง อาทิ งานดอกไม้ประจำปี ของ โรงแรมสวิสโฮเต็ล ปาร์คนายเลิศ ที่ต่อเนื่องมาถึงปีที่ 24 ซึ่งเขาบอกว่ามีโอกาสเข้าไปช่วย ท่านผู้หญิงเลอศักดิ์ สมบัติศิริ นับตั้งแต่เริ่มแรก และหลายโอกาสที่จัดให้กับบุคคลที่มีชื่อเสียง โดยเฉพาะในงานศพ อาทิ ครอบครัวสถาปิตานนท์,พินิจ สมบัติศิริ,ท่านผู้หญิงวิยะฎา กฤดากร ณ อยุธยา,หม่อมวิภา (จักรพันธุ์ ณ อยุธยา) เก่งระดมยิง,ศาสตราจารย์ หม่อมเจ้า สุภัทรดิศ ดิศกุล ฯลฯ 

“ผมเคยทำให้คนมาเป็นร้อยแล้ว แต่ไม่ใช่ว่าทำให้เฉพาะคนที่มีชื่อเสียง แต่คนที่ผมทำให้ส่วนมากจะเป็นคนที่มีชื่อเสียง เป็น พ่อ, แม่,ญาติ เพื่อน และพี่ๆน้องๆกัน คือถ้าไม่รู้จักกันเลยแล้วไปทำให้ มันก็ไม่ใช่” 

เอกลักษณ์ในงานจัดดอกไม้ของเขา คือความเป็นสมัยใหม่ที่ไม่ยึดติดกับรูปแบบใดๆและมีความแปลก แม้ไม่ใช่งานที่สวยหยดย้อย แต่เป็นอะไรที่ผู้คนจะต้องหยุดดู 

“จะด้วยวัสดุที่ใช้หรือรูปแบบที่นำเสนอก็ดี มันจะดูแปลกแหวกแนวกว่าชาวบ้าน และสไตล์การจัดดอกไม้ของผมจะเป็นลักษณะ Installation หรือ การจัดวาง มากกว่า จับนู่นจับนี่มาผสมผสานกัน อาจจะไม่ใช่ดอกไม้อย่างเดียว 

และผมเป็นคนไม่ค่อยติดยึดกับดอกไม้ เป็นดอกอะไรก็ได้ที่ผมคิดว่ามันเข้ากันได้ ในธรรมชาติมันมีอะไรเยอะแยะให้เราหยิบจับมาทำ ไม่ว่าจะเป็น กิ่งไม้ ใบไม้ ฯลฯ คือผมจะไม่ไปมุ่งเน้นว่าต้องดอกอะไร ขึ้นอยู่กับความคิดที่มันเกิดขึ้นมาในแต่ละครั้ง ว่ามันทำให้เราอยากจะใช้อะไร 

ปัจจุบันผมไม่ค่อยให้ดอกไม้จูงเราไปเท่าไหร่ สมัยก่อนอาจจะต้องดอกนั้นดอกนี้เท่านั้น ระยะหลังผมค่อนข้างจะให้ความสำคัญกับ conceptual design มากกว่าที่จะให้ดอกไม้พาไป” 

 




ด้านงานภาพถ่าย หลังจากที่ได้รับทุนบริติช เคาน์ซิลไปเรียนภาษาอังกฤษที่ Cambrigde School ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และ เรียนถ่ายภาพที่ สถาบัน Sinar ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จึงได้เริ่มต้นงานถ่ายภาพแฟชั่นครั้งแรก ที่นิตยสาร “ดิฉัน” เรื่อยมาจนถึง “พลอยแกมเพชร” และ LIPS ที่เขาเป็นผู้กุมบังเหียร 

“ผมเป็น บก.ที่ทำงาน production เยอะที่สุดในปฐพี” 

นี่เป็นเหตุที่ทำให้คนที่พลิกหน้านิตยสาร LIPS อ่าน ได้เห็นเขาทำหน้าที่ บก.บห. มากกว่าการเขียนบทความและ บทบรรณาธิการ แต่ยังมีผลงานภาพถ่าย ในนามปากกา S.GUY แทรกอยู่ในหลายๆหน้า ทั้งแฟชั่น ,บทสัมภาษณ์ และ advertorial 

แต่สิ่งที่ทำให้ผู้คนจดจำเขาในฐานะของช่างภาพ นอกจากผลงานภาพถ่ายแฟชั่น คือ ภาพถ่ายดอกไม้ ที่นำเสนอไว้ในหน้า LIPS ESSENCE มาตั้งแต่ LIPS ฉบับแรกวางแผง ราวเป็นแกลเลอรี่ภาพดอกไม้ส่วนตัวของ S.GUY ที่ผู้อ่านรอคอยเปิดชมทุกปักษ์ และลุ้นว่าปักษ์นี้จะเป็นดอกอะไร 

ที่ตื่นตาตื่นใจเป็นพิเศษ คือการที่เขาสามารถทำให้แบรนด์ชั้นนำเชื่อและคล้อยตาม กับไอเดียเปลี่ยนภาพโฆษณาผลิตภัณฑ์เป็นภาพดอกไม้ทั้งเล่ม ซึ่งเราเคยเห็นกันมาแล้วใน LIPS ฉบับปฐมฤกษ์และฉบับครบรอบ 10 ปี 

จึงไม่มีผู้อ่านรายไหนที่อยากจะพลิกหน้าโฆษณาในวาระนั้นให้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพราะมัวแต่รื่นรมย์อยู่ในสวนดอกไม้ของ S. GUY ที่ลงตัวเหมาะเจาะกับบุคคลิกของแบรนด์แต่ละแบรนด์นั่นเอง 

ช่างคุ้มค่ากับการที่ กอง บ.ก.ไปตระเวณซื้อหาดอกไม้จากทั่วโลก เพื่อทำให้ LIPS ก้าวสู่ปีที่ 11 อย่างสง่างาม 

“การที่เราทำหนังสือแฟชั่น เราก็ถูกมองว่าไร้สาระอยู่แล้ว ดังนั้นเราจะเป็นหนังสือแฟชั่นที่วางอยู่บนแผงเล่มหนึ่งที่มันดูไร้สาระหรือเปล่า มันไม่ใช่ แต่เราต้องเป็นผู้นำ เขาจะได้เห็นว่า เรามีความรัก มีความผูกพันกับอาชีพที่เราทำอยู่ เพราะฉนั้นเราต้องการให้เห็นว่า สิ่งที่เราทำ มันมีมูลค่า มีประโยชน์กับสังคม” 

 




ศักดิ์ชัยเคยบอกว่า คลังภาพของเขาน่าจะมีไฟล์ภาพดอกไม้มากเป็นล้านไฟล์แล้ว เพราะดอกไม้ดอกเดียว ต้องถูกเขาจับถ่ายทั้งด้าน ซ้าย ขวา บน ล่าง รวมทั้งถูกฉีกออกมาถ่ายทุกอณู 

“ผมไม่อยากให้มันถูกตัดมาแล้วนอนตายตาไม่หลับ อยากให้ดอกไม้ที่มาอยู่ในมือผมภูมิใจว่ามันได้สร้างความสุขให้คนมากมายในโลกนี้” 

เอกลักษณ์ในงานภาพถ่ายดอกไม้ของเขา คือภาพที่ดูนิ่งๆซึ่งนำเสนอความงามอย่างที่เป็นอยู่ 

“ภาพของผมมันแสนจะธรรมดา และนิ่งๆ ไม่ต้องการเทคนิคอะไรมากมาย เรามองความสวยงามอย่างที่มันเป็นอยู่ เด็กรุ่นใหม่ๆ จะไปให้ความสำคัญในเรื่องเทคโนโลยี เรื่องเทคนิคจนเกินความจำเป็น จนเราไม่รู้ว่าเราต้องการทำอะไร แฟชั่น หรือความสวย มันคืออะไร และอะไรคือความพอดี 

การถ่ายภาพมันต้องอาศัยประสบการณ์ของแต่ละคนที่มันจะหมักบ่มความเชี่ยวชาญ ให้มันได้ขนาดนี้ ในภาพๆหนึ่งมันต้องอาศัยความแน่ในการวางองค์ประกอบ ความเชี่ยวชาญในการเลือกดอกไม้ และต้องอาศัยหลายสิ่งหลายอย่างประกอบกัน มันไม่ใช่ได้มาง่ายๆ 

คุณต้องมีศิลปะที่เป็นพรสวรรค์ประจำตัว ทุกคนมี เพียงแต่ต้องเปิดลิ้นชักที่เป็นพรสวรรค์ของคนๆนั้นออกมาให้ได้ ทุกคนมีพรสวรรค์เท่ากันหมด แต่การเอาออกมาใช้ไม่เท่ากัน” 

ไม่มีภาพดอกไม้ภาพไหน คือมาสเตอร์พีชในใจเขา เพราะความสุขของเขาก็ไม่ต่างจากเรา รอดูว่าเมื่อไหร่ภาพใหม่ๆจะถูกตีพิมพ์ 

 



คลุกคลีกับงานแฟชั่นมาแล้วทุกสเกล เดินทางมาแล้วทั่วโลก มาถึงตอนนี้เขาบอกว่าอยากทำงานในที่ซึ่งปลอดจากความวุ่นวายมากกว่า และการถ่ายภาพดอกไม้ก็ยังเป็นงานที่รักจะทำและอยากทำให้ดีที่สุด 

“ช่างภาพสมัยใหม่มาถึงก็อยากถ่ายแฟชั่นเลย อยากถ่ายนู่นอยากถ่ายนี่ ผมกลับคิดตรงข้าม อยากทำงานอะไรที่มันสงบๆ นิ่งๆ ถ่ายของชิ้นเล็กๆ หรือ ถ่ายดอกไม้ ช่างภาพที่ลิปส์ เขาจะรู้ว่าผมทำได้ทุกอย่าง อะไรก็ได้ที่ไม่ต้องยุ่งกับใคร 

ผมเป็นคนที่ขัดแย้งกับความเป็นจริงในสิ่งที่ทำอยู่ คือคนคิดว่าทำแฟชั่นแล้วคงจะชอบเฮฮาปาร์ตี้ แต่คนไม่ค่อยได้เห็นผมไปเที่ยวไหนหรอก เพราะผมไม่ชอบ ชอบอยู่บ้านทำสวน ทำอะไรที่ค่อนข้างจะส่วนตัว 

อย่างที่บอกผมถ่ายแฟชั่นมา 30 กว่าปี ปวดหัวจะตาย เพราะต้องเจอคนเยอะ ผมคิดว่าการที่เราทำงานกับดอกไม้ มันเหมือนเราทำสมาธิ มีเวลาได้อยู่กับมัน และเรามีความสุขกับสิ่งที่ทำอยู่ มันเป็นการเจริญสติได้เหมือนกัน ถ้าต้องทำงานที่กดดัน บีบคั้น ทำให้ไม่อยากประชุม ไม่อยากทำงาน มันก็ทำอะไรไม่ได้ดี 

การถ่ายภาพดอกไม้ มันยังเป็นงานศิลปะที่เราชอบ ณ ปัจจุบันนี้ เราเคยทำอะไรที่มันอึกทึกครึกโครมมาเยอะแยะ พอมาทำอันนี้แล้ว เรารู้สึกว่าเรามีความสุข เฮ้ย มันก็สวยดี ใครเห็นใครก็ชอบ แล้วยังสามารถที่จะเอามาเป็นประโยชน์กับผู้อ่านเราได้ด้วย ดูซิใครจะคิดว่า ภาพดอกไม้ภาพนึงมันจะเป็นงานโฆษณาได้” 

เขาคนนี้มีพื้นที่ส่วนตัวให้หันหน้าเข้าหาแล้ว แล้วคุณหล่ะ มุมไหนกันคือพื้นที่ส่วนตัว ที่ซึ่งคุณจะรู้สึกได้ถึงความมีอิสระ มีความสุขและสามารถเจริญสติไปด้วยพร้อมๆกัน 

 

 

โดย: ฮักก้า ​ภาพ: สมเกียรติ กังสดาลวิรุฬห์ 
ที่มา: ASTVผู้จัดการออนไลน์ / 21 มีนาคม 2554

Views: 861

Reply to This

Replies to This Discussion

ความน่ิง สงบ ที่ดูแล้วไม่น่ิง ชอบงานภาพถ่ายรูปดอกไม้ภาพขาวดำ งานดูมีเสน่ห์มากค่ะ

RSS

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service